ผู้เขียน หัวข้อ: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ  (อ่าน 3535 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

seaman

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 10
E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 12:27:06 »
กำลังสนใจอยากติดระบบนี้ครับ จะได้ตัดปัญหาเรื่องระบบน้ำกับระบบแก๊สออกจากกัน มีใครติดมาบ้างยังครับ รบกวนช่วยแชร์ความคิดเห็นหน่อยครับว่ามันจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ที่แน่ๆคือแพงกว่าครับ O0                                                                                      ระบบฉีดแก๊สเหลว หรือ ระบบ LPSi (LiquidSi By Vialle)


LiquidSi (Liquid Propane Injection) เป็นระบบแก๊สรถยนต์ที่ไม่เหมือนกับระบบแก๊สรถยนต์ทั่วไปในปัจจุบัน เป็นนวัตกรรมในการฉีดแก๊ส LPG ในรูปแบบของเหลวเข้าสู่เครื่องยนต์ หรือ การนำแก๊สไปใช้โดยที่ไม่ผ่านระบบความร้อน หรือ หม้อต้ม ทำให้ได้ประสิทธิภาพได้เสมือนน้ำมันเบนซินมากที่สุด ผลที่ได้คือประสิทธิภาพสูงสุด และสมรรถนะที่ดีขึ้นจากระบบการฉีดแก๊สในระบบเดิมๆ

LiquidSi เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้การฉีดแก๊สเป็นของเหลวสำหรับรถยนต์ เพื่อสมรรถนะในการขับเคลื่อนที่เหนือกว่า ไม่ต้องตัดต่อระบบหล่อเย็น หรือหม้อน้ำจากรถยนต์ ลดปัญหาด้านการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง เพราะอุปกรณ์ในการติดตั้งแก๊ส เป็นอุปกรณ์ที่ผลิตเกรดเดียวกับโรงงานประกอบรถยนต์ อายุการใช้งานจึงเทียบเท่ากับอุปกรณ์ภายในรถยนต์ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่

LiquidSi ทำงานได้ดีในทุกสภาวะ ไม่ว่าจะอยู่ในอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำ ไม่ว่าจะอยู่ในความชื้นอย่างไร จะไม่มีผลต่อการทำงานของระบบ

ระบบแก๊สรถยนต์ LiquidSi ไม่ต้องการบำรุงรักษาเป็นพิเศษ สามารถติดตั้งกับรถยนต์หลากหลายรุ่น รวมถึงเครื่องยนต์ TurboCharger,เครื่องยนต์เผาไหม้แบบ Lean Burn รวมถึงเครื่องยนต์ Euro5

LiquidSi จึงเป็นระบบแก๊สรถยนต์ที่คุ้มค่าและช่วยทำให้คุณประหยัดค่าเชื้อเพลิงในระยะยาว
LiquidSi จึงเป็นระบบที่ดี คุ้มค่าต่อการลงทุน

หลักการทำงานของระบบ LiquidSi

kosit_w

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 3987
  • 323 / M52tu+LPG
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 13:19:31 »
อ่านๆดูอยู่เหมือนกันครับเห็นว่าดีกว่า
ดีกว่ายังไงไม่รู้ กลัวจะเป็นเหมือน NGV+ดีเซล อ่ะครับ(สุดท้ายถอดทิ้งกันเป็นแถว) รอครับรอดูซัก 3-4ปี ถ้าดีจริง มันจะพิสูจน์ตัวเอง. ถ้าเป็นผมขอเลือกระบบหม้อต้มแบบเดิมไปก่อนครับ พิสูจน์แล้วใช้ได้จริง ดีจริง ไม่ต้องเป็นหนูทดลองยาให้ใคร

seaman

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 10
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 14:42:41 »
ผมกังวลเรื่องแรงดันด้วยครับ เพราะมันใช้แรงดันสูงกว่ามาก ถ้าเกิดอุบัติเหตุกลัวว่าจะอันตราย  แต่ก็อยากได้แต่ไม่อยากเป็นหนูทดลอง :))

kosit_w

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 3987
  • 323 / M52tu+LPG
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2014, 12:35:36 »
เรื่องแรงดันคงไม่ต่างกับระบบหม้อต้มครับ เพราะระบบหม้อต้มก็เอาน้ำแก๊สจากถีงผ่านท่อมาหน้าเครื่องเหมือนกัน แต่มันมีระบบเซฟตี้มันอยู่ ระบบนี้ก็คงมีเซฟตี้

แต่ผมกลับกลัวสิ่งสรกปรกและยางเหนียวๆที่ผสมมาในน้ำแก๊สมากกว่าครับ กลัวทำให้หัวฉีดแก๊สตันครับ

ATT30799

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 94
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 25, 2014, 10:19:42 »
      ผมก็สนใจระบบนี้ ครับ  เห็นโฆษณาไว้ว่า  ลดการสึกหรอ ได้ดีกว่า GAS ระบบเดิมและวิ่งได้เหมือนน้ำมัน
เลยไปสอบถามดู  ร้านที่เป็นตัวแทนที่ ชลบุรี เค้าบอกว่า ติดได้ แต่อยากแนะนำให้ เป็นรถรุ่นใหม่ๆจะเหมาะกว่า
คุ้มกว่า เพราะ ราคาค่าติดตั้ง 60,000 บาทโดยประมาณ ( 6 สูบ ) ช่างแนะนำ แบบ GAS ระบบเดิมจะคุ้มกว่า
 เลยตัดสินใจลำบากจะติดแบบไหนดี  ???

kosit_w

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 3987
  • 323 / M52tu+LPG
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 25, 2014, 10:51:01 »
หลายท่านอาจชอบลองของใหม่ แต่ผมชอบของที่ผู้คนส่วนใหญ่ทดลองกันมาแล้วว่าดี (ไม่ชอบเป็นหนูลองยา)

บอกตามตรงนะ สมมุติราคาติดตั้งถูกกว่าแบบเก่าผมคิดหนักเลยครับ นี่ราคาติดแพงกว่าอีกจบเลยไม่ต้องคิดเลย

smcn333

  • SMCN333
  • สมาชิกอุปถัมภ์
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 180
  • what ever works
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 28, 2014, 02:42:58 »
LPI ผมไม่รู้แต่ถ้า LPGละก็ผมล่ะ ::handsome::

แก๊สมีอัดตราขยายตัว250เท่า นี่คือคุณสมบัติหนึ่งของก๊าซLPG ซึ่งน้ำก๊าซที่ผ่านหม้อต้มได้คุณสมบัตินั่นมาด้วยกลายเป็๋นแค่ก๊าซLPG

ขอย้ำนะครับจากน้ำก๊าซมาเป็นแค่ก๊าซหรือแก๊สที่คุณนำไปใช้กัน พลังงานของก๊าซที่ขยายตัว250เท่าในความดันประมาณ110-120psi ก็เพียงพออยู่แล้วทำไมต้องใช้น้ำก๊าซพลังงานเพียวๆฉีดเข้าไป ถ้าทำได้จริงให้รุ่นอื่นๆเค้าลองทำดูก่อนดีกว่าครับ แล้วค่อยมาพิจารณาว่าเราจะทำดีมั้ย

ตัวผมเองอยู่กับน้ำก๊าซทั้งวันละครับ เลยอยากจะบอกให้ทราบกันครับ ""ชูสองนิ้ว::

Imagine

  • สมาชิกสมัครใหม่
  • กระทู้: 3
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2014, 08:24:12 »
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนิดนึงนะครับ
ตามที่ศึกษา คุณสมบัติทางกายภาพ ณ สถานะเป็นก๊าซ อัตราส่วนปริมาตรของเหลว/ก๊าซ (Liquid/Vapor Volume Ratio)
       -แอลพีจีเหลวเมื่อระเหยและเปลี่ยนสถานะไปเป็นก๊าซ ปริมาตรจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก กล่าวคือ ที่อุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส (60 F) โปรเพนเหลว 1 หน่วยปริมาตร เมื่อกลายเป็นก๊าซจะมีปริมาตรเป็น 274 หน่วย
 
       หมายความว่า   เมื่อก๊าซเปลี่ยนสถานการณ์ขยายตัว   จะมีเงื่อนไขเรื่องแรงดัน  (การลดแรงดัน ทำให้เปลี่ยนสถานะ)  และมี อุณหภูมิมาเกี่ยว   ปกติแก๊สที่เป็นของเหลว  เมื่ออยู่ในถังภายใต้แรงดัน 4-6 บาร์  คือ 100-130 psi   แต่เมื่อผ่านหม้อต้ม หรือ ตัวลดแรงดันหรือ เพื่อเปลี่ยนสถานะ  ที่หม้อต้มจะมีแรงดันออก 1-3 บาร์  กรณีเราตั้งแรงดันหม้อต้มไว้ 1 บาร์  ก็เท่ากับ 14.7  psi เท่านั้น
ที่คุณ smcn333 เขียนว่า
 
" ขอย้ำนะครับจากน้ำก๊าซมาเป็นแค่ก๊าซหรือแก๊สที่คุณนำไปใช้กัน พลังงานของก๊าซที่ขยายตัว250เท่าในความดันประมาณ110-120psi "

 
      จึงยังไม่ตรงนัก   ก๊าซที่อยู่ในรถเรา จะมีการเก็บไว้ 2 ช่วงแรงดัน  คือ  ในถัง   และ   หลังหม้อลดแรงดัน   ไม่ได้ขยายตัวในความดัน 110-120 psi ครับ

smcn333

  • SMCN333
  • สมาชิกอุปถัมภ์
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 180
  • what ever works
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2014, 22:37:36 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนิดนึงนะครับ
ตามที่ศึกษา คุณสมบัติทางกายภาพ ณ สถานะเป็นก๊าซ อัตราส่วนปริมาตรของเหลว/ก๊าซ (Liquid/Vapor Volume Ratio)
       -แอลพีจีเหลวเมื่อระเหยและเปลี่ยนสถานะไปเป็นก๊าซ ปริมาตรจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก กล่าวคือ ที่อุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส (60 F) โปรเพนเหลว 1 หน่วยปริมาตร เมื่อกลายเป็นก๊าซจะมีปริมาตรเป็น 274 หน่วย
 
       หมายความว่า   เมื่อก๊าซเปลี่ยนสถานการณ์ขยายตัว   จะมีเงื่อนไขเรื่องแรงดัน  (การลดแรงดัน ทำให้เปลี่ยนสถานะ)  และมี อุณหภูมิมาเกี่ยว   ปกติแก๊สที่เป็นของเหลว  เมื่ออยู่ในถังภายใต้แรงดัน 4-6 บาร์  คือ 100-130 psi   แต่เมื่อผ่านหม้อต้ม หรือ ตัวลดแรงดันหรือ เพื่อเปลี่ยนสถานะ  ที่หม้อต้มจะมีแรงดันออก 1-3 บาร์  กรณีเราตั้งแรงดันหม้อต้มไว้ 1 บาร์  ก็เท่ากับ 14.7  psi เท่านั้น
ที่คุณ smcn333 เขียนว่า
 
" ขอย้ำนะครับจากน้ำก๊าซมาเป็นแค่ก๊าซหรือแก๊สที่คุณนำไปใช้กัน พลังงานของก๊าซที่ขยายตัว250เท่าในความดันประมาณ110-120psi "

 
      จึงยังไม่ตรงนัก   ก๊าซที่อยู่ในรถเรา จะมีการเก็บไว้ 2 ช่วงแรงดัน  คือ  ในถัง   และ   หลังหม้อลดแรงดัน   ไม่ได้ขยายตัวในความดัน 110-120 psi ครับ


ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลตรงนี้ผมเองก็ไม่เคยรู้และรถผมเองก็ไม่ได็ติดแก๊ส  ::2thmb::  :-X

ตัวผมเองอยู่กับการบรรจุก๊าซลงถังทั้งวันในอุณหภูมิอากาศภายนอกทั่วๆไป ส่วนข้อมูลของผมที่นำมาแชร์ก็มาจากทางกรมธุรกิจพลังงาน+ปตท.ที่ผมเคยเข้ารับการอบรมมาครับ

ส่วนประเด็นหลักของผมคือเมื่อเราสามารถใช้พลังงานที่เป็นไอก๊าซได้อยู่แล้วทำไมถึงต้องไปใช้น้ำก๊าซด้วย การที่เราใช้น้ำก๊าซเพียวๆมันไม่เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานไปหรือ...

ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ไอก๊าซที่ผ่านหม้อต้มมาแล้วคือน้ำก๊าซที่ขยายตัว250เท่า(หรือ274เท่าตามที่คุณImagineได้กล่าวไว้เบื้องต้น)

จึงเรียนมาเพื่อทราบและพิจรณาเป็นพลังงานทางเลือกกันครับ  :-X

Imagine

  • สมาชิกสมัครใหม่
  • กระทู้: 3
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 15, 2014, 15:08:41 »
ถามมา ตอบไป  แชร์กันนะครับ

     
"ทำไมถึงต้องไปใช้น้ำก๊าซด้วย การที่เราใช้น้ำก๊าซเพียวๆมันไม่เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานไปหรือ..."

          การใช้ก๊าซ LPG  ในแบบที่เป็น ไอก๊าซ  เราไม่ได้ ออกเทน ที่ LPG มีอยู่ 105 อย่างเต็มที่ครับ ด้วยความหนาแน่น ได้หายไป  ผู้ผลิตระบบแก๊สติดรถยนต์ อยากนำก๊าซ มาในรูป  liquid injection ด้วยเหตุนี้ แต่ก่อนหาคนทำ (ให้ดี และ ขายได้) ยากครับ  เท่าที่เห็นจะมี  ค่าย คือ   vialle  และ  Prins ใน เนเธอร์แลนด์ อีกเจ้าคือ  Icom Spa อิตาลี  ทั้ง 3 บริษัท นี้ เป็นผู้นำในตลาดโลกมากกว่า 10 ปี  ขณะนี้มีหลายบริษัท ได้เริ่มพัฒนาตามมา ความยากอยู่ที่ แรงดันที่ต้องเสถียร  เพื่อการฉีดที่แม่นยำ  ( ระบบนี้มีปั๊มเชื้อเพลิง  เรกกูเลเตอร์  เลียนแบบน้ำมันเลย ) ถ้าแรงดัน ขึ้น หรือ ลงมากเกินไป มีผลต่อสมรรถนะรถแน่นอน  ผลที่ได้คือ เครื่องได้รับ octane 105 รถจะมี แรงบิด หรือ อาจมีแรงม้าเพิ่มขึ้น ด้วย

          ส่วนคำถามที่ว่า ระบบนี้เปลืองกว่าระบบ ฉีดไอ หรือ ไม่  เอาตามทฤษฎี  อ้างอิง  ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ระบบนี้ประหยัดกว่า 5-20 เปอร์เซ็นต์  ( 20 เปอร์เซ็นต์ นี่ก็มากไปหน่อย )  รถผม  BMW E53 X5 4.4 V8 เคยเทียบเคียงดู ประหยัดกว่าหม้อต้ม นิดหน่อย  หลังจากนั้น  เหยียบแบบ ไม่นับ  เพราะว่าผมคำนวณแบบว่า  1 กม จ่าย บาทปลาย เกือบ 2 บาท (วิ่งยาวเป็นหลัก) พอใจแล้ว
         
          จากเว็บที่อ้างอ้ง   คงประมาณว่า การจ่ายแก๊ส จ่ายด้วยความหนาแน่น / ปริมาตร และ อุณหภูมิที่เข้าห้องเผาไหม้ มีความใกล้เคียงน้ำมัน ทำให้การสันดาปดีกว่า  เอาแบบเข้าใจพื้นๆ คือ แบบผม คือ รถแรงขึ้น เหยียบน้อยลง ได้ สมรรถนะเหมือนเดิม  ประมาณนี้แหละครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 15, 2014, 15:10:19 โดย Imagine »

Imagine

  • สมาชิกสมัครใหม่
  • กระทู้: 3
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2014, 11:54:15 »
X5

smcn333

  • SMCN333
  • สมาชิกอุปถัมภ์
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 180
  • what ever works
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2014, 21:49:35 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
X5
ในรูปนี่ LPI รึเปล่าครับ  ???

suwannabmw

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 211
Re: E46 323IA ใครติดแก๊สระบบ LPI มาบ้างครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2014, 09:26:35 »
มันเป็นยังไงเหรอครับ วิ่งดีไหมครับผม  :cheerup: :cheerup: