ต่างมากครับ m รอบเครื่องจะสูงกว่า d หลายเท่า เพราะถ้าใช้ m อยู่ถ้ารืมเข้าเกียร์ รอบเครื่องจะไปสุดเลยก่อนที่จะเปลี่ยนเกียร์ให้อีกที แต่ถ้า s จะต่างกับ d นิดหน่อยครับ
ขออภัยที่คำถามไม่ชัดเจนครับ
คือจะเริ่มใช้ระบบเกียร์แบบ M1 2 3 4 5เมื่อรถจอดอยู่ และจะใช้ต่อเนื่องไปเป็นะยะทาง 100km.
ขับลักษณะแบบใช้งานปรกติทั้งในเมือง และนอกเมือง
ขอบคุณครับ
ถ้างั้นต้องใช้ความรู้สึกร้วนๆแล้วครับ ฟังทั้งเสียงเครื่องยนต์และต้องดูรอบเครื่องตลอดเช่นกันและอื่นๆอีก หรือนึกถึงการขับรุเกียร์กระปุกก็ได้ครับ การเปลี่ยนเกียร์จะเหมือนกัน เพียงแค่เราไม่ต้องเยียบคลัทชแค่นั้นเองครับ.... แต่ถ้าอยู่เกียร์ 5 แล้วเกิดลดความเร็วกระทันหัน แล้วเรารืมถอนเกียร์ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เกียร์มันจะถอนให้เหลือเกียร์ตำ่ๆให้เอง แต่จะไม่ตำ่กว่าเกียร์ 2 ครับ
หรือลองซ้อมขับดูก่อนครับ เพราะถ้าท่านไม่ชิน ท่านรืมเข้าเกียร์แน่นอน
และการสิ้นเปรือง ขึ้นอยู่ว่าคุณเปลี่ยนเกียร์ที่รอบเท่าไหร และรือเปลี่ยนเกียร์ด้วยหรือเปล่าว
วันนี้ขับใช้ระบบ M1 -5อย่างเดียวจากซ.อารี ไปกลับบางกะปิ
ยังหลงๆ ไม่ค่อยชิน กล่าวคือยังหลงว่าขาขวาต้องถอนจากคันเร่งก่อน ถึงจะเปลี่ยนเกียร์
และไม่ต้องลดคันเร่งด้วย เมื่อความเร็วรอบลดลงเกียร์จะลดมาให้ด้วยตามที่คุณAwirutบอก
การขับแบบM ช่วงรถออกตัวM1 -3แรก ดูเหมือนรถออกแรงขึ้นตามกำลังกดคันเร่ง
รอบเครื่องจะสูงขึ้นด้วย ส่วน4 -5 ไม่ต่างจากระบบauto เลย
ถ้าอย่างันพอจะอนุมานได้ว่า ใช้ระบบเกียร์Mมันน่าจะกินน้ำมันมากกว่า