BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => DIY & FAQs => ข้อความที่เริ่มโดย: jae ที่ พฤศจิกายน 23, 2012, 09:06:55
-
ถ้าคุณเห็นไฟแอร์แบคค้างหลังสตาร์ทติดแล้ว ไม่ดับ
เช็คโคดขึ้นว่า occupancy sensor . error is sporadic.
ก็แสดงว่า sensor ใต้เบาะรองนั่ง "อาจจะ" มีปัญหาครับ
ถ้าเป็นรถรุ่น แอร์แบค 6-8 ใบจะมีตัวนี้แค่เบาะคนนั่งซ้าย
ถ้าเป็นรุ่น แอร์แบค 10-12ใบ จะมีตัวนี้ที่เบาะคนนั่งหลังด้วย
แต่ในรถE46 ผมก็ไม่เคยเจอตัวหลังนะ
หลักการทำงานของมันคือตรวจสอบคนนั่งหน้าครับ ว่ามีคนนั่ง หนักเกินกว่า 40lb รึเปล่า
ถ้ามีคนนั่ง น้ำหนักเกิน 40 มันจะพร้อมยิง airbag หากมีอุบัติเหต
ถ้าไม่มีคนนั่ง หรือ น้ำหนักน้อยกว่า 40 lb มันจะสั่งตัดวงจรฝั่งคนนั่ง เพื่อเวลาเกิดอุบัติเหตุ เก้าอี้ฝั่งนี้ไม่ทำงาน
ถ้าไฟขึ้น ด้วย โค๊ดตัวนี้ แอร์แบกฝั่งนี้ อาจจะทำงาน หรือ ไม่ทำงาน ครับ อยากรู้ ต้องต่อคอมดู
ทางแก้ ก็มี สองทางครับ
ทางแรกก็ต้องเอาไปเปลี่ยนเซนเซอร์เบาะ ตัวเซนเซอร์ ราคาที่ผมเคยเห็น 1200 บาท ค่าแรงรื้อเบาะ และ หนังหุ้ม ต่างหากต้องรับภาระเสี่ยงเอาเองว่าหนังหุ้มจะเหมือนเดิมรึเปล่า
ทางที่สอง ทำวงจรหลอกกล่อง ทำได้3 แบบ
คือ bypass, มีคนนั่ง, และ เลือกได้
แต่แบบที่ผมจะนำเสนอนั้น เป็นแบบ มีคนนั่ง พร้อมใช้งานตลอด ไม่ว่าจริง ๆ จะมีคนนั่งหรือเปล่า
ก่อนทำ ผมไม่รับผิดชอบกับความเสียหายใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นสำหรับคนที่เอาไปทำ ผมให้แค่แนวทางและวิธีได้เท่านั้น ความรู้และเข้าใจจริง ๆ อยู่กับผู้ทำเอง :-\
อุปกรณ์ ต้องเตรียมไปใส่ในรถ
1. ตัวความต้านทาน ส้มส้มส้ม 33x10^3 โอมห์ = 33k หรือถ้าหาไม่ได้ เอา เหลือง ม่วง ส้ม 4 7 x 10^3 โอมห์ หาไม่ได้อีก ให้เอาอะไรก็ได้ ระหว่างสองค่านี้แล้วกัน ตัวเดียวเท่านั้น เอาเป็นครึ่่งวัตต์เลยแล้วกัน (ใช้ .25watt ก็ได้ แต่ผมไม่มั่นใจ )
2.ไดโอด 1N 4004 ขึ้นไป ถึง 1N4007 ตัวเดียวอีกนั่นแหละ ไดโอดนี่ ยิ่งเบอร์ใหญ่ ทนกระแสสูงครับ แต่ใหญ่มากเปลือง เล็กไปผมก็ไม่มั่นใจ
เครื่องมือ ที่ต้องเก็บหลังทำเสร็จ ไม่เอาไปไว้ในรถ
1. ชุดบัดกรีวงจร จะเป็นหัวแร้ง หรือเป่าร้อนแล้วแต่ถนัด พร้อมตะกั่วบัดกรี
2. ไขควงปากแบนอันเล็ก ไขแว่นตา
3. คอมพิวเตอร์และสายต่อโปรแกรมที่อ่าน status airbag ได้
วิธีทำ
ไปด้านหลังเบาะคนนั่ง ก้มไปต่ำ ๆๆๆๆ ให้มองเห็นใต้เบาะคนนั่งหน้า มองหากล่องตัวนี้ (รูปเอามาจาก e46fanatics) ตัวกล่องนี้บางคันอาจจะไม่ใช่หน้าตาแบบนี้ครับ แต่สำคัญว่าต้องไล่สายให้มันเข้าไปในเบาะนั่ง เป็นสายสีฟ้าและสีขาว ถ้าเจอ ก็ใช่ครับ
-
เสร็จแล้ว หมุนมันประมาณ 45 องศา ในแนวหมุนระนาบกับเบาะ มันจะหลุดออกได้ หมุนมากออกแรงเยอะ หัก ไม่มีที่เกาะผมไม่เกี่ยวนะครับ มันจะคลิกเหมือนหลุดจากล็อก
ใช้ไขควงแงะ ฝาครอบฝั่งสายสีำ ฟ้าขาว ออก แล้วตัด สายไฟ สีฟ้าขาว "ในกล่อง" ออก
ปลดปลั๊กไฟอีกทางออกจากกล่อง เราก็จะนำออกมาจากรถได้
-
ดึงวงจรออกมา แล้วเอาไดโอดและ ความต้านทานต่อแบบนี้ครับ
ไดโอดจะต่อให้คาโทดอยู่ที่สีฟ้าครับ คือ ไฟไหลจาก ขาว ไป ฟ้า ได้ครับ และ ความต้านทานขนาดไดโอดไว้ เชื่อมด้วยบัดกรี แล้วเก็บสายให้เรียบร้อย ยัดวงจรเข้ากล่อง ประกอบกลับ
รูปนี้ถ่ายจากกล่อง ที่ถอดจากรถคุณ RUT ครับ
-
สุดท้าย สำหรับคนที่มี คอมและโปรแกรมสำหรับ BMW (ไม่มีก็.... เสี่ยงเอา)
ประกอบแล้ว ให้เปิดคอมดูครับ ว่าวงจรฝั่งคนนั่ง on รึยัง ต้องดูในสองส่วนคือ present กับ circuit on นะครับ
ไดโอดจะทำให้มัน present และ R จะทำให้มัน On นั่นเอง
ลบค่าerrorใน airbag ทั้งใน fault และดูอีกทีใน shadow mem แ้ล้ว ทดสอบดูครับ
-
;) ;) ;)
-
เป็นความรู้และข้อมูลดีๆ ที่สามารถทำเองได้ไม่ยากครับ ขอบคุณสำหรับ D.I.Y. นี้ครับ... >:D
-
;) ;)
-
สุุดยอดครับ นิซิ คนเล่นรถตัวจริงๆๆๆ ;) ;) ;) ;) ;) ::)
-
;) ;) ;)
-
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ถ้าเซ็นเซอร์1200 บาท จริงๆเปลี่ยนเซ็นเซอร์ดีกว่าครับ เพราะถ้าไม่มีคนนั่งแล้วเกิดอุบัติเหตุ จะได้ประหยัดค่า แอร์แบคที่แตก โดยไม่มีคนใช้ไปลูกนึงเลยนะ ค่าแอร์แบคก็หลายตังอยู่
-
-
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ถ้าเซ็นเซอร์1200 บาท จริงๆเปลี่ยนเซ็นเซอร์ดีกว่าครับ เพราะถ้าไม่มีคนนั่งแล้วเกิดอุบัติเหตุ จะได้ประหยัดค่า แอร์แบคที่แตก โดยไม่มีคนใช้ไปลูกนึงเลยนะ ค่าแอร์แบคก็หลายตังอยู่
ตัวเซ็นเซอร์ในเบาะไม่ใช่กล่องนี้ครับ
แต่เป็นตัวในภาพครับ มีลักษณะเป็นวงจรพิมพ์บนแผ่นพลาสติก
วงจรที่ต่อหลอกก็คือเอาค่าความต้านทานมาแทนค่าความต้านทานเดิมของแผงนี้น่ะครับ
รบกวนถามคุณแจเพิ่มเติมครับ
ที่ว่า "ถ้าเป็นรุ่น แอร์แบค 10-12ใบ จะมีตัวนี้ที่เบาะคนนั่งหลังด้วย"
ใน E39และE38 รุ่น Airbag 10 ใบ ไม่มีเซ็นเซอร์นี้ในเบาะหลัง
แยกวงจรดังนี้ใช่ไหมครับ
1.คู่หน้า เลือกการทำงานข้างผู้โดยสารโดยเซ็นเซอร์ในเบาะ
2.แผงประตูหน้าหลัง เสาหน้าหลัง ด้านผู้โดยสาร
3.แผงประตูหน้าหลัง เสาหน้าหลัง ด้านคนขับ
-
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ถ้าเซ็นเซอร์1200 บาท จริงๆเปลี่ยนเซ็นเซอร์ดีกว่าครับ เพราะถ้าไม่มีคนนั่งแล้วเกิดอุบัติเหตุ จะได้ประหยัดค่า แอร์แบคที่แตก โดยไม่มีคนใช้ไปลูกนึงเลยนะ ค่าแอร์แบคก็หลายตังอยู่
ตัวเซ็นเซอร์ในเบาะไม่ใช่กล่องนี้ครับ
แต่เป็นตัวในภาพครับ มีลักษณะเป็นวงจรพิมพ์บนแผ่นพลาสติก
วงจรที่ต่อหลอกก็คือเอาค่าความต้านทานมาแทนค่าความต้านทานเดิมของแผงนี้น่ะครับ
รบกวนถามคุณแจเพิ่มเติมครับ
ที่ว่า "ถ้าเป็นรุ่น แอร์แบค 10-12ใบ จะมีตัวนี้ที่เบาะคนนั่งหลังด้วย"
ใน E39และE38 รุ่น Airbag 10 ใบ ไม่มีเซ็นเซอร์นี้ในเบาะหลัง
แยกวงจรดังนี้ใช่ไหมครับ
1.คู่หน้า เลือกการทำงานข้างผู้โดยสารโดยเซ็นเซอร์ในเบาะ
2.แผงประตูหน้าหลัง เสาหน้าหลัง ด้านผู้โดยสาร
3.แผงประตูหน้าหลัง เสาหน้าหลัง ด้านคนขับ
ผมคิดว่าแจหมายถึงวงจรหลังที่เป็นเข็มขัดนิรภัยรึเปล่า ? เพราะเบาะหลังไม่ว่ารุ่นไหนก็ไม่มี Occupancy Sensor แต่อาจจะมีตัวเช็คว่าเข็มขัดหลังถูกใช้งานอยู่รึเปล่ามากกว่าครับ
เรื่องการทำงาน หน้า ก็ส่วนหน้า หลังก็ส่วนหลัง แผงประตูหน้า และ เสาหน้า
แผงประตูหลัง เสาหลัง ตัวนี้มันไ่ม่น่าจะแยกว่าหลังซ้าย หรือ หลังขวานะ
-
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ถ้าเซ็นเซอร์1200 บาท จริงๆเปลี่ยนเซ็นเซอร์ดีกว่าครับ เพราะถ้าไม่มีคนนั่งแล้วเกิดอุบัติเหตุ จะได้ประหยัดค่า แอร์แบคที่แตก โดยไม่มีคนใช้ไปลูกนึงเลยนะ ค่าแอร์แบคก็หลายตังอยู่
ตัวเซ็นเซอร์ในเบาะไม่ใช่กล่องนี้ครับ
แต่เป็นตัวในภาพครับ มีลักษณะเป็นวงจรพิมพ์บนแผ่นพลาสติก
วงจรที่ต่อหลอกก็คือเอาค่าความต้านทานมาแทนค่าความต้านทานเดิมของแผงนี้น่ะครับ
รบกวนถามคุณแจเพิ่มเติมครับ
ที่ว่า "ถ้าเป็นรุ่น แอร์แบค 10-12ใบ จะมีตัวนี้ที่เบาะคนนั่งหลังด้วย"
ใน E39และE38 รุ่น Airbag 10 ใบ ไม่มีเซ็นเซอร์นี้ในเบาะหลัง
แยกวงจรดังนี้ใช่ไหมครับ
1.คู่หน้า เลือกการทำงานข้างผู้โดยสารโดยเซ็นเซอร์ในเบาะ
2.แผงประตูหน้าหลัง เสาหน้าหลัง ด้านผู้โดยสาร
3.แผงประตูหน้าหลัง เสาหน้าหลัง ด้านคนขับ
ผมคิดว่าแจหมายถึงวงจรหลังที่เป็นเข็มขัดนิรภัยรึเปล่า ? เพราะเบาะหลังไม่ว่ารุ่นไหนก็ไม่มี Occupancy Sensor แต่อาจจะมีตัวเช็คว่าเข็มขัดหลังถูกใช้งานอยู่รึเปล่ามากกว่าครับ
เรื่องการทำงาน หน้า ก็ส่วนหน้า หลังก็ส่วนหลัง แผงประตูหน้า และ เสาหน้า
แผงประตูหลัง เสาหลัง ตัวนี้มันไ่ม่น่าจะแยกว่าหลังซ้าย หรือ หลังขวานะ
ขอบคุณครับพี่เทียน จริง ๆ วงจร Occupancy Sensor มีทั้งแบบที่วางนั่งกับพนักพิงสำหรับวัดความสูง แต่ในไทยไม่เคยเห็นตัวพนักพิง เคยเจอแต่เซนเซอร์เข็มขัดที่มากับรถญี่ปุ่นครับ
E46 ผมก็ไม่เคยเห็นว่ามี SBE ครบ ทั้ง2ตัวเลย ถ้าเป็น DIS จะเห็นแค่วงจรเดียว แต่ถ้าเป็น INPA จะบอกได้ว่ามาัทั้งสองอันหรือว่าอันเดียวแต่ไม่ Equipped คนเขียนโปรแกรมสำหรับเครื่องวิเคราะห์ BMW ยังใช้ INPA อยู่ ก็ไม่แปลกที่จะเห็นครบกว่าครับ
-
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ถ้าเซ็นเซอร์1200 บาท จริงๆเปลี่ยนเซ็นเซอร์ดีกว่าครับ เพราะถ้าไม่มีคนนั่งแล้วเกิดอุบัติเหตุ จะได้ประหยัดค่า แอร์แบคที่แตก โดยไม่มีคนใช้ไปลูกนึงเลยนะ ค่าแอร์แบคก็หลายตังอยู่
ตัวเซ็นเซอร์ในเบาะไม่ใช่กล่องนี้ครับ
แต่เป็นตัวในภาพครับ มีลักษณะเป็นวงจรพิมพ์บนแผ่นพลาสติก
วงจรที่ต่อหลอกก็คือเอาค่าความต้านทานมาแทนค่าความต้านทานเดิมของแผงนี้น่ะครับ
รบกวนถามคุณแจเพิ่มเติมครับ
ที่ว่า "ถ้าเป็นรุ่น แอร์แบค 10-12ใบ จะมีตัวนี้ที่เบาะคนนั่งหลังด้วย"
ใน E39และE38 รุ่น Airbag 10 ใบ ไม่มีเซ็นเซอร์นี้ในเบาะหลัง
แยกวงจรดังนี้ใช่ไหมครับ
1.คู่หน้า เลือกการทำงานข้างผู้โดยสารโดยเซ็นเซอร์ในเบาะ
2.แผงประตูหน้าหลัง เสาหน้าหลัง ด้านผู้โดยสาร
3.แผงประตูหน้าหลัง เสาหน้าหลัง ด้านคนขับ
ผมคิดว่าแจหมายถึงวงจรหลังที่เป็นเข็มขัดนิรภัยรึเปล่า ? เพราะเบาะหลังไม่ว่ารุ่นไหนก็ไม่มี Occupancy Sensor แต่อาจจะมีตัวเช็คว่าเข็มขัดหลังถูกใช้งานอยู่รึเปล่ามากกว่าครับ
เรื่องการทำงาน หน้า ก็ส่วนหน้า หลังก็ส่วนหลัง แผงประตูหน้า และ เสาหน้า
แผงประตูหลัง เสาหลัง ตัวนี้มันไ่ม่น่าจะแยกว่าหลังซ้าย หรือ หลังขวานะ
ขอบคุณครับพี่เทียน จริง ๆ วงจร Occupancy Sensor มีทั้งแบบที่วางนั่งกับพนักพิงสำหรับวัดความสูง แต่ในไทยไม่เคยเห็นตัวพนักพิง เคยเจอแต่เซนเซอร์เข็มขัดที่มากับรถญี่ปุ่นครับ
E46 ผมก็ไม่เคยเห็นว่ามี SBE ครบ ทั้ง2ตัวเลย ถ้าเป็น DIS จะเห็นแค่วงจรเดียว แต่ถ้าเป็น INPA จะบอกได้ว่ามาัทั้งสองอันหรือว่าอันเดียวแต่ไม่ Equipped คนเขียนโปรแกรมสำหรับเครื่องวิเคราะห์ BMW ยังใช้ INPA อยู่ ก็ไม่แปลกที่จะเห็นครบกว่าครับ
ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ถ้าเซ็นเซอร์1200 บาท จริงๆเปลี่ยนเซ็นเซอร์ดีกว่าครับ เพราะถ้าไม่มีคนนั่งแล้วเกิดอุบัติเหตุ จะได้ประหยัดค่า แอร์แบคที่แตก โดยไม่มีคนใช้ไปลูกนึงเลยนะ ค่าแอร์แบคก็หลายตังอยู่
ตัวเซ็นเซอร์ในเบาะไม่ใช่กล่องนี้ครับ
แต่เป็นตัวในภาพครับ มีลักษณะเป็นวงจรพิมพ์บนแผ่นพลาสติก
วงจรที่ต่อหลอกก็คือเอาค่าความต้านทานมาแทนค่าความต้านทานเดิมของแผงนี้น่ะครับ
รบกวนถามคุณแจเพิ่มเติมครับ
ที่ว่า "ถ้าเป็นรุ่น แอร์แบค 10-12ใบ จะมีตัวนี้ที่เบาะคนนั่งหลังด้วย"
ใน E39และE38 รุ่น Airbag 10 ใบ ไม่มีเซ็นเซอร์นี้ในเบาะหลัง
แยกวงจรดังนี้ใช่ไหมครับ
1.คู่หน้า เลือกการทำงานข้างผู้โดยสารโดยเซ็นเซอร์ในเบาะ
2.แผงประตูหน้าหลัง เสาหน้าหลัง ด้านผู้โดยสาร
3.แผงประตูหน้าหลัง เสาหน้าหลัง ด้านคนขับ
ผมคิดว่าแจหมายถึงวงจรหลังที่เป็นเข็มขัดนิรภัยรึเปล่า ? เพราะเบาะหลังไม่ว่ารุ่นไหนก็ไม่มี Occupancy Sensor แต่อาจจะมีตัวเช็คว่าเข็มขัดหลังถูกใช้งานอยู่รึเปล่ามากกว่าครับ
เรื่องการทำงาน หน้า ก็ส่วนหน้า หลังก็ส่วนหลัง แผงประตูหน้า และ เสาหน้า
แผงประตูหลัง เสาหลัง ตัวนี้มันไ่ม่น่าจะแยกว่าหลังซ้าย หรือ หลังขวานะ
ขอบคุณ คุณ crayonz และ คุณ Jae ครับผม
พอดีรถผม e39 เกิดอุบัติเหตุขับคร่อมแท่งปูนใต้ท้องด้านหน้าข้างซ้าย และชนกับกล่องคานใต้รถด้านซ้าย
เป็นเหตุให้ถุงลมด้านข้างคนขับออกมาทั้ง 4 ลูก ทั้งแผงประตูและเสาหลังคา โดยที่ไม่มีผู้โดยสารหลังเลย
ผมเลยสงสัยว่ามีการแยกวงจรอย่างไร
สงสัยต้องลองใช้ inpa บ้างแล้ว ขอบคุณครับ
-
ถ้า E39
http://www.bmw-planet.com/diagrams/release/en/zinfo/SCM1198FB-001651000.htm (http://www.bmw-planet.com/diagrams/release/en/zinfo/SCM1198FB-001651000.htm)
อ่านดูครับ
E46 ตาตกจะเป็นMRS 2
ไฟยกจะเป็น MRS 3
E39 ก็จะอยู่ที่รุ่นอีกว่าเป็น MRS 3 หรือ 4
การtrig สัญญาณ คร่าว ๆ ก็ตาม link นั้นไปครับ
-
ถ้า E39
http://www.bmw-planet.com/diagrams/release/en/zinfo/SCM1198FB-001651000.htm (http://www.bmw-planet.com/diagrams/release/en/zinfo/SCM1198FB-001651000.htm)
อ่านดูครับ
E46 ตาตกจะเป็นMRS 2
ไฟยกจะเป็น MRS 3
E39 ก็จะอยู่ที่รุ่นอีกว่าเป็น MRS 3 หรือ 4
การtrig สัญญาณ คร่าว ๆ ก็ตาม link นั้นไปครับ
ขอบคุณ คุณ Jae อีกครั้งครับ
อ่านแล้วเข้าใจ ชัดเจน หายสงสัย ;)
ที่อยากรู้เพราะว่าเวลาเลือกซื้อก็อยากได้คันที่มีถุงลมนิรภัยหลายใบ ในความคิดยิ่งมากก็ยิ่งดี
แต่ในทางกลับกัน ไม่รู้เลยว่ามันทำงานอย่างไร และทำงานเมื่อไร ???
อย่างเช่นระบบเบรค ABS เมื่อเข้ามาใหม่ๆ แค่มีก็เป็นจุดขายได้แล้ว ไม่รู้ว่าทำงานอย่างไร
เสปคเป็นอย่างไร กี่เซ็นเซอร์ กี่แชนแนล อะไรประมาณนี้ครับ
ถุงลมใบที่แตกนั้นคือ
Side airbag, front right
ITS, right (ITS = Inflatable Tubular Structure)
Side airbag, rear right
Head airbag, rear right
ซึ่งมีการแยกกันคนละวงจรเลย
อย่างนี้แสดงว่าการที่ถุงลมด้านหลังทำงานโดยไม่มีผู้โดยสารตอนหลังข้างขวา
เพราะไม่มีตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับผู้โดยสารตอนหลังติดตั้งอยู่
ถุงลมแตกฟรีไปสองใบ
อย่างไรก็ตามขอขอบคุณอีกครั้งครับผม
-
ดึงวงจรออกมา แล้วเอาไดโอดและ ความต้านทานต่อแบบนี้ครับ
ไดโอดจะต่อให้คาโทดอยู่ที่สีฟ้าครับ คือ ไฟไหลจาก ขาว ไป ฟ้า ได้ครับ และ ความต้านทานขนาดไดโอดไว้ เชื่อมด้วยบัดกรี แล้วเก็บสายให้เรียบร้อย ยัดวงจรเข้ากล่อง ประกอบกลับ
รูปนี้ถ่ายจากกล่อง ที่ถอดจากรถคุณ RUT ครับ
คุณ jae บัดกรีตามในรูปเสร็จก็คือเสร็จใช่ไหม ไม่ต้องต่อสายที่เราตัดกลับคืนใช่ป่าว
-
1. ตัวความต้านทาน ส้มส้มส้ม 33x10^3 โอมห์ = 33k หรือถ้าหาไม่ได้ เอา เหลือง ม่วง ส้ม 4 7 x 10^3 โอมห์ หาไม่ได้อีก ให้เอาอะไรก็ได้ ระหว่างสองค่านี้แล้วกัน ตัวเดียวเท่านั้น เอาเป็นครึ่่งวัตต์เลยแล้วกัน (ใช้ .25watt ก็ได้ แต่ผมไม่มั่นใจ )
2.ไดโอด 1N 4004 ขึ้นไป ถึง 1N4007 ตัวเดียวอีกนั่นแหละ ไดโอดนี่ ยิ่งเบอร์ใหญ่ ทนกระแสสูงครับ แต่ใหญ่มากเปลือง เล็กไปผมก็ไม่มั่นใจ
1. Power สูงสุดที่จะตกคร่อม R 33k ที่แรงดัน 12V คิดเผื่อที่ 16V เท่ากับ V^2/R = 16X16 / 33,000 = 0.007W ดังนั้นใช้ตัวต้านทาน 0.25W ก็เหลือเฟือครับ
2. Diode 1N4001 - 1N4007 ทนกระแสได้เท่ากัน แต่ทนแรงดันได้ต่างกัน ตั้งแต่ 50 - 1000 V ใช้ในรถยนต์ไฟ 12 V ได้ทุกเบอร์ ไม่ว่าเบอร์ไหน ราคาไม่ถึง 1 บาท เอามาใช้ได้เลยครับ
FYI.
-
อ่านไว้ๆ ไฟโชว์เหมือนกันครับ
-
1. ตัวความต้านทาน ส้มส้มส้ม 33x10^3 โอมห์ = 33k หรือถ้าหาไม่ได้ เอา เหลือง ม่วง ส้ม 4 7 x 10^3 โอมห์ หาไม่ได้อีก ให้เอาอะไรก็ได้ ระหว่างสองค่านี้แล้วกัน ตัวเดียวเท่านั้น เอาเป็นครึ่่งวัตต์เลยแล้วกัน (ใช้ .25watt ก็ได้ แต่ผมไม่มั่นใจ )
2.ไดโอด 1N 4004 ขึ้นไป ถึง 1N4007 ตัวเดียวอีกนั่นแหละ ไดโอดนี่ ยิ่งเบอร์ใหญ่ ทนกระแสสูงครับ แต่ใหญ่มากเปลือง เล็กไปผมก็ไม่มั่นใจ
1. Power สูงสุดที่จะตกคร่อม R 33k ที่แรงดัน 12V คิดเผื่อที่ 16V เท่ากับ V^2/R = 16X16 / 33,000 = 0.007W ดังนั้นใช้ตัวต้านทาน 0.25W ก็เหลือเฟือครับ
2. Diode 1N4001 - 1N4007 ทนกระแสได้เท่ากัน แต่ทนแรงดันได้ต่างกัน ตั้งแต่ 50 - 1000 V ใช้ในรถยนต์ไฟ 12 V ได้ทุกเบอร์ ไม่ว่าเบอร์ไหน ราคาไม่ถึง 1 บาท เอามาใช้ได้เลยครับ
FYI.
จริงด้วยครับ ผมก็ไม่ได้เปิดเสปคอ่าน ขอบคุณครับ
แต่ R เหมือนว่าเอามาใส่Drain BackEMF ที่ Diode ส่งมาให้ด้วยครับ เรื่อง Watt ไม่ขอเดา ขอไปดูวงจรก่อนว่ามี L ที่ต้นทางรึเปล่า
-
อันนี้วงจรแบบ มีคนนั่ง
-
ถ้าอยากได้วงจรแบบ bypass ไม่ทราบต่อแบบไหนครับ มีใครทราบบ้าง
-
ถ้าอยากได้วงจรแบบ bypass ไม่ทราบต่อแบบไหนครับ มีใครทราบบ้าง
ที่ในรูปคือของรถผม ซึ่งเป็นกล่องเดิม ที่ตัดตัวที่ต่อไปยังฟองนำ้ใต้เบาะออก ส่วนที่พี่จะบายพาส ก็คือพี่ต้องถอดกล่องในรูปออก แล้วเอากล่องบายพาสใส่แทน ...... แต่มันก็จะเหมือนกับที่ผมแปลงเจ้ากล่องเดิมนั้นแหละครับ คือระบบจะตัดการรับนำ้หนักออก คือมีคนนั่งไม่นั่งมันก็จะทำงาน
-
ผมเพิ่งทำไปตามนี้เลยต่อคืน ไฟดับเลย เยี่ยมมากๆ ค่าของหลักหน่วยเอง ง่ายมั่กๆ
-
ถ้าอยากได้วงจรแบบ bypass ไม่ทราบต่อแบบไหนครับ มีใครทราบบ้าง
ที่ในรูปคือของรถผม ซึ่งเป็นกล่องเดิม ที่ตัดตัวที่ต่อไปยังฟองนำ้ใต้เบาะออก ส่วนที่พี่จะบายพาส ก็คือพี่ต้องถอดกล่องในรูปออก แล้วเอากล่องบายพาสใส่แทน ...... แต่มันก็จะเหมือนกับที่ผมแปลงเจ้ากล่องเดิมนั้นแหละครับ คือระบบจะตัดการรับนำ้หนักออก คือมีคนนั่งไม่นั่งมันก็จะทำงาน
เดี๋ยวนะ
ทำความเข้าใจกันใหม่ (หรือพี่ งง เอง)
ตามวงจรที่ต่อกัน พี่เข้าใจว่า เราต่อหลอกว่า มีคนนั่งตลอดใช่ไหมครับ
หรือ วงจร นี้หลอกว่าไม่มีคนนั่งตลอด (ถึงแม้จะมีคนนั่งก็ตาม)
ที่อยากได้คือวงจรหลอกว่า ไม่มีคนนั่ง คือไม่ให้ แอร์แบคทำงานเลยถึงแม้จะชนก็ตาม
-
วงจรนี้หลอกว่ามีคนนั่งตลอด แอร์แบคพร้อมยิงครับพี่
-
ตามนั้นครับ วงจรจะหลอกให้มีคนนั้งตลอด ถ้าจะหลอกไม่ให้มีคนนั่งต้องโปรแกมตัดแอร์แบคลูกนั้นทิ้ง แต่ ถ้าเกิดเหตุแล้วมีคนนั่งล่ะ จะทำไง
-
ตามนั้นครับ วงจรจะหลอกให้มีคนนั้งตลอด ถ้าจะหลอกไม่ให้มีคนนั่งต้องโปรแกมตัดแอร์แบคลูกนั้นทิ้ง แต่ ถ้าเกิดเหตุแล้วมีคนนั่งล่ะ จะทำไง
ที่จริงไม่มีไรหรอก แค่คิดเฉยๆว่าแอร์แบคฝั่งคนนั่งไม่ต้องใช้ดีมั้ย
เพราะตอนที่มันแตกกลัวมันจะกระแทกเข้าหน้า เหมือนที่เคยเกิดเหตุ
-
actually no need to modify "occupancy sensor" for clear "Airbag fault light"
if you don't want to spending big money for change sensor mat but want to clear "Airbag fault light"
you need just coding Airbag module to disable "occupancy sensor"
-
ขอบคุณครับ ::kisskiss::