แบตเตอร์รี่จะทนหรือไม่ทนให้มองไปที่ ค่า CCA สำคัญมาก คำนวณโดยเอา ซีซีของรถ คูณด้วย 0.13 จะได้ค่า CCA ในการสตาร์ทรถแต่ละซีซี ถ้าแบตขายใหม่แต่ถูกเก็บสต็อกมานาน ค่า CCA จะลดลงเรื่อยๆ ตามปี
ตัวอย่าง N42 เครื่องยนต์ขนาด 2000 ซี.ซี. ต้องการ CCA อย่างน้อย 2,000 x 0.13 = 260 แอมป์ CCA ต้องเหลือในแบตเตอร์รี่ ไม่ต่ำกว่า 260 แอมป์ ถึงจะสตาร์ทรถได้ ถ้าต่ำกว่านี้หมายถึงแบตเสื่อมที่เราเข้าใจกัน แต่ยังเอาไปสตาร์ทรถ 1,500 ซีซีได้อยู่นั่นเอง ในการหาแบตเตอร์รี่ ควรดูที่วันเดือนปีที่ผลิตเป็นหลัก หรือที่วงการเรียกว่าแบตสดนั่นเอง และควรชาร์ตอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งด้วยเครื่องมือพิเศษ ที่มีวงจรส่งสัณญาณความถี่สูง ไปสลายซัลเฟต ในแบตเตอร์รี่
ตัวอย่างเช่น CTAK BMW ไม่ใช่เพื่อให้โวทย์หรือแอมป์ที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่เพื่อยังคงค่าเดิม CCA เอาไว้ให้ใช้ได้นานที่สุดเท่านั้นเอง