BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => ถาม-ตอบ ปัญหา => ข้อความที่เริ่มโดย: Ryan_E46 ที่ พฤษภาคม 01, 2012, 02:09:36
-
พอดีว่า ตอนออกตัวเครื่องมันอืดนิดหน่อย แถมรอบขึ้นสูงด้วยครับ
ก็เลยไม่แน่ใจว่าจะมีผลกับการกินน้ำมันด้วยหรือไม่
จึงขอสอบถามเพื่อนๆ พี่ๆ ว่าปกติเติมน้ำมันเต็มถังมันควรจะวิ่งได้ประมาณกี่กิโลเมตรครับ
ของผม 323ia วิ่งในเมืองได้ประมาณเกือบๆ 300 โลเองครับ ไม่ทราบว่าปกติมั้ยครับ
ขอบคุณครับ
-
(http://i1237.photobucket.com/albums/ff471/krisada513/e461.gif)
318iase N42 2003 ถังน้ำมัน 63 ลิตร ( สำรอง 8 ลิตร ) ขับถึงไฟแดงสัญาณเตือนให้เติมน้ำมัน ( ยังมีสำรองในถัง )
จะได้ 465 - 480 กม. ครับ
โดยขับในเมืองกรุงเทพฯ และ ขับเร็วบ่อย เนื่องจากใช้บูสเตอร์คันเร่ง กดรอบขึ้นสูงบ่อย เนื่องจากมันขับสนุก ( ฮ่า )
เติมเอสโซ่ หรือ เชลล์ โซฮออล์ 95 / ค่อนข้างพอใจมากครับ เป็นอีกหลายเหตุผล ที่เลือกรถ 318
:bingo
-
500-600 km.ครับ
-
แบบนี้รถผม m52 ปี 2001 ขับได้แค่ประมาณ300โล ก็ไม่ปกติสิครับเนี่ย
ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับที่รถมันออกตัวรอบสูงมั้ยครับ
ขอบคุณครับ
-
เครื่อง 328(2800 cc.) เต็มถังวิ่งในเมือง 500 กม. ถือว่าok.
เปรียบเทียบกับคันอื่นๆในบ้านถือว่าประหยัด
เครื่อง RB26 ในSkyline เต็มถัง300กว่าๆโล
เครื่อง H22AในPrelude 450 กม.,
เครื่อง S50B30 ในE36 ประมาณ 400 นิดๆ
แต่อาจจะเป็นเพราะลักษณะการขับด้วย เพราะทุกคันที่ว่ายกเว้น E46 เป็นเกียร์ธรรมดาทั้งหมด
-
เครื่อวรอบสูงถ้าออกตัวดี ไว ก็ไม่ผิดปกติหรอกครับ
ถ้ารอบสูงแล้วรถออกตัวอืดนี่ผืดปกติแน่ๆ
ส่วน 300 โลต่อถัง นี่ซิ กินน้ำมันมากเลย โดยเฉลี่ยประมาณ 5.5 กม.ต่อลิตร
ความจริงน่าจะ 7-7.5 กม./ลิตร สำหรับในเมือง หรือเต็มถังควรวิ่งได้ถึง 400 กม./ถัง
...ผมว่าออกตัวอืดรอบเครื่องสูงผิดปกติ น่าจะมีหลายท่านที่เป็นนะแต่จะมาบอกกล่าวหรือป่าว
ของผมก็เป็น กินน้ำมันมาก 320CI เครื่อง M54B22 2200 cc. (เจ้าของเดิมบอกว่าโอเวอร์ฮอลเกียร์มาใหม่) ได้รถมาแล้ว
ไปหาช่าง BMW เจ้าแรกบอกว่า...ปกติ ( เถึยงในใจว่ามันไม่ปกติแน่ๆ )
ไปตรวจเช็คน้ำมันเกียร์ขาดไปมาก...แล้วล้างเกียร์เติมน้ำมันเข้าไปใหม่ 8 ลิตรกว่า..ทดลองขับสักอาทิตย์..แค่ดีกว่าเดิมเล็กน้อย
ไปหาช่าง BMW รายที่สามบอกว่า...เกียร์มีปัญหา ค่าซ่อมประมาณ 60000.- (แพง..ไม่รู้จะดีขึ้นหรือป่าว)
ท้ายสุด...เปลี่ยนเกียร์มือสองจากญี่ปุ่น ( เกียร์โดยคุณสุเมธ ) น่าจะเป็รทางออกที่ดี...ผลคือ...ดีจริงๆ ออกตัวไม่อืดรอบไม่สูงมาก เปลี่ยนเกียร์เร็วในรอบต่ำกว่าเดิมมาก มีแรงขึ้น ขับสนุกกว่าเดิมมาก
แต่ก็ยังมีรอบสูงอยู่บ้างเป็นบางครั้ง และไปเปลี่ยน Pulley Lightweight มา ( ไม่เห็นผลแบบชัดเจน ) กะว่าจะลองไป Remap เพิ่มม้าอีกสักหน่อย....
อันนี้น่าจะเป็นการทำครั้งสุดท้ายแล้ว....พอแล้วคงได้แค่นี้ ( คราวหน้าขอเครื่อง 2500-3000 cc.ม้าเยอะๆ แล้วลองขับจนพอใจไปเลย )
-
เอาแล้วไง งานจะเข้าผมมั้ยเนี่ย
เดี๋ยวขอลองอีกถังหนึ่งก่อนว่าวิ่งได้เท่าไหร่
ขออย่าให้เกียร์เป็นอะไรเลยยยย :pray
-
ไม่เคยมีเงินเหลือเติมเต็มถังเลยครับ 5555555 ที่สำคัญผมเติมได้เฉพาะ 95 ไม่สามารถบริโภคโซฮอล์ได้เคยรักษามาหลายครั้งก็ยังไม่หายกินเข้าไปทีไรสำแดงฤทธิ์โดยฉับพลัน
ไว้แก้เรื่องอื่นเสร็จแล้วเดี๋ยวค่อยมาจัดการเรื่องนี้ใหม่ :redcard
-
พิสูจน์มาแล้ว รถผม E46 N42 เครื่อง 4 สูบ เติมวีเพาเวอร์ ของเชลล์ เต็มถังวิ่งจากชลบุรี-สุรินทร์ ระยะทาง 500 กม. เป๊ะๆ หน้าปัดโชว์ว่าน้ำมันเหลือ 1 ขีดครึ่งครับ ถ้านับเป็นตัวเงิน 1,750 บาทครับ เพราะผมเติมเต็มถังจากชลบุรี ถึงบ้านเติมให้เต็มถังอีกรอบจ่ายไปแค่ 1,750 บาท
ส่วนถ้าวิ่งในเมืองไม่ได้เก็บข้อมูลเลย แต่ก็งงๆ อยู่ว่าทำไมลดฮวบฮาบ..ฮ่าๆๆๆ
-
ไม่เคยมีเงินเหลือเติมเต็มถังเลยครับ 5555555 ที่สำคัญผมเติมได้เฉพาะ 95 ไม่สามารถบริโภคโซฮอล์ได้เคยรักษามาหลายครั้งก็ยังไม่หายกินเข้าไปทีไรสำแดงฤทธิ์โดยฉับพลัน
ไว้แก้เรื่องอื่นเสร็จแล้วเดี๋ยวค่อยมาจัดการเรื่องนี้ใหม่ :redcard
ทำไมเติมได้เฉพาะ 95 มันเป็นเครื่องอะไรครับ
-
เครื่อวรอบสูงถ้าออกตัวดี ไว ก็ไม่ผิดปกติหรอกครับ
ถ้ารอบสูงแล้วรถออกตัวอืดนี่ผืดปกติแน่ๆ
ส่วน 300 โลต่อถัง นี่ซิ กินน้ำมันมากเลย โดยเฉลี่ยประมาณ 5.5 กม.ต่อลิตร
ความจริงน่าจะ 7-7.5 กม./ลิตร สำหรับในเมือง หรือเต็มถังควรวิ่งได้ถึง 400 กม./ถัง
...ผมว่าออกตัวอืดรอบเครื่องสูงผิดปกติ น่าจะมีหลายท่านที่เป็นนะแต่จะมาบอกกล่าวหรือป่าว
ของผมก็เป็น กินน้ำมันมาก 320CI เครื่อง M54B22 2200 cc. (เจ้าของเดิมบอกว่าโอเวอร์ฮอลเกียร์มาใหม่) ได้รถมาแล้ว
ไปหาช่าง BMW เจ้าแรกบอกว่า...ปกติ ( เถึยงในใจว่ามันไม่ปกติแน่ๆ )
ไปตรวจเช็คน้ำมันเกียร์ขาดไปมาก...แล้วล้างเกียร์เติมน้ำมันเข้าไปใหม่ 8 ลิตรกว่า..ทดลองขับสักอาทิตย์..แค่ดีกว่าเดิมเล็กน้อย
ไปหาช่าง BMW รายที่สามบอกว่า...เกียร์มีปัญหา ค่าซ่อมประมาณ 60000.- (แพง..ไม่รู้จะดีขึ้นหรือป่าว)
ท้ายสุด...เปลี่ยนเกียร์มือสองจากญี่ปุ่น ( เกียร์โดยคุณสุเมธ ) น่าจะเป็รทางออกที่ดี...ผลคือ...ดีจริงๆ ออกตัวไม่อืดรอบไม่สูงมาก เปลี่ยนเกียร์เร็วในรอบต่ำกว่าเดิมมาก มีแรงขึ้น ขับสนุกกว่าเดิมมาก
แต่ก็ยังมีรอบสูงอยู่บ้างเป็นบางครั้ง และไปเปลี่ยน Pulley Lightweight มา ( ไม่เห็นผลแบบชัดเจน ) กะว่าจะลองไป Remap เพิ่มม้าอีกสักหน่อย....
อันนี้น่าจะเป็นการทำครั้งสุดท้ายแล้ว....พอแล้วคงได้แค่นี้ ( คราวหน้าขอเครื่อง 2500-3000 cc.ม้าเยอะๆ แล้วลองขับจนพอใจไปเลย )
รถผมหลังจากแฟนให้เอา sprint booster ออก รู้สึกรถอึดไปเยอะครับ เร่งไม่ค่อยขึ้น รอบขึ้นช้า ถ้ากดคันเร่งหนักๆ แบบไม่ยั้งกว่าจะเปลี่ยนเกียร์ก็กินรอบไปถึง 3,000-4,000 พันรอบเหมือนกัน แต่ถ้ากดคันเร่งปกติไม่รุนแรง เกียร์เปลี่ยนที่ 2,000-2,500 รอบเท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าเกียร์คงไม่เสียมั้ง แหะๆ
ที่น่าสังเกตุคือ ตอนที่ใส่ sprint booster รอบขึ้นสูงมาก เสียงเครื่องยนต์คำรวมแรงด้วย ได้ยินแล้วยังเสียวเรื่องเครื่องจะพังเหมือนกัน แต่เห็นหลายๆ ท่านก็ใส่กันเยอะไม่พบปัญหาใดๆ ก็ยังสบายใจอยู่ ตอนนี้พอมาถอดออกกลับเป็นว่ายังไม่ชินกับอาการรถอืดๆ ต้องปรับตัวอีกแป้บๆ เหยียบเท้าหนักอีกหน่อย คงจะเป็นปกติครับ อิอิ :D
-
ของผมตัวเลขเคยโชว์ สูงสุด 620 โลครับ แต่ไม่เคยจับวิ่งจริงๆหรอกนะ เพราะรู้ว่ามันหลอก 555 :missball
-
323 วิ่งได้ 550 กิโล ประมาณนั้นครับ
-
323 วิ่งได้ 550 กิโล ประมาณนั้นครับ
จบกัน แบบนี้รถผมก็มีปัญหาแน่ๆ เลยสิครับ :touched
-
เครือง N 42 หัวตัดจากญี่ป่น เต็มถัง วิ่งถึงไฟโชว์ ได้ 630 กิโล ความเร็วประมาณ 120 กม/ชม เติม แก๊สโซฮอล์ 91ตลอดครับ เฉลี่ยประมาณ 11กม/ลิตร :hmmm แต่น้ำมันเครื่องโคตรกิน
-
เครือง N 42 หัวตัดจากญี่ป่น เต็มถัง วิ่งถึงไฟโชว์ ได้ 630 กิโล ความเร็วประมาณ 120 กม/ชม เติม แก๊สโซฮอล์ 91ตลอดครับ เฉลี่ยประมาณ 11กม/ลิตร :hmmm แต่น้ำมันเครื่องโคตรกิน
พี่ปลัดลองน้ำมันเกรดผมไหมครับ 5W-50 ไม่หายเลย แหะๆ :D
-
คุณยิ้ม...เกียร์เปลี่ยนที่ 2,000-2,500 รอบ....ขับแบบทั่วไปผมว่าปกตินะเท่าที่อ่านมาสำหรับ BMW
ของผม 320 ถ้ากดเต็มรอบจะมาปี๊ดเลย 3000-4000 อาจจะทะลุ 6000 rpm เลย ความเร็วคงที่ 100 รอบที่ 2500 ส่วนความเร็ว 120-130 รอบไปที่ 3000 เลย
ส่วนขับแบบทั่วไป ก็เหมือนกันเปลี่ยนเกีนร์ที่ 2000-2300 ไปแบบเนิบๆ ไม่จัดจ้าน.....
ก่อนนี้ขับ Benz W203 C230 Kompressor รอบต่ำกว่า 2000 รถวิ่งฉิวเลย ออกตัวเร็วมาก 100 km/h รอบไม่ถึง 2000
แบบว่า...ติดตีนเลย....ยังแอบเซ็ง BM เรื่องเครื่องอืดเล็กน้อย.... :donwan
-
เครื่อวรอบสูงถ้าออกตัวดี ไว ก็ไม่ผิดปกติหรอกครับ
ถ้ารอบสูงแล้วรถออกตัวอืดนี่ผืดปกติแน่ๆ
ส่วน 300 โลต่อถัง นี่ซิ กินน้ำมันมากเลย โดยเฉลี่ยประมาณ 5.5 กม.ต่อลิตร
ความจริงน่าจะ 7-7.5 กม./ลิตร สำหรับในเมือง หรือเต็มถังควรวิ่งได้ถึง 400 กม./ถัง
...ผมว่าออกตัวอืดรอบเครื่องสูงผิดปกติ น่าจะมีหลายท่านที่เป็นนะแต่จะมาบอกกล่าวหรือป่าว
ของผมก็เป็น กินน้ำมันมาก 320CI เครื่อง M54B22 2200 cc. (เจ้าของเดิมบอกว่าโอเวอร์ฮอลเกียร์มาใหม่) ได้รถมาแล้ว
ไปหาช่าง BMW เจ้าแรกบอกว่า...ปกติ ( เถึยงในใจว่ามันไม่ปกติแน่ๆ )
ไปตรวจเช็คน้ำมันเกียร์ขาดไปมาก...แล้วล้างเกียร์เติมน้ำมันเข้าไปใหม่ 8 ลิตรกว่า..ทดลองขับสักอาทิตย์..แค่ดีกว่าเดิมเล็กน้อย
ไปหาช่าง BMW รายที่สามบอกว่า...เกียร์มีปัญหา ค่าซ่อมประมาณ 60000.- (แพง..ไม่รู้จะดีขึ้นหรือป่าว)
ท้ายสุด...เปลี่ยนเกียร์มือสองจากญี่ปุ่น ( เกียร์โดยคุณสุเมธ ) น่าจะเป็รทางออกที่ดี...ผลคือ...ดีจริงๆ ออกตัวไม่อืดรอบไม่สูงมาก เปลี่ยนเกียร์เร็วในรอบต่ำกว่าเดิมมาก มีแรงขึ้น ขับสนุกกว่าเดิมมาก
แต่ก็ยังมีรอบสูงอยู่บ้างเป็นบางครั้ง และไปเปลี่ยน Pulley Lightweight มา ( ไม่เห็นผลแบบชัดเจน ) กะว่าจะลองไป Remap เพิ่มม้าอีกสักหน่อย....
อันนี้น่าจะเป็นการทำครั้งสุดท้ายแล้ว....พอแล้วคงได้แค่นี้ ( คราวหน้าขอเครื่อง 2500-3000 cc.ม้าเยอะๆ แล้วลองขับจนพอใจไปเลย )
รถผมหลังจากแฟนให้เอา sprint booster ออก รู้สึกรถอึดไปเยอะครับ เร่งไม่ค่อยขึ้น รอบขึ้นช้า ถ้ากดคันเร่งหนักๆ แบบไม่ยั้งกว่าจะเปลี่ยนเกียร์ก็กินรอบไปถึง 3,000-4,000 พันรอบเหมือนกัน แต่ถ้ากดคันเร่งปกติไม่รุนแรง เกียร์เปลี่ยนที่ 2,000-2,500 รอบเท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าเกียร์คงไม่เสียมั้ง แหะๆ
ที่น่าสังเกตุคือ ตอนที่ใส่ sprint booster รอบขึ้นสูงมาก เสียงเครื่องยนต์คำรวมแรงด้วย ได้ยินแล้วยังเสียวเรื่องเครื่องจะพังเหมือนกัน แต่เห็นหลายๆ ท่านก็ใส่กันเยอะไม่พบปัญหาใดๆ ก็ยังสบายใจอยู่ ตอนนี้พอมาถอดออกกลับเป็นว่ายังไม่ชินกับอาการรถอืดๆ ต้องปรับตัวอีกแป้บๆ เหยียบเท้าหนักอีกหน่อย คงจะเป็นปกติครับ อิอิ :D
ควรติดตั้ง ตัวใหม่ที่ปรับได้ ตัวเก่าก็ขายเพื่อนสมาชิกที่ขอซื้อไปครับ เสียดายไปทนขับแบบนั้นทำไม :huh
-
รถผม E46 323i เติมแก๊สโซฮอล95
ขับในเมืองรถติดๆ 6.5 km/L
ทางไกลแบบขับช้าๆ 12 km/L
-
ยิ่งอ่านยิ่งเครียดครับ แต่ละคนขับได้มากกว่ารถผมทั้งนั้นเลย
เดี๋ยวลองเปลี่ยนกรองอากาศก่อน แล้วทดสอบระยะทางดูใหม่
ขออย่าให้เป็นอะไรใหญ่โตเลยเถอะ :bow
-
ผม 323 m52 วิ่ง 260000 โล เต็มถังวิ่งได้ 500 กว่าๆครับ ลองเช็คเบื้องต้นพวก น้ำมันเครื่อง กรองเครื่อง กรองอากาศ หัวเทียน ดูก่อนครับ แล้วลองเช็ค O2 sensor ดูครับว่าเสียหรือเปล่า เพราะ O2 sensor จะเป็นตัวประมวลผลสุดท้ายที่ส่งกลับไปให้กล่องสั่งจ่ายน้ำมัน