ผู้เขียน หัวข้อ: เคลือบสีรถกันอย่างไง  (อ่าน 6337 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

KcKc

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 662
เคลือบสีรถกันอย่างไง
« เมื่อ: กันยายน 27, 2012, 21:23:14 »
เคลือบสีรถกันอย่างไง........
ซื้อMeguiars21 มา 12ขวดคุณภาพเก็บได้กี่ปี
ให้ร้านคาร์แคร์เคลือบสี น้ำยาเอามาเอง ราคาครั้งละเท่าไร
เคลือบเดือนละกี่ครั้ง ตัว21 เคลือบผิวกระจกรถด้วยได้ไหม
ถ้าทำเองที่บ้าน ใช้เครื่องเคลือบสีแบบไฟฟ้าของอะไรดี
ที่ร้านเป็นแบบปั๊มลม จะดีกว่าหรือเปล่า
ถ้าซื้อแบบชุดปั๊มลม ต้องมีอุปกรณ์แบบไรบ้าง
ขอบคุณครับ

Jeeranapong B.

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 1082
  • I'm behind the BMW's wheel
Re: เคลือบสีรถกันอย่างไง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 27, 2012, 21:47:05 »
ถ้ามีแค่แมกไกว์ 21 ไม่ต้องซื้อเครื่องอะไรหรอกครับ มือเราก็เกินพอแล้ว
ถ้าไปให้คาร์แคร์เคลือบ ถ้าเป็นร้านแมกไกว คิด 350 บาท
เคลือบเดือนละ 1 - 2 ครั้ง
เคลือบกระจกได้หรือเปล่าอันนี้ตอบไม่ได้ครับ
เครื่องเคลื่อบนี่คงหมายถึงเครื่องขัด ถ้าใช้ไม่ชำนาญระวังกินสีรถได้นะครับ
ถ้าจะซื้อจริงๆก็เป็นแบบไฟฟ้าก็คิดว่าเพียงพอสำหรับงาน DiY  :-X
"จะจงรักจอมจักริน อีกแดนแผ่นดิน ทำกินเก็บผล พระคุณเกษตรล้น รักเปี่ยมท้น ดวงจิตเอย"
JEERANAPONG  B.
[CIVIL ENGINEER][KU64][E60]
[Drive BMW 318ISE E46 Black Color]

not.69

  • มือเก๋าเฝ้าบอร์ด
  • **
  • กระทู้: 32
Re: เคลือบสีรถกันอย่างไง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 27, 2012, 22:10:59 »
ซื้อมาซะเยอะเลยครับราคาขวดเท่าไหล่เหลอครับ แต่ก่อนผมใช้อยู่ก็ดีนะครับล้างทีก็ขัดทีแต่ช้วงนี้ฝนตกเลยไม่ได้ล้างเลยครับ

Kittiisr

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 220
Re: เคลือบสีรถกันอย่างไง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 27, 2012, 22:14:13 »
ยาวมาก ขอตอบเป็นข้อๆ นะครับ

1 น้ำยาเคลือบสีรถเนี่ย ถ้าเก็บไว้ ในอุณหภูมิเหมาะสม ไม่โดนความร้อน อยู่ในที่ร่ม เก็บได้นานที่สุด 2 ปีครับ ถ้ายังไม่เปิดใช้ ทางที่ดี ถ้าไม่ได้ใช้กับรถหลายคันไม่จำเป็นต้องซื้อถึง 12 ขวดครับ เดี้ยวจะใช้ไม่ทัน เพราะการลงน้ำยา แต่ละครั้ง ต่อ 1 คัน ใช้จำนวนน้อยมากครับ อย่างMG 21 ขวด 16oz. ลงอาทิตย์ละครั้ง ใช้ได้หลายเดือน

2. เรื่องราคาค่าลงน้ำยา ถ้านำน้ำยาไปเอง แต่ละร้าน ราคาจะไม่เท่ากันครับ ต้องสอบถามที่ร้าน โดยตรง แต่ถ้าเป็น carcare ในเครือ MG ส่วนมาดจะ ค่าล้างรถ 200 ค่าลงน้ำยา 150 นะครับ แต่ ไม่ตายตัวทุกร้านนะครับ

3. เรื่องจำนวนครั้งในการเคลือบนั้น ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ครับ แต่ถ้า แนะนำแบบกลางๆ ก็อาทิตย์ละครั้งครับ แต่ส่วนตัวผม ทุกครั้งที่ล้างรถครับ
แต่อยากจะบอกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำให้รถเงานั้น ไม่ใช่อยู่ที่น้ำยาเคลือบนะครับ น้ำยาเคลือบคุณสมบัติ ที่แท้จริง คือการปกป้อง ผิวสีรถ ส่วนความสวยงามจริงๆ เกิดมาจากผิวสีครับ ถ้าเราเตรียมพื้นผิวรถเราดี ใช่น้ำยาเคลือบสีอะไร ก็สวยครับ แต่จะให้อธิบายลึกๆยาวครับ PM มาสอบถามดีกว่า

ส่วนการใช้น้ำยาเคลือบสี เคลือบกระจก นั้น ไม่แนะนำ อย่างยิ่งครับ เพราะในน้ำยาเคลือบสี จะมีส่วนผสม ของ ผงขัดอ่อนๆ อยู่ ถ้า ใช้เคลือบกระจก จะเป็นการ ขัดผิวหน้ากระจก ออกไปครับ ตอนแรก อาจจะเป็น ผลดี แต่นานๆ ไป เกิดปัญหา กระจก สาก แน่ครับ ควรใช่้น้ำยา เคลือบกระจกโดยตรงดีกว่า

4.ถ้าทำเองที่บ้าน เครื่องเคลือบไฟฟ้า มาหลายดัวในท้องตลาดครับ แต่ควร เลือก เครื่อง ที่เป็น แบบ DA นะครับ ที่เห็นเป็นที่นิยมก็มีหลายญี่ห้อหลายราคาครับ มีตั้งแต่พันกว่า จนถึง เกือบหมื่นครับ ยังมีเรื่องต้องแปลงหัวเพื่อใช้กับ ฟองน้ำลงน้ำยา โดย เฉพาะ อีกครับ เพราะว่าฟองน้ำที่แถมมากับเครื่องไม่สามารถใช้ได้ครับ รายละเอียด PM มาถามได้ครับ

5. ส่วนมากที่ตามร้าน ใช้เป็นแบบปั๊มลม เพราะความประหยัดครับและความสะดวกครับ เพราะตามร้านใช้ปั๊มลมตัวเดียวกับหลายๆกิจกรรม ทั้งเป่าไล่น้ำ ทั้งใช้กับหัวเคลือบ ดังนั้น ใช้หัวเคลือบลม จะสะดวกกว่าครับ ส่วนหัวลม ตามร้านจะใช้ของจีนครับ ไม่แพงมาก แต่ พังบ่อยหน่อย

6. ถ้าจะนำชุดลมมาใช้กับที่บ้าน อันนี้ไม่แนะนำครับ เพราะ ยังเป็นการลงทุนที่ สูงเกินความจำเป็น และที่สำคัญ คือเรื่องของเสียงจากปั๊มลมครับ จะดังมาก จนทำให้เพื่อนบ้านรำคาญ ได้ ถ้าเป็นปั๊ม ดีๆอย่างพวก Puma ที่เป็นระบบ inductor ที่ให้เสียงลงมาหน่อย แต่ราคา ก็ยังแพงมากครับ ยังไม่เหมาะ ที่นำมาใช้แบบ Home user และยังไม่รวม ถึงการบำรุงดูแลรักษา อีกครับ ถ้าจะเอามาใช้ที่บ้าน ควรเป็น หัวเคลือบ DA ไฟฟ้า จะเหมาะสมกว่าครับ

หมด แล้วครับ ถ้ามีข้อสงสัย ยังงัย PM มาถามเพิ่มเติมได้ครับ  :-*

Awirut

  • klass 71 ไม่ใหญ่ แต่ไม่เคยกลัวใคร
  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 10231
  • ตอนนี้มีปัญญาหาได้แค่นี้ E46-323,E90-320,X1,X3
Re: เคลือบสีรถกันอย่างไง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 08:51:33 »
ของผมใช้ amway ครับ เคลือบอาทิตย์ละครั้งครับ :-*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 28, 2012, 08:53:33 โดย Rut »

I Love e46 323 I  >!<. 
ใครมีปัญหาเรื่องรถ สามารถโทรปรึกษาได้ครับ 082-365-6523 รุทธ์. หรือ แอดlineมาที่rut467

tommaris

  • คนคุ้นเคย
  • ***
  • กระทู้: 15
Re: เคลือบสีรถกันอย่างไง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 10:07:28 »
#21 เป็น synthetic sealant (ไม่ใช่ขี้ผึ้ง) ไม่ทิ้งคราบสามารถนำมาเคลือบกระจกได้ครับ
ทั้งส่วนอื่นๆ เช่น โคมไฟ หรือแม้แต่วัสดุโครเมี่ยม

#21 ลงง่ายครับ ใช้น้ำยาเพียงนิดเดียวก็ลงได้ทั่วทั้งคันแล้วครับ (คลุมน้ำหนักมือดีๆ ครับ อย่าให้หนาเกิน = เปลืองน้ำยา)
ผมมีเครื่อง DA แบบที่ปรับรอบได้  หลังๆ ก็ยังใช้มือครับ

ที่ร้านมักใช้เครื่องขัดแบบลม ไม่ใช่เพระดีมากมายอะไร เพียงแต่ทำงานง่ายเพราะน้ำหนักเบา สะดวกเพราะต่อปั๊มลม (ซึ่ง
ร้านล้างรถต้องมีอยู่แล้ว) ได้เลย  เพราะจริงๆ แล้วเครื่องขัดแบบลมส่วนใหญ่ มันก็คือเครื่องขัดกระดาษทรายแบบลมนั่นเอง

ส่วนเรื่องที่จะหาเครื่องมือมาใช้เองที่บ้าน ถ้าเครื่องแบบ DA ทั่วไปพันกว่าบาท (ปรับรอบไม่ได้) ก็ทำได้เพียงแค่ลงแว็กซ์
ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำ car detailing เท่านั้นหล่ะครับ  ซึ่งเครื่องแบบนี้ผู้ใช้มักนิยมดัดแปลงเครื่องโดยแปะ
หนามเตย (เมจิกเทป) ไปที่แป้น เพื่อสามารถเปลี่ยนฟองน้ำแบบเมจิกเทปได้เรื่อยๆ  เครื่องแบบนี้หมุนแบบ DA และยัง
แรงน้อย (ปรับรอบไม่ได้) ฉะนั้นปลอดภัยต่อสีรถแน่นอน (เพราะใช้ในงานขัดลบรอยไม่ได้เลย)

จริงๆ แล้วการเคลือบสีแค่ล้างรถเช็ดแห้งแล้วลง #21 มันไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่หรอกครับ  อย่างน้อยที่สุดหากตัดเรื่องการ
ลบริ๊วรอยทั้งลึกทั้งบางต่างๆ ทิ้งไป  พูดถึงแต่การทำความสะอาดผิวสีเท่านั้น ควรมี่การใช้ดินน้ำมัน (Clay bar) และ/หรือ
ตัว Cleaner (เป็น wax ที่เน้นการทำความสะอาดผิวสี เช่น #6  หรือพวกน้ำยาที่เป็น All-in-1)  พวกนี้เป็นการเตรียมพื้นผิว
ให้สะอาดก่อนการลงตัวเคลือบอย่าง #21   แล้วจะได้เห็นถึงประสิทธิภาพของน้ำยาจริงๆ ครับ

เพิ่มเติม
การลง #21  หากต้องการผลงานที่ดีและมีเวลา  ให้ลง 2 รอบครับ  โดยทิ้งช่วงแต่ละรอบให้น้ำยาเซ็ทตัวประมาณ 12 ชั่วโมงครับ
 O0

tom46

  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 16931
  • M52TUB30 SCHRICK CAM
Re: เคลือบสีรถกันอย่างไง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 10:10:57 »
เรื่องตัว wax แล้วแต่ชอบครับ

แต่เรื่องเตรียมผิว ส่วนตัวผมว่าจำเป็นพอสมควรเลยครับ แต่ก็ไม่ถึงขนาดขัดลบรอยนะครับ

เอาแค่ ลูบดินน้ำมันเน้นๆหน่อย แล้วต่อด้วยคลีนเนอร์ แล้วค่อยมาลง wax เท่านี้ ผมว่างานก็ออกมาสวยแล้วครับ


M52TUB24 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

29_FEB_s3.46

  • บุคคลทั่วไป
Re: เคลือบสีรถกันอย่างไง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 10:54:10 »
ของผม ต้นเดือน ล้าง ลูบดินน้ำมัน ครีนเนอร์ แว๊ก

กลางเดือน ล้าง ลง แว๊ก  ครับ


KcKc

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 662
Re: เคลือบสีรถกันอย่างไง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 11:23:40 »
ตัวนี้... ขอคำแนะนำน่าใช้เปล่า
คิดว่า จะตามเคลือบด้วยมือด้วย
ที่ร้าน ดูเหมือนไม่ค่อยละเอียดตามซอกมุม
ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 28, 2012, 11:28:00 โดย kckckc »

29_FEB_s3.46

  • บุคคลทั่วไป
Re: เคลือบสีรถกันอย่างไง
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 12:15:12 »
แบบนี้แนะนำเข้าไปที่เวปนี้ดีกว่าครับละเอียดดี

ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน  ;)

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
Re: เคลือบสีรถกันอย่างไง
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 12:35:44 »
ซื้อมาเยอะจัง น่าแบ่งขายนะครับ  ผมจอง 2 ขวด  ( ฮ่า )  O0
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

STI2011

  • บุคคลทั่วไป
Re: เคลือบสีรถกันอย่างไง
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 14:06:03 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ตัวนี้... ขอคำแนะนำน่าใช้เปล่า
คิดว่า จะตามเคลือบด้วยมือด้วย
ที่ร้าน ดูเหมือนไม่ค่อยละเอียดตามซอกมุม
ขอบคุณครับ

ผม ซื้อมา ขวดเดียว #21 ใช้มาจะปีละ หมดไปไม่ถึงครึงขวด

ส่วน เครื่องตัวนี้ เอาไว้ลงน้ำยาพอได้อยู่

ถ้าเอามาขัด พวกรอยขนแมว จะไม่ค่อยออก

แต่ถ้าชอบ ล้างรถด้วยตัวเองบ๋อย  ซื้อเครื่องขัด DA ปรับรอบได้ จะดีกว่า