ผู้เขียน หัวข้อ: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ  (อ่าน 3304 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ยิ้มบางแสน

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 3835
ผมชอบแวะเติมลมในปั๊ม เมื่อราวๆ 2 เดือนก่อนไปเติมปั๊มแห่งหนึ่ง กดล้อหน้าไป 32 psi  หล้อหลัง 35 psi ก็ใช้งานได้ปกติ แต่เมื่อวานขับไปอีกปั๊มไปเช็คลม เพราะพรุ่งนี้จะไปต่างจังหวัด ปรากฏว่าล้อหน้าซ้ายลมเหลือแค่ 28 psi หน้าขวา 30 psi  ล้อหลังหนักสุดซ้ายเหลือ 26 psi ขวา 30 psi

แสดงว่าลมมีการรั่วซึมออกตามการใช้งาน แบบนี้ถ้าไม่เช็คดีๆ วิ่งทางไกลผมว่าน่ากลัวนะครับ

ที่โพสไม่ได้จะสงสัยอะไรกับปั๊มนะครับ แต่กำลังคิดว่าถ้าเราต้องไปเช็คลมยาง เราจะมั่นใจได้แค่ไหนว่าเครื่องเขามีมาตรฐานพอ หรือเราต้องไปร้านยางจะดีกว่าครับ ผมเคยไปขอเติมลมที่ร้านยางแห่งหนึ่งในอำเภอพนัสนิคม จ.ชลบุรี เจ้าของร้านไม่เติมให้ แถมไล่ผมให้ไปปั๊ม พูดจาแบบว่าไม่ค่อยดี จากนั้นผมเลยไม่เคยเข้าไปขอเติมลมในร้านยางเลย เพราะกลัวเขาคิดว่างานเล็กๆ ไม่อยากทำให้
ยิ้มบางแสน เทพวินนิ่ง (ข้าพิชิตมาแล้วทุกสำนัก)


Crazy_Hours

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 250
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 14:53:26 »
ซื้อที่วัดลมยางไว้ในรถ ด้วยซิครับและได้เช็คอีกครั้งหลังเติมเสร็จจากปั๊ม

Awirut

  • klass 71 ไม่ใหญ่ แต่ไม่เคยกลัวใคร
  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 10231
  • ตอนนี้มีปัญญาหาได้แค่นี้ E46-323,E90-320,X1,X3
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 15:21:20 »
ต้อง ปตท. ที่มาจากปั้มเจดเก่านะครับ อันนี้ชัวร์สุด  ;)

I Love e46 323 I  >!<. 
ใครมีปัญหาเรื่องรถ สามารถโทรปรึกษาได้ครับ 082-365-6523 รุทธ์. หรือ แอดlineมาที่rut467

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 18:06:36 »
ซื้อที่วัดลมดีๆ เช่นของ Michelin ไว้ในรถสักตัวครับ คุณยิ้ม
ล้อ 18"  225-40-R18  หน้า 35 หลัง 37 นะครับ เหมาะมาก  ปลอดภัยต่อล้อด้วย  :-*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 28, 2012, 18:11:18 โดย Krisada511 »
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

treety

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 1021
  • เก่งกันจริงๆ
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 18:43:48 »
ผมว่าเครื่องเติมลมในปั้ม ค่อนข้างจะมาตราฐานนะครับ  เครื่องหนึ่งหลายตังอยู่ ผมว่าที่ลมหายน่าจะเป็นจากการใช้งานมากกว่าครับพี่ยิ้ม เวลาเราขับรถไปตกหลุม หรือกระแทกอะไร ตัวยางจะผิดรูปไปแปบนึง ลมอาจจะซึมออกบ้าง ผมว่าไม่ผิดปกติอ่ะครับ

green tea

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 705
  • E46 M54 330IA
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 19:16:52 »
คุณยิ้มครับ เอาลมเก่าออกให้หมด เติมลมไนโตรเจนเข้า 32-34 เติมที่บีควิก 100 บาท วิ่งไปเหอะ 6 เดือนเข้าไปเปลี่ยนครั้งนึง  แต่หาเกจดีๆไว้ซักตัวก้อดีครับ ผมมีติดรถอยู่ตัวนึง ไม่เคยเช็คเลย 555

green tea

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 705
  • E46 M54 330IA
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 19:18:05 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ซื้อที่วัดลมดีๆ เช่นของ Michelin ไว้ในรถสักตัวครับ คุณยิ้ม
ล้อ 18"  225-40-R18  หน้า 35 หลัง 37 นะครับ เหมาะมาก  ปลอดภัยต่อล้อด้วย  :-*

พี่ครับถ้าล้อ 17 หน้า หลังเติมเท่าไหร่ดีครับ

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 19:29:58 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ซื้อที่วัดลมดีๆ เช่นของ Michelin ไว้ในรถสักตัวครับ คุณยิ้ม
ล้อ 18"  225-40-R18  หน้า 35 หลัง 37 นะครับ เหมาะมาก  ปลอดภัยต่อล้อด้วย  :-*

พี่ครับถ้าล้อ 17 หน้า หลังเติมเท่าไหร่ดีครับ


 รถ 330i  =     32 หน้า  หลัง 36  แล้วลองขับดูครับ ทดลองแล้วกลับมาเล่าให้ฟังนะครับ :-*
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

ยิ้มบางแสน

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 3835
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 19:32:21 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ซื้อที่วัดลมดีๆ เช่นของ Michelin ไว้ในรถสักตัวครับ คุณยิ้ม
ล้อ 18"  225-40-R18  หน้า 35 หลัง 37 นะครับ เหมาะมาก  ปลอดภัยต่อล้อด้วย  :-*

ขอบคุณครับ  >:D
ยิ้มบางแสน เทพวินนิ่ง (ข้าพิชิตมาแล้วทุกสำนัก)


T.Tankittiphob

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 2682
  • 330Ci/M54+LPG
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 20:15:17 »
ขับต่างจังหวัดบ่อยมั้ยครับ ไม่ลองลมไนโตรเจนบ้างหละครับ ความร้อนสะสมที่เกิดจากการวิ่งระยะทางที่ยาวลดลงนะครับ เคยใช้infrared termometerวัดครับ ความร้อนต่างกันอย่างเห็นได้ชัดครับ เอาไว้เป็นแนวทางนึงละกันครับ
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

nuiba

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 852
    • DeliGolf
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 20:28:36 »
ลองเช็คดูครับ เผื่อมีตะปูหรือน๊อตทิ่มยางอยู่ บางทีตัวเล็กๆมองไม่เห็น

green tea

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 705
  • E46 M54 330IA
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 28, 2012, 21:49:10 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ซื้อที่วัดลมดีๆ เช่นของ Michelin ไว้ในรถสักตัวครับ คุณยิ้ม
ล้อ 18"  225-40-R18  หน้า 35 หลัง 37 นะครับ เหมาะมาก  ปลอดภัยต่อล้อด้วย  :-*

พี่ครับถ้าล้อ 17 หน้า หลังเติมเท่าไหร่ดีครับ


 รถ 330i  =     32 หน้า  หลัง 36  แล้วลองขับดูครับ ทดลองแล้วกลับมาเล่าให้ฟังนะครับ :-*

ขอบคุณครับพี่กฤษดา ผมเติมเท่ากันมาตลอดเลยเด่วลองใหม่ครับ

xkenny

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 506
    • กล้องวงจรปิด
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 30, 2012, 23:20:25 »
 ผมก็ไปเติมไนโตรเจนมา ราคาไม่แภง แถมลดความร้อนดีด้วยครับ  >:D เติมได้ตลอดจนครบอายุ 6 เดือน

1. ลดอัตราการระเบิดของลมยาง เพราะก๊าซไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉื่อย การยึดติดกันของโมเลกุลคล้ายวุ้น ทำให้การขยับตัวเคลื่อนที่ช้า โมเลกุลเสียดสีกันน้อย จึงทำให้ลมภายในยางเกิดความร้อนสะสมน้อย แรงดันลมในยางจึงเปลี่ยนแปลงไม่มาก ทำให้ยางมีโอกาสระเบิดน้อย (ส่วนมากยางที่ระเบิดเกิดจากแรงดันลมในยางเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับโครงผ้าใบเริ่มเสื่อมคุณภาพจึงเกิดการระเบิด) ล้อที่เติมลมไนโตรเจนแล้วยังมีความร้อนอยู่บ้าง เนื่องจากการเสียดสีของลูกปืนล้อ เบรก ที่ส่งผ่านกระทะล้อมาสู่ยาง และเกิดจากยางเสียดสีกับพื้นถนน ถ้ารถวิ่งทางตรงยางจะเสียดสีกับถนนน้อยกว่าในขณะเลี้ยว แต่ 80% ของการขับขี่คือการหักเลี้ยวตามโค้งถนนหรือแซงและหลบ

     2. นุ่มนวลและลดเสียงดังจากยางกระทบพื้น เพราะก๊าซไนโตรเจนมีกายึดติดของโมเลกุลคล้ายวุ้น ทำให้เคลื่อนที่ช้า เมื่อยางกระทบกับคลื่นตะเข็บของถนน ยางจะเคลื่อนที่ยืดหยุ่นตัวช้าลง ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น และลดเสียงดังของยางไปได้มาก (ถ้ายางซีรี่ส์ต่ำจะเห็นผลน้อย ถ้ายางซีรี่ส์สูงๆ จะเห็นผลได้มาก หรือถ้ายางที่ร่องดอกยางห่างๆ จะเห็นผลและเงียบลงไปมาก)

     3. ไม่ทำให้กระทะล้อเป็นสนิมและแป้งที่เคลื่อบยางก็ไม่เป็นก้อนในท้องยาง เพราะในการเติมลมยางด้วยไนโตรเจนทำให้ในยางมีปริมาณออกซิจนอยู่น้อย ถ้าออกซิเจนไปรวมตัวทำปฏิกิริยากับเหล็กหรืออลูมิเนียมจะทำให้เกิดสนิมที่บริเวณกระทะล้อได้ และถ้าออกซิเจนไปรวมตัวกับไฮโดรเจนซึ่งปะปนอยู่ในลมยาง จะทำให้เกิดเป็นหยดน้ำ H2O หยดน้ำนี้เมื่อกลิ้งอยู่ในท้องยางจะทำให้แป้งที่อยู่ในท้องยางรวมตัวกันเป็นก้อนกลิ้งอยู่ในท้องยาง และขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ ถ้าก้อนแป้งนี้มีมากหรือขนาดใหญ่พอที่จะทำให้พวงมาลัยรถสั่นได้ ต้องถ่วงล้อใหม่ แต่มักจะถ่วงไม่ลง ถ้าหากไม่นำเอาก้อนนี้ออกก่อน
     
     4. ไม่ต้องเติมลมหรือเชคลมยางบ่อยๆ เพราะอะตอมของไนโตรเจนมีขนาดโตกว่าออกซิเจน ซึ่งออกซิเจนสามารถซึมเข้าออกเนื้อยางได้ แต่ไนโตรเจนไม่สามารถซึมผ่านได้ ดังนั้นเมื่อเติมไนโตรเจนจึงทำให้ลมยางไม่ค่อยลดลง จากที่เคยทดลอง 3 เดือน มีการลดลงประมาณ 1 ปอนด์ ซึ่งถือว่าน้อยมาก ในการเติมลมยางเราไม่เติมลมไนโตรเจนเข้าไป 100% เพราะออกซิเจนจากภายนอกจะซึมเข้าหาภายในยาง ทำให้แรงดันลมยางเพิ่มขึ้น โดยปกติจะเติมไนโตรเจนเข้าไป 95% - 97% ให้ออกซิเจนเหลือภายในยางเพื่อต้านออกซิเจนที่จะแทรกจากอากาศภายนอก เพราะฉะนั้นถ้านำไนโตรเจนแบบถังไนโตรเจน 100% มาเติมลมยาง พอใช้ไปออกซิเจนจากภายนอกจะแทรกเข้าไปทำให้ลมยางเพิ่มขึ้นเอง (คุมแรงดันลมไม่ได้)
   
     5. ยืดอายุยาง เพราะในยางรถยนต์ประกอบด้วยสารเคมี ถ้ามีออกซิเจนอยู่มาก ออกซิเจนจะทำปฏิกิริยากับเคมีทำให้เนื้อยางเสื่อมสภาพเร็ว และเนื่องจากไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉื่อย ทำให้ยางมีความร้อนน้อย มีผลให้ยางสึกหรอน้อยตามไปด้วย
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

PETE_S

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 155
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2012, 11:50:49 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ซื้อที่วัดลมดีๆ เช่นของ Michelin ไว้ในรถสักตัวครับ คุณยิ้ม
ล้อ 18"  225-40-R18  หน้า 35 หลัง 37 นะครับ เหมาะมาก  ปลอดภัยต่อล้อด้วย  :-*

ใส่แม็ก18 225-40 พอดี ขอบคุณคับพี่ ;) ;)

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2012, 11:56:58 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ซื้อที่วัดลมดีๆ เช่นของ Michelin ไว้ในรถสักตัวครับ คุณยิ้ม
ล้อ 18"  225-40-R18  หน้า 35 หลัง 37 นะครับ เหมาะมาก  ปลอดภัยต่อล้อด้วย  :-*

พี่ครับถ้าล้อ 17 หน้า หลังเติมเท่าไหร่ดีครับ


 รถ 330i  =     32 หน้า  หลัง 36  แล้วลองขับดูครับ ทดลองแล้วกลับมาเล่าให้ฟังนะครับ :-*

ขอบคุณครับพี่กฤษดา ผมเติมเท่ากันมาตลอดเลยเด่วลองใหม่ครับ


เป็นไงครับ หน้าหายไวไหม การขับคล่องตัวขึ้นไหม  :-*
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

yo-e46

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 2438
Re: ที่เติมลมในปั๊มมันมาตรฐานแค่ไหนครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2012, 11:59:26 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ขับต่างจังหวัดบ่อยมั้ยครับ ไม่ลองลมไนโตรเจนบ้างหละครับ ความร้อนสะสมที่เกิดจากการวิ่งระยะทางที่ยาวลดลงนะครับ เคยใช้infrared termometerวัดครับ ความร้อนต่างกันอย่างเห็นได้ชัดครับ เอาไว้เป็นแนวทางนึงละกันครับ
ไอ้เครื่อง infrared นี่ไปวัดที่ไหนหรอครับ หรือพี่มีอยู่แล้วครับ?? อยากลองวัดมั่งครับ