BMW E46 Thailand

พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => ถาม-ตอบ ปัญหา => ข้อความที่เริ่มโดย: tongite ที่ พฤศจิกายน 02, 2012, 19:29:28

หัวข้อ: สอบถามเรื่องน้ำมันเกียร์ M52TU 323
เริ่มหัวข้อโดย: tongite ที่ พฤศจิกายน 02, 2012, 19:29:28
1 ถ้าผมเปลื่ยนน้ำมันเกียร์ จะเติมกี่ลิตร บางท่านบอกว่า เอาแค่ล้นปากรูน๊อต 6 ลิตร บางท่านบอกว่าให้อัดไปในระบบ 8 ลิตร
2 แล้วน้ำมันผมต้องใช้ Dexron 3 หรือ Dexron 6  โดยมีข้อมุลดังนี้
บางท่านก็บอกว่ากียร์ทุกลูกที่ว่ามาผลิตโดย GM ครับ รหัสของบริษัทคือ GM5 ทั้งหมด ก้มดูใต้ท้องรถข้างเกียร์มีเขียนบอกว่าเป็นรุ่นนี้รึเปล่าบริษัท GM ใช้น้ำมันเกียร์ที่เรียกว่า Dexron ครับ เกียร์พวกนี้ผลิตก่อน Dexron VI จะเกิด
Dexron กำหนดโดย GM ครับ GM เป็นคนกำหนดมาตรฐานนี้ Dexron III คือตัวล่าสุดที่จะมีก่อน Dexron VI จะเกิด
อย่าให้ใครมาเป่าหูคุณได้ว่าต้องใช้ Dexron VI มันเป็นไปไม่ได้ทีี่ "ต้องใช้" เพราะน้ำมันเกียร์เกิดที่หลังเกียร์ จากบริษัทเดียวกัน
3 ศุนย์บอกว่าน้ำมันเกียรรับประกันตลอดอายุ แต่ก็มีครบอกว่าไม่จิงเพราะศูนย์ต้องการให้เกียรพังเพื่อจพขายเกียร์ยกลุก

   ใครพอมีความรู้รบกวนบอกหน่อยแล้วกัน ถ้าเปลื่ยนจะใช้กี่ลิตร ตกลงใช้  Dexron อะไร
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องน้ำมันเกียร์ M52TU 323
เริ่มหัวข้อโดย: Awirut ที่ พฤศจิกายน 02, 2012, 19:57:40
ถ้าล้างทั้งระบบ ต้องเติม 8-9 ลิตรครับ
แต่ถ้าถ่ายออกเฉยๆ เติม 6 ลิตรครับ เพราะนำ้มันมันยังค้างอยู่ในลูกท๊อคอีกประมาณ 3 ลิตรครับ

ส่วนที่ว่าจะใช้แบบไหน...dexron 3 ก็ใช้ได้ แต่ผมใช้ตัว VI ครับเพราะมันดีกว่า..ผมถึงเลือกใช้ตัวนี้นะครับ
และที่ 0 บอกใช้ได้ตลอดอายุการใช้งานนั้น จริงครับ แต่รถประเทศอืนเขาใช้กันไม่เกิน 5 ปีนะครับ แต่ของเราใช้กันที 10-20 ปีเป็นอย่างตำ่ และนำ้มันที่ไหนมันจะทนได้ละครับท่าน
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องน้ำมันเกียร์ M52TU 323
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 02, 2012, 23:03:02
ลักษณะแบบนี้

ถ้าไม่ติดเรื่องอะไร แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายกับศูนย์บริการดีกว่าครับ จะได้ไม่มีปัญหาอะไรคาใจครับ ใช้ได้แน่ๆแต่เปลืองไปหน่อยเท่านั้นเองครับ

ส่วนถ้าจะใช้ของข้างนอก เห็นเดี๋ยวนี้เขาก็ใช้กันหลายท่านแล้วนะครับ ที่เห็นก็ยังไม่มีปัญหาอะไรกันครับ จะของ zic valvoline mobil castrol ก็ตามสะดวกครับ ส่วน dexron จะ 3 จะ 6 ถ้าส่วนตัวผมเอา 6 ครับ สเป็คสูงย่อมน่าใช้กว่าครับ

เรื่องจำนวนลิตร ถ้าถ่ายแบบปกติก็ประมาณ 6.5 ลิตร ครับ พร้อมกรอง แต่ถ้าเปลี่ยนแบบยกเกียร์ลงมาเห็นว่าจะได้ 8 ลิตร และได้เปลี่ยนซีลท้ายเครื่องไปพร้อมกันเลยทีเดียวครับ ส่วนระบบล้าง อันนั้นใช้น้ำมันหลายแบบในการล้างครับ ต้องมีเครื่องในการอัดน้ำมันเข้าออก

ถ้าเอาสบายใจก็ลองเปลี่ยนถ่ายแบบปกติ 6.5 ลิตร พร้อมกรอง แล้วอาศัยเปลี่ยนถ่ายบ่อยหน่อยในตอนแรกสัก 20000 โลถ่ายทีเอาสัก 2 ครั้ง ครั้งต่อไปก็เปลี่ยนถ่ายแบบปกติทุก 4-50000 โลครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องน้ำมันเกียร์ M52TU 323
เริ่มหัวข้อโดย: Jeeranapong B. ที่ พฤศจิกายน 02, 2012, 23:20:35
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ลักษณะแบบนี้

ถ้าไม่ติดเรื่องอะไร แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายกับศูนย์บริการดีกว่าครับ จะได้ไม่มีปัญหาอะไรคาใจครับ ใช้ได้แน่ๆแต่เปลืองไปหน่อยเท่านั้นเองครับ

ส่วนถ้าจะใช้ของข้างนอก เห็นเดี๋ยวนี้เขาก็ใช้กันหลายท่านแล้วนะครับ ที่เห็นก็ยังไม่มีปัญหาอะไรกันครับ จะของ zic valvoline mobil castrol ก็ตามสะดวกครับ ส่วน dexron จะ 3 จะ 6 ถ้าส่วนตัวผมเอา 6 ครับ สเป็คสูงย่อมน่าใช้กว่าครับ

เรื่องจำนวนลิตร ถ้าถ่ายแบบปกติก็ประมาณ 6.5 ลิตร ครับ พร้อมกรอง แต่ถ้าเปลี่ยนแบบยกเกียร์ลงมาเห็นว่าจะได้ 8 ลิตร และได้เปลี่ยนซีลท้ายเครื่องไปพร้อมกันเลยทีเดียวครับ ส่วนระบบล้าง อันนั้นใช้น้ำมันหลายแบบในการล้างครับ ต้องมีเครื่องในการอัดน้ำมันเข้าออก

ถ้าเอาสบายใจก็ลองเปลี่ยนถ่ายแบบปกติ 6.5 ลิตร พร้อมกรอง แล้วอาศัยเปลี่ยนถ่ายบ่อยหน่อยในตอนแรกสัก 20000 โลถ่ายทีเอาสัก 2 ครั้ง ครั้งต่อไปก็เปลี่ยนถ่ายแบบปกติทุก 4-50000 โลครับ

ผมไม่รู้ว่าเรามีความจำเป็นแค่ไหนครับสำหรับการล้างเกียร์ทั้งระบบ ถ้าผมอาศัยถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆจะเทียบกับการล้างทั้งระบบได้ไหม เช่น 5000 โล แล้วก็ถ่ายใหม่อีกครั้ง คือถ่าย 2 ครั้ง แล้วก็ใช้ไปยาวเลย เกียร์ของผมจะสะอาดไหมครับ หรือมันมีอะไรที่การล้างเกียร์ทั้งระบบจะช่วยได้มากกว่าการเปลี่ยนบ่อยๆครับ ผมกำลังตัดสินใจเรื่องนี้เหมือนกัน แล้วก็เห็นมีการแยกออยเกียร์ด้วย คิดว่าจะทำด้วยเหมือนกัน ผมควรเริ่มทำอะไรก่อนครับ  :-X
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องน้ำมันเกียร์ M52TU 323
เริ่มหัวข้อโดย: kamphola ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 01:26:42
ผมก็กำลังลังเลครับ ว่าจะเปลี่ยนกับศูนย์หรือเปลี่ยนข้างนอกดี ราคาก็ต่างกัน 3-4 เท่าตัว
ทั้งที่ตอนแรกมั่นใจชัวร์แล้วว่าเอาข้างนอกแน่ๆหลังจากค้นหาข้อมูล-รีวิวจากหลายๆท่าน
แต่เมื่อวานเอารถเข้าศูนย์เพื่อ check 200,000 km. มา ก็คุยกับช่างที่คุ้นเคยกันดี
แกบอกขอร้องเลยว่าให้มาเปลี่ยนที่ศูนย์ อะไรอยากทำข้างนอกก็ไม่เป็นไร แต่เรื่องเกียร์นี่พี่ขอ
และยังบอกว่า ถ้ามันยังทำงานสมบูรณ์อยู่ก็อย่าเพิ่งไปยุ่งกับมัน ไว้รอวิ่งสัก 80,000 km. ค่อยมา
(รถผมวิ่งไป 50,000 km. หลังจากเปลี่ยนไปครั้งสุดท้าย แต่ก็เมื่อปี 2007 โน่น)
สิ่งที่ทำให้ผมเอียงกลับไปที่ศูนย์อีกคือ แกว่ารับประกันเกียร์ให้ 2 ปีด้วย
สำหรับราคาที่ผมถามมาคือ
กรองพร้อมปะเก็นแคร้งเกียร์ 4,xxx บาท
นมก.8 ลิตร แบ่งเป็นแกลลอนละ 4 ลิตร 2,920 x 2 = 5,8xx บาท
ค่าแรงประมาณ 1,000 บาท
รวมๆแล้วก็ประมาณ 12,xxx บาทหลังรวม vat แล้ว
ถ้าเปลี่ยนข้างนอก อย่างเก่งก็ลิตรละ 240 บาท กรอง+ประเก็น 1,500
ลองเทียบดูครับ
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องน้ำมันเกียร์ M52TU 323
เริ่มหัวข้อโดย: yo-e46 ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 02:02:23
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ลักษณะแบบนี้

ถ้าไม่ติดเรื่องอะไร แนะนำให้เปลี่ยนถ่ายกับศูนย์บริการดีกว่าครับ จะได้ไม่มีปัญหาอะไรคาใจครับ ใช้ได้แน่ๆแต่เปลืองไปหน่อยเท่านั้นเองครับ

ส่วนถ้าจะใช้ของข้างนอก เห็นเดี๋ยวนี้เขาก็ใช้กันหลายท่านแล้วนะครับ ที่เห็นก็ยังไม่มีปัญหาอะไรกันครับ จะของ zic valvoline mobil castrol ก็ตามสะดวกครับ ส่วน dexron จะ 3 จะ 6 ถ้าส่วนตัวผมเอา 6 ครับ สเป็คสูงย่อมน่าใช้กว่าครับ

เรื่องจำนวนลิตร ถ้าถ่ายแบบปกติก็ประมาณ 6.5 ลิตร ครับ พร้อมกรอง แต่ถ้าเปลี่ยนแบบยกเกียร์ลงมาเห็นว่าจะได้ 8 ลิตร และได้เปลี่ยนซีลท้ายเครื่องไปพร้อมกันเลยทีเดียวครับ ส่วนระบบล้าง อันนั้นใช้น้ำมันหลายแบบในการล้างครับ ต้องมีเครื่องในการอัดน้ำมันเข้าออก

ถ้าเอาสบายใจก็ลองเปลี่ยนถ่ายแบบปกติ 6.5 ลิตร พร้อมกรอง แล้วอาศัยเปลี่ยนถ่ายบ่อยหน่อยในตอนแรกสัก 20000 โลถ่ายทีเอาสัก 2 ครั้ง ครั้งต่อไปก็เปลี่ยนถ่ายแบบปกติทุก 4-50000 โลครับ

ผมไม่รู้ว่าเรามีความจำเป็นแค่ไหนครับสำหรับการล้างเกียร์ทั้งระบบ ถ้าผมอาศัยถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆจะเทียบกับการล้างทั้งระบบได้ไหม เช่น 5000 โล แล้วก็ถ่ายใหม่อีกครั้ง คือถ่าย 2 ครั้ง แล้วก็ใช้ไปยาวเลย เกียร์ของผมจะสะอาดไหมครับ หรือมันมีอะไรที่การล้างเกียร์ทั้งระบบจะช่วยได้มากกว่าการเปลี่ยนบ่อยๆครับ ผมกำลังตัดสินใจเรื่องนี้เหมือนกัน แล้วก็เห็นมีการแยกออยเกียร์ด้วย คิดว่าจะทำด้วยเหมือนกัน ผมควรเริ่มทำอะไรก่อนครับ  :-X
คงจะเทียบไม่ได้และไม่มีความจำเป็นเลยครับ น้ำมันเกียร์ตามคู่มือคือตลอดอายุด้วยซ้ำแต่เราควรถ่านที่ 40000โลอย่างน้อยตามคำแนะนำของช่างครับ ผมว่ามีทำออยเกียร์ก่อนดีกว่าครับแล้วค่อยมาถ่ายทิ้งย่าจะเหมาะสมกว่า
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องน้ำมันเกียร์ M52TU 323
เริ่มหัวข้อโดย: yo-e46 ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 02:06:02
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ผมก็กำลังลังเลครับ ว่าจะเปลี่ยนกับศูนย์หรือเปลี่ยนข้างนอกดี ราคาก็ต่างกัน 3-4 เท่าตัว
ทั้งที่ตอนแรกมั่นใจชัวร์แล้วว่าเอาข้างนอกแน่ๆหลังจากค้นหาข้อมูล-รีวิวจากหลายๆท่าน
แต่เมื่อวานเอารถเข้าศูนย์เพื่อ check 200,000 km. มา ก็คุยกับช่างที่คุ้นเคยกันดี
แกบอกขอร้องเลยว่าให้มาเปลี่ยนที่ศูนย์ อะไรอยากทำข้างนอกก็ไม่เป็นไร แต่เรื่องเกียร์นี่พี่ขอ
และยังบอกว่า ถ้ามันยังทำงานสมบูรณ์อยู่ก็อย่าเพิ่งไปยุ่งกับมัน ไว้รอวิ่งสัก 80,000 km. ค่อยมา
(รถผมวิ่งไป 50,000 km. หลังจากเปลี่ยนไปครั้งสุดท้าย แต่ก็เมื่อปี 2007 โน่น)
สิ่งที่ทำให้ผมเอียงกลับไปที่ศูนย์อีกคือ แกว่ารับประกันเกียร์ให้ 2 ปีด้วย
สำหรับราคาที่ผมถามมาคือ
กรองพร้อมปะเก็นแคร้งเกียร์ 4,xxx บาท
นมก.8 ลิตร แบ่งเป็นแกลลอนละ 4 ลิตร 2,920 x 2 = 5,8xx บาท
ค่าแรงประมาณ 1,000 บาท
รวมๆแล้วก็ประมาณ 12,xxx บาทหลังรวม vat แล้ว
ถ้าเปลี่ยนข้างนอก อย่างเก่งก็ลิตรละ 240 บาท กรอง+ประเก็น 1,500
ลองเทียบดูครับ
.
ต้องยอมรับครับว่าของเหลวโดยเฉพาะของ 0 ที่เกียร์เนี่ย ของ 0 เค้าดีจริงๆครับสเปคตรงรุ่นแน่ๆแต่ข้างนอกก็ทำได้เหมือนกันครับแต่น้ำมันอาจไม่ตรงสเปค 100เปอร์เซ็นครับ เพราะฉะนั้นอายุการใช้งานก้ต่างกันครับ ของ 0นานกว่าแน่ๆครับพี่ ผมว่าถ้างบเราถึงจริงๆกัดฟัน 0 สบายใจกว่าแถมผมเคยถามว่าถ้าถ่านที่ 0 แล้วตรวจสาเหตุพบว่าเป็นที่น้ำมันเกียร์ที่ถ่ายไปแล้วเกียร์พีงมีประกันให้ด้วยครับผมถามมาที่ บาซ่า รองเมืองนะครับ ยังไงลองถามอีกทีแต่ผมว่ากัดฟัน 0 ไปเลยใช้ยาวๆครับแต่แพงจริง แต่ถามผมๆว่าเรื่องเกียร์ไม่ใช่เรื่องเล่นน่าจ่ายมากครับ ผลกับมาสบายใจและคุ้มค่าแน่ๆครับผม
หัวข้อ: Re: สอบถามเรื่องน้ำมันเกียร์ M52TU 323
เริ่มหัวข้อโดย: Jeeranapong B. ที่ พฤศจิกายน 03, 2012, 22:18:13
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ผมก็กำลังลังเลครับ ว่าจะเปลี่ยนกับศูนย์หรือเปลี่ยนข้างนอกดี ราคาก็ต่างกัน 3-4 เท่าตัว
ทั้งที่ตอนแรกมั่นใจชัวร์แล้วว่าเอาข้างนอกแน่ๆหลังจากค้นหาข้อมูล-รีวิวจากหลายๆท่าน
แต่เมื่อวานเอารถเข้าศูนย์เพื่อ check 200,000 km. มา ก็คุยกับช่างที่คุ้นเคยกันดี
แกบอกขอร้องเลยว่าให้มาเปลี่ยนที่ศูนย์ อะไรอยากทำข้างนอกก็ไม่เป็นไร แต่เรื่องเกียร์นี่พี่ขอ
และยังบอกว่า ถ้ามันยังทำงานสมบูรณ์อยู่ก็อย่าเพิ่งไปยุ่งกับมัน ไว้รอวิ่งสัก 80,000 km. ค่อยมา
(รถผมวิ่งไป 50,000 km. หลังจากเปลี่ยนไปครั้งสุดท้าย แต่ก็เมื่อปี 2007 โน่น)
สิ่งที่ทำให้ผมเอียงกลับไปที่ศูนย์อีกคือ แกว่ารับประกันเกียร์ให้ 2 ปีด้วย
สำหรับราคาที่ผมถามมาคือ
กรองพร้อมปะเก็นแคร้งเกียร์ 4,xxx บาท
นมก.8 ลิตร แบ่งเป็นแกลลอนละ 4 ลิตร 2,920 x 2 = 5,8xx บาท
ค่าแรงประมาณ 1,000 บาท
รวมๆแล้วก็ประมาณ 12,xxx บาทหลังรวม vat แล้ว
ถ้าเปลี่ยนข้างนอก อย่างเก่งก็ลิตรละ 240 บาท กรอง+ประเก็น 1,500
ลองเทียบดูครับ
.
ต้องยอมรับครับว่าของเหลวโดยเฉพาะของ 0 ที่เกียร์เนี่ย ของ 0 เค้าดีจริงๆครับสเปคตรงรุ่นแน่ๆแต่ข้างนอกก็ทำได้เหมือนกันครับแต่น้ำมันอาจไม่ตรงสเปค 100เปอร์เซ็นครับ เพราะฉะนั้นอายุการใช้งานก้ต่างกันครับ ของ 0นานกว่าแน่ๆครับพี่ ผมว่าถ้างบเราถึงจริงๆกัดฟัน 0 สบายใจกว่าแถมผมเคยถามว่าถ้าถ่านที่ 0 แล้วตรวจสาเหตุพบว่าเป็นที่น้ำมันเกียร์ที่ถ่ายไปแล้วเกียร์พีงมีประกันให้ด้วยครับผมถามมาที่ บาซ่า รองเมืองนะครับ ยังไงลองถามอีกทีแต่ผมว่ากัดฟัน 0 ไปเลยใช้ยาวๆครับแต่แพงจริง แต่ถามผมๆว่าเรื่องเกียร์ไม่ใช่เรื่องเล่นน่าจ่ายมากครับ ผลกับมาสบายใจและคุ้มค่าแน่ๆครับผม

แล้วถ้าไปทำออยเกียร์มาแล้ว ศูนย์จะถ่ายน้ำมันเกียร์ให้ป่าวเนี่ยโย  ???