BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => ถาม-ตอบ ปัญหา => ข้อความที่เริ่มโดย: Kaizer1 ที่ กันยายน 08, 2012, 09:58:32
-
ขอคำแนะนำหน่อยครับมีคุณพี่ท่านนึงแนะนำว่า323ปัญหาน้อนกว่า318จริงมัยครับ
-
ขอคำแนะนำหน่อยครับมีคุณพี่ท่านนึงแนะนำว่า323ปัญหาน้อนกว่า318จริงมัยครับ
ค่อนข้างจริงนะครับ เพราะ 318 ต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อย เพราะชอบกินนำ้มันเครื่อง และระบบนำ้ก็ชอบหายด้วย ต้องดูแลดีๆ แต่รุ่นนี้ประยัดนำ้มันครับ ส่วน 323 เรื่องพวกนี้จะไม่ค่อยเกิดขึ้นครับ ผมก็ไม่รู้เมือนกันว่าเพราะอะไร แต่ 323 ในเมืองจะกินนำ้มันมากๆ ควรไว้วิ่งทางไกลอย่างเดียว
-
318 ต้องดูแลเป็นพิเศษ หน่อยครับแต่ทุกปัญหามีทางแก้ถ้าแก้ถูกจุด ครับผมเชียร์ให้เล่น 323 330 ไปเลยครับ ;)
-
ปัญหาผมว่า มีทุกรุ่นละครับ อยู่ที่ใครจะเจออะไรเท่านั้นเองครับ
-
เสียงจาก 318ISE N42 ของผมไม่มีปัญหาอะไรเลย อันนี้เรื่องจริงไม่ได้มาสร้างภาพเลยนะ ผมว่าอยู่ที่ว่าคนใช้ก่อนเค้ารักษาหรือเปล่า อย่างของผมเจ้าของเก่าเข้าศูนย์อย่างเดียว ผมรับมาเลยยังไม่เจออะไรสักนิดเลย ปลอดภัยหายห่วงเลย :))
-
ผมว่าไม่จริงครับ กระทู้ รุ่นอื่นนอกจาก 318i ก็เสียครับ ดูจากกระทู้ได้ รถ 318i ยอดขายมากๆ ไม่แปลกใจที่จะเห็นการซ่อม เป็นสัดส่วน
ที่เข้าใจไม่ยากครับ :-*
-
ขอตอบในฐานะผู้ใช้ n42 ใช้รถมาปีกว่าแล้วยังไม่เจอปัญหาจุกจิก ทั้งที่เป็นรถมือสอง
-
318 m43 น่าจะปัญหาน้อยกว่านะ หรือเปล่า ???
ปล.ใช้ m43 อยู่
-
;)
-
สรุป..
โปรดอย่าวิพากว่าเครื่องยนต์ N หรือ M ด้อยกว่ากัน
ท่านใช้ตัวไหนดูแลกันเอง เงินก็ตัวใครตัวมัน
......
-
สรุป..
โปรดอย่าวิพากว่าเครื่องยนต์ N หรือ M ด้อยกว่ากัน
ท่านใช้ตัวไหนดูแลกันเอง เงินก็ตัวใครตัวมัน
......
ประเด็นนี้เห็นด้วยค่ะ อิอิ
ผมว่าไม่จริงครับ กระทู้ รุ่นอื่นนอกจาก 318i ก็เสียครับ ดูจากกระทู้ได้ รถ 318i ยอดขายมากๆ ไม่แปลกใจที่จะเห็นการซ่อม เป็นสัดส่วน
ที่เข้าใจไม่ยากครับ :-*
ประเด็นนี้และบุคคลนี้คือคู่มือตำรา N42 แห่งคลับนี้ค่ะ :D
เสียงจาก 318ISE N42 ของผมไม่มีปัญหาอะไรเลย อันนี้เรื่องจริงไม่ได้มาสร้างภาพเลยนะ ผมว่าอยู่ที่ว่าคนใช้ก่อนเค้ารักษาหรือเปล่า อย่างของผมเจ้าของเก่าเข้าศูนย์อย่างเดียว ผมรับมาเลยยังไม่เจออะไรสักนิดเลย ปลอดภัยหายห่วงเลย :))
ประเด็นนี้แอบเห็นด้วยเหมือนกันค่ะ แต่คิดว่าเพียงแค่เจ้าของเก่าหรือผู้ที่ใช้งานรู้จักดูแล บำรุง รักษา คอยสังเกตุอาการตามระยะ ไม่จำเป็นต้องเป็นรถคันที่เข้าศูนย์บริการซะทั้งหมดก็ได้ค่ะ ก็เหมือนรถยนต์หลายๆรุ่น ทั่วไปค่ะ
เอาใจช่วยค่ะ ศึกษาข้อมูลแต่ละรุ่นให้เยอะๆ แล้วลองประมวลด้วยความรู้สึกตัวเองนะค่ะ
ดูจากหลายๆปัจจัย อันไหนรับได้ อันไหนควรหลีกเลี่ยง อันไหนควรป้องกัน อันไหนที่ถูกใจ
คิดว่าก็คงจะตัดสินใจไม่ยากค่ะ :D
-
ในฐานะที่ผมใช้ M52tu รถ 323iase ผมว่าผมซ่อมมาก็ไม่ต่างจาก N42 เลยครับ พอๆกัน
ลองมาดู่ว่า รถ323. กับ. 318 มีอะไร เหมือนกัน หรือแตกต่างกันบ้าง
ที่แตกต่างกันก็คือ เครื่องยนต์ และกล่อง ECU เท่านั้นจริงๆครับ
-เกียร์เหมือนกัน
-บอดีี้เดียวกัน ต่างกันที่โช๊คและสปริงนิดหน่อย
-ภายในห้องโดยสารใส่แทนกันได้หมด
-กระจกตกรางเหมือนกัน
-น้ำเข้ารถเหมือนกัน
-แอร์ชอบพังเหมือนกัน
-asc,dsc ไฟชอบโชว์เหมือนกัน
-แร็คพวงมาลัยรั่วเหมือนกัน
-ไดชาร์จชอบพังเหมือนกัน
-หน้าไวเหมือนกัน แก้ไม่ค่อยหายด้วย
-
ในฐานะที่ผมใช้ M52tu รถ 323iase ผมว่าผมซ่อมมาก็ไม่ต่างจาก N42 เลยครับ พอๆกัน
ลองมาดู่ว่า รถ323. กับ. 318 มีอะไร เหมือนกัน หรือแตกต่างกันบ้าง
ที่แตกต่างกันก็คือ เครื่องยนต์ และกล่อง ECU เท่านั้นจริงๆครับ
-เกียร์เหมือนกัน
-บอดีี้เดียวกัน ต่างกันที่โช๊คและสปริงนิดหน่อย
-ภายในห้องโดยสารใส่แทนกันได้หมด
-กระจกตกรางเหมือนกัน
-น้ำเข้ารถเหมือนกัน
-แอร์ชอบพังเหมือนกัน
-asc,dsc ไฟชอบโชว์เหมือนกัน
-แร็คพวงมาลัยรั่วเหมือนกัน
-ไดชาร์จชอบพังเหมือนกัน
-หน้าไวเหมือนกัน แก้ไม่ค่อยหายด้วย
แต่ ที่อยากรู้ก็คือ 318 ทำไมถึงกินนํ้ามันเครื่อง แล้วนํ้าก็ชอบหาย และ 323 ทำไมถึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ครับ ....ผมหมายถึงคันที่เป็นนะครับ และเห็นว่ามันไม่ค่อยหายขาดด้วย อย่างของพี่ปลัด ก็เห็นเขาบอกว่านํ้ามันเครื่องต้องมีเตียมไว้หลังรถตลอดเลย ช่วยอธิบายทีครับ
ขอบคุณครับ
-
ในฐานะที่ผมใช้ M52tu รถ 323iase ผมว่าผมซ่อมมาก็ไม่ต่างจาก N42 เลยครับ พอๆกัน
ลองมาดู่ว่า รถ323. กับ. 318 มีอะไร เหมือนกัน หรือแตกต่างกันบ้าง
ที่แตกต่างกันก็คือ เครื่องยนต์ และกล่อง ECU เท่านั้นจริงๆครับ
-เกียร์เหมือนกัน
-บอดีี้เดียวกัน ต่างกันที่โช๊คและสปริงนิดหน่อย
-ภายในห้องโดยสารใส่แทนกันได้หมด
-กระจกตกรางเหมือนกัน
-น้ำเข้ารถเหมือนกัน
-แอร์ชอบพังเหมือนกัน
-asc,dsc ไฟชอบโชว์เหมือนกัน
-แร็คพวงมาลัยรั่วเหมือนกัน
-ไดชาร์จชอบพังเหมือนกัน
-หน้าไวเหมือนกัน แก้ไม่ค่อยหายด้วย
แต่ ที่อยากรู้ก็คือ 318 ทำไมถึงกินนํ้ามันเครื่อง แล้วนํ้าก็ชอบหาย และ 323 ทำไมถึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ครับ ....ผมหมายถึงคันที่เป็นนะครับ และเห็นว่ามันไม่ค่อยหายขาดด้วย อย่างของพี่ปลัด ก็เห็นเขาบอกว่านํ้ามันเครื่องต้องมีเตียมไว้หลังรถตลอดเลย ช่วยอธิบายทีครับ
ขอบคุณครับ
บางคันครับ อาจมีบ้างจุดที่ไม่เห็น และไม่ได้แก้ไขครับ เครื่องยนต์มันเป็นอุปกรณ์ประกอบกันหลากหลายส่วน และอะไหล่ก็มีขายครบ
-
รถผมพี่สุเมธ ก็แก้ไขให้ เปลี่ยนอะไหล่ให้ รถวิ่งมาแสนห้า แล้ว ถอดอะไหล่ที่เสื่อมออกมาเห็นแล้วก็คุ้มครับ อายุการใช้งานขนาดนั้น :-*
-
318 N42 อีกหนึ่งเสียงคับ ดูแลให้ดี ซ่อมให้ถูกจุด ก็ไม่เห็นมีปัญหาหาอะไรหนิคับ
เรื่องน้ำหาย ตอนได้มาแรก ๆ รถผมก็เป็น ก็ไล่เช็คนู้นเปลี่ยนนี่ สุดท้ายเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่
ก็จบ ตอนนี้ก็แค่เปิดดูเฉย ๆ ไม่ต้องเติมน้ำเลย
-
คงเป็นเรื่องการติดแก๊สกระมังครับ ปัญหาใน E46 พบมากกว่า
-
พิมพ์ผิด 318 N42 พบมากกว่า
-
ผมใช้ N42 ติดแก๊สมา ร่วมแสนโลที่นำหายเพราะขันสายรัดไม่แน่นที่หม้อต้มและจุดตัดต่อนำอย่างอื่นดูแลเหมือนกันหมดอีกอย่าง เครืองยนต์เรียกรอบสูงได้ดีกว่า,เร็วกว่า ทำให้ออกตัวดีกว่า M52 Tu และN42 อาจจะทำให้มีอาการซึมของฝาครอบ+อ่างนำมัน ตามการใช้งานแต่กว่าจะเปลี่ยนปะเก็นก็แสนโล/ครั้งตามอายุการใช้งาน ทุกครั้งที่ขับ N42 ตอนออกตัวผมมี 4000 รอบประจำบ้างก็จนรอบตัด แต่ M52Tu แถบจะไม่เคยถึง4000รอบ เพราะมันมาช้าในมากออกอืดหน่อยสำหรับในเมือง ขับสนุกควบคุมง่ายใช้ในเมืองส่วนใหญ่ต้อง N42 เพราะคันเร่งไฟฟ้าและนำหนักตัวเครืองเบามากแต่ถ้าใช้ทางไกลประจำต้อง M52 Tu เลือกให้เหมาะกับการใช้งานแล้วจะมีความสุขครับ ที่แนะนำแบบนี้เพราะที่บ้านมีทั้งคู่ครับ
-
ผมใช้ N42 ติดแก๊สมา ร่วมแสนโลที่นำหายเพราะขันสายรัดไม่แน่นที่หม้อต้มและจุดตัดต่อนำอย่างอื่นดูแลเหมือนกันหมดอีกอย่าง เครืองยนต์เรียกรอบสูงได้ดีกว่า,เร็วกว่า ทำให้ออกตัวดีกว่า M52 Tu และN42 อาจจะทำให้มีอาการซึมของฝาครอบ+อ่างนำมัน ตามการใช้งานแต่กว่าจะเปลี่ยนปะเก็นก็แสนโล/ครั้งตามอายุการใช้งาน ทุกครั้งที่ขับ N42 ตอนออกตัวผมมี 4000 รอบประจำบ้างก็จนรอบตัด แต่ M52Tu แถบจะไม่เคยถึง4000รอบ เพราะมันมาช้าในมากออกอืดหน่อยสำหรับในเมือง ขับสนุกควบคุมง่ายใช้ในเมืองส่วนใหญ่ต้อง N42 เพราะคันเร่งไฟฟ้าและนำหนักตัวเครืองเบามากแต่ถ้าใช้ทางไกลประจำต้อง M52 Tu เลือกให้เหมาะกับการใช้งานแล้วจะมีความสุขครับ ที่แนะนำแบบนี้เพราะที่บ้านมีทั้งคู่ครับ
ขอบคุณข้อมูลจริง จากผู้ใช้จริงครับ :-X
-
ผมว่า มันทานน้ำมันเครื่องเก่งจริงๆ ประมาณ 1,000 กิโลเมตร/ลิตร กำลังอัดก็ไม่ตก เร่งได้ใจ โดยเฉพาะเกียร์ S มันก็มีข้อดี ตรงที่เราไม่ต้องไปเสียเวลาถ่ายน้ำมันเครื่อง อีกอย่างเราก็ใช้น้ำมันเครื่องไม่ต้องเกรดดีมาก ผมใช้แกลลอนละ 500 ร้อยบาทเอง มี 6 ลิตร วิ่ง กทม.-กำแพงเพชร ทุกอาทิตย์ ใช้ได้ประมาณ 2 เดือน ก็แฮปปี้ ดี เรื่องน้ำเมื่อก่อนขาดประจำเติมครั้งนึงลิตรกว่า พอเปลี่ยนท่อทางก็หายเป็นปกติ สำหรับน้ำหายเป็นเรื่องปกติ เพราะรถยุโรปต้องเอาน้ำร้อนไปใช้ประโยชน์ด้วย แตกต่างจากรถยุ่นคับ
-
ผมว่า มันทานน้ำมันเครื่องเก่งจริงๆ ประมาณ 1,000 กิโลเมตร/ลิตร กำลังอัดก็ไม่ตก เร่งได้ใจ โดยเฉพาะเกียร์ S มันก็มีข้อดี ตรงที่เราไม่ต้องไปเสียเวลาถ่ายน้ำมันเครื่อง อีกอย่างเราก็ใช้น้ำมันเครื่องไม่ต้องเกรดดีมาก ผมใช้แกลลอนละ 500 ร้อยบาทเอง มี 6 ลิตร วิ่ง กทม.-กำแพงเพชร ทุกอาทิตย์ ใช้ได้ประมาณ 2 เดือน ก็แฮปปี้ ดี เรื่องน้ำเมื่อก่อนขาดประจำเติมครั้งนึงลิตรกว่า พอเปลี่ยนท่อทางก็หายเป็นปกติ สำหรับน้ำหายเป็นเรื่องปกติ เพราะรถยุโรปต้องเอาน้ำร้อนไปใช้ประโยชน์ด้วย แตกต่างจากรถยุ่นคับ
มันผิดปกติแน่ครับ 1000 กม./ หาย 1 ลิตร ต้องมีจุดรั่ว จุดหายแน่นอนครับ
รถผม 1 หมื่นกิโล วิ่งมา 1.5 แสนกว่า กินที่ 250 ซีซี / 10,000 กิโลเมตร และ นิสัยชอบขอบเล่นรอบสูงด้วย ( ในเมือง )
โหพี่ปลัด ใช้ 50W เลยหรือครับ :-X
-
ผมว่า มันทานน้ำมันเครื่องเก่งจริงๆ ประมาณ 1,000 กิโลเมตร/ลิตร กำลังอัดก็ไม่ตก เร่งได้ใจ โดยเฉพาะเกียร์ S มันก็มีข้อดี ตรงที่เราไม่ต้องไปเสียเวลาถ่ายน้ำมันเครื่อง อีกอย่างเราก็ใช้น้ำมันเครื่องไม่ต้องเกรดดีมาก ผมใช้แกลลอนละ 500 ร้อยบาทเอง มี 6 ลิตร วิ่ง กทม.-กำแพงเพชร ทุกอาทิตย์ ใช้ได้ประมาณ 2 เดือน ก็แฮปปี้ ดี เรื่องน้ำเมื่อก่อนขาดประจำเติมครั้งนึงลิตรกว่า พอเปลี่ยนท่อทางก็หายเป็นปกติ สำหรับน้ำหายเป็นเรื่องปกติ เพราะรถยุโรปต้องเอาน้ำร้อนไปใช้ประโยชน์ด้วย แตกต่างจากรถยุ่นคับ
ผมแอบมองกล่องดำๆ ว่าใช่อย่างที่คิดหรือเปล่าว >:D >:D
แต่ไปเห็นว่ามีกระสอบข้าว อันนี้สิเจงกว่ากล่องดำๆที่แอบดูตอนแรกอีก :)) :))