BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => DIY & FAQs => ข้อความที่เริ่มโดย: chaky ที่ ตุลาคม 01, 2012, 17:25:00
-
สำหรับเครื่องยนต์ N46, N42 และตระกูล N ทั้งหลายที่มี Valvetronic Motor ครับ
กระทู้นี้จัดทำขึ้นสำหรับผู้ที่มีความชำนาญทางด้านเครื่องยนต์และมีความรู้ด้านเครื่องยนต์ในระดับหนึ่งแล้วนะครับ
หากว่ายังไม่มีความรู้พอ อย่าลองทำเองนะครับ เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์ได้ครับ....
ขอขอบคุณ คำแนะนำที่มีคุณค่าของพี่สุเมธ เป็นอย่างสูงครับสำหรับวิธีการเซ็ตกล่องECUปรับตั้งเรียนรู้ตำแหน่งเพลา Eccentric ของ valvetronic ครับ
และขอขอบคุณ มอเตอร์วาล์วโทรนิคที่มีค่า (แพง) ;D ของคุณเชษฐ์ ด้วยนะครับ
นี่คือหน้าตาและตำแหน่งที่ตั้งของ Valvetronic Motor เจ้าปัญหาที่ชอบงอแง ที่ระยะประมาณ 100,000km
-
เครื่องมือที่ต้องใช้
1.ประแจหัว ทอร์ก เบอร์30
2.กรอกแกรก
3.ข้อต่อสั้น และ ข้อต่อยาว
4.บล็อกเบอร์10, 8
5.ไขควงแบน อันเล็ก
6.เข็มขัดรัดสายไฟ
7.เครื่อง GT1 เพื่ออ่านข้อมูลความผิดปกติของรถ
8.เครื่องมืออื่นๆที่จำเป็น
-
เริ่มต้นโดยการถอดแผงกรองอากาศของระบบปรับอากาศออก
มีลูกบิดสามตัว ใช้มือบิดทวนเข็มนาฬิกา มันจะเด้งขึ้นมาเองครับ
จากนั้นก็เอาฝาปิดกรองอากาศออก แล้วก็เอากรองอากาศออก
-
ก็จะเห็น น๊อตหัวทอร์กอยู่4ตัวครับ จัดการถอดออกซะเลย
-
จากนั้นก็เอามือเเกะคลิปล็อคสายไฟชุดควบคุมและสายเเบตเตอรี่ออกจากรางสายไฟครับ
มีล็อคอยู่4ตัวครับ
-
แล้วก็แกะคลิป2ตัวที่ยึดสาย Vacuum ออกด้วยครับ โดยการดันคลิปล็อค Vacuum ปั๊มไปทางซ้ายมือครับ มันแข็งหน่อยนะครับ
-
หลังจากนั้นก็ถอดฝาคลิปล็อคสายแบตออกได้เลยครับ
-
จากนั้นเอามือดึงสายสองสายที่อยู่ในรางคลิปออก ได้เลยครับ
แล้วก็ยกเอาตัวเสื้อกรองอากาศสำหรับระบบปรับอากาศภายในรถออกได้เลยครับ
-
เดี๋ยวมาต่อนะครับ... ขอตัวไปทำต่อที่บ้านนะครับ.............. ;D ;D ;D
ของผมที่มีสายพาดอยู่บนเครื่องยนต์หลายเส้นเพราะมีระบบแก๊สด้วยครับ
-
บ้านคุณ อยู่แถวไหนครับ อยากเป็นเพื่อนบ้านจัง ;) ;) ;)
-
คุณชัคกี้น่าจะถนัดเรื่องถอดนะครับ ดูชวนทำแต่ละอย่าง
-
บ้านคุณ อยู่แถวไหนครับ อยากเป็นเพื่อนบ้านจัง ;) ;) ;)
5555 ขอบคุณครับพี่ Krisada
ผมอยู่ลาดพร้าวครับ อีกบ้านอยู่วัชรพลครับ
ทำงานอยู่แถวรามคำแหง.... ชีพจรรองเท้าจริง วันๆเดินทางไปเกือบทั่วกรุงเทพ
-
คุณชัคกี้น่าจะถนัดเรื่องถอดนะครับ ดูชวนทำแต่ละอย่าง
เก่งทั้งถอด แล้วก็ชอบทั้งใส่เลยครับ... 55555
-
เดี๋ยวพักทานข้าวสักครู่นะครับ เดี๋ยวมาต่อให้ครับผม......
-
ขอโทษนะครับพี่น้องครับสงสัยจะหักโหมซ่อมน้องมีเงินมากไปหน่อย
กะลังนั่งทานข้าวอยู่ดีๆเลือดดันไหลออกมาจมูกเยอะเลยขอตัวไปโรงบาลก่อนนะครับ :-\ :-\
แล้วจะรีบมาอัพต่อให้นะครับ :-X
-
ขอโทษนะครับพี่น้องครับสงสัยจะหักโหมซ่อมน้องมีเงินมากไปหน่อย
กะลังนั่งทานข้าวอยู่ดีๆเลือดดันไหลออกมาจมูกเยอะเลยขอตัวไปโรงบาลก่อนนะครับ :-\ :-\
แล้วจะรีบมาอัพต่อให้นะครับ :-X
อัาว อันนี้มาจากเครียด พักผ่อนก่อนครับ ;)
-
กระทู้นี้ประโยชน์เนื้อๆ ขอบคุรพี่ชักกี้มากครับ สำหรับกระทู้ดีๆมีสาระแบบนี้ ผมขอเมมไว้ประดับความรู้ตัวเองด้วยครับผม
-
ขอโทษนะครับพี่น้องครับสงสัยจะหักโหมซ่อมน้องมีเงินมากไปหน่อย
กะลังนั่งทานข้าวอยู่ดีๆเลือดดันไหลออกมาจมูกเยอะเลยขอตัวไปโรงบาลก่อนนะครับ :-\ :-\
แล้วจะรีบมาอัพต่อให้นะครับ :-X
อัาว อันนี้มาจากเครียด พักผ่อนก่อนครับ ;)
อ่าวไงงั้นอ่ะครับพี่ชักกี้ขอให้หายไวๆนะครับผมเป้นกำลังใจให้ครับพี่
-
ขอบคุณทุกกำลังใจที่เป็นห่วงครับ สงสัยจะโหมงานหนักไปหน่อย.... ตอนนี้โอเคเเล้วครับ มาต่อกันเลยนะครับผม O0
-
จริงๆแล้ว สายที่พาดอยู่บนเครื่องยนต์มีแค่สามเส้นเท่านั้นนะครับ
ที่ของผมมีหลายสายเพราะไปติดแก๊สมาครับ เลยมีสายเพิ่มอีกสองเส้น
ในรูปเส้นสีเหลืองคือสาย Vacuum ปั๊มจากด้านหลังเครื่องยนต์อ้อมไปหาหม้อลมเบรค
เส้นสีน้ำเงินคือสายเซ็นเซอร์ต่างๆจากกล่อง ECU ไปทีเครื่องยนต์
เส้นสีแดงคือสายบวกเเบตเตอรี่ครับ เอาไว้สำหรับเวลารถสตาร์ไม่ติดก็ให้จั๊มที่จุดนี้แหละครับ
-
นี่คือหน้าตาถาดรองน้ำฝนและถาดใส่กรองแอร์ครับ
-
ต่อมาเราจะมาถอดแผงกั้นห้องเครื่องกับบริเวณ Brower แอร์กันครับ
ถ้าไม่ถอดเวลาทีเราเปิดฝาครอบวาล์วมันจะติดที่มุมด้านในฝาครอบวาล์วกับแผงกั้นอันนี้
ทำให้เเกะฝาครอบวาล์วยากขึ้นครับ และจะทำให้ตอนประกอบฝาครอบวาล์วกลับทำได้ง่ายขึ้นด้วยครับ
-
มีน๊อตหัวทอร์ก30 อยู่ 2 ตัว ซ้ายกับขวาครับ.....
ขันออกเลยครับผม
-
จะเห็นว่าหากไม่ถอดแผงกั้นด้านหลังออกไปเวลาเปิดฝาวาล์วจะติดด้านหลังตรงนี้ครับ
-
จากนั้นก็เอามือดึงยางออก(ลูกศรสีแดง)แล้วก็ ดึงท่อ Vacuum ออกมาจากผนังกั้นกล่อง ECU ได้เลยครับ
-
หลังจากนั้นก็เอามือดึงสายเส้นใหญ่สองเส้นขึ้นไปครับ (ธรรมดาจะมีแค่เส้นเดียวรถผมมีสายควบคุมแก๊สเพิ่มมาอีกเส้น)
แล้วก็เอามือบิด กิ๊ปล็อคสีดำสองตัวออกมาเลยครับ
-
ผนังพลาสติกกั้น ECU ก็จะหลุดออกมาแบบนี้ครับ
-
ต่อไปก็ย้ายมาอีกฝั่งกันครับ ดึงหัว Vacuum ปั๊มออกจากหม้อลมเบรคครับ
ขั้นแรกต้องปลดคลิป ล็อคสีดำครึ่งบนออกครับ เอามือเเงะออกได้เลยครับ ออกเเรงนิดหน่อย
-
ขั้นที่สองก็ดึงหัว Vacummp ออกจากหม้อลมเบรคเลยครับ ต้องออกแรงหน่อยนะครับ
-
ขั้นที่สาม เอาสาย Vacuum ปั๊มออกไปจากช่องหม้อลมเบรคเลยครับ
ก่อนดึงสาย Vacuum ต้องปลดล็อคเจ้าตัวสีดำนี่อีกตัวครับ (ลูกศรสีน้ำเงิน)
เนื่องจากสาย Vacuum ปั๊มค่อนข้างจะเเข็งก็ต้องระมัดระวังในการถอดกันหน่อยนะครับ
ดึงขึ้นตามลูกศรแล้วก็ต้องบิดไป บิดมาจนกว่าสาย Vacumm จะหลุดออกจากบริเวณ
นี้แหละครับ ยากหน่อยนะครับ
-
แล้วก็ถอดผนังกั้นห้องเครื่องกับ Brower แอร์ได้เเล้วครับ
-
ดึงผนังกั้นออกมาแล้ว หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ เห็นเข้าไปถึง Brower แอร์เลยครับ ที่อยู่ด้านในลึกนั่นแหละครับ
-
ขั้นตอนต่อไปก็ถอดเอา สายท่อไอน้ำมันเครื่องออก(สีน้ำเงิน) โดยการบีบปลายท่อครับ จะมีที่ให้บีบเเล้วก็ดึงออกได้ง่ายๆเลยครับ
จากนั้นก็เอาท่อสายคอล์ยจุดระเบิดออกจากฝาครอบวาล์วได้เลยครับ (ศรสีเหลือง)
-
แล้วก็อย่าลืมปลดคลิปล็อคท่อเส้นนี้ออกด้วยครับ
-
ตอนนี้ก็ เคลียร์อุปสรรคที่ขวางอยู่บนฝาวาล์วหมดเเล้วนะครับ
นี่ยังไม่ทันเริ่มถอดฝาครอบฝาวาล์วเลย เล่นเอาเหนื่อยซะแล้ว.....สำหรับคนที่จะถอดครั้งแรกคงเป็นชั่วโมงอยู่นะครับ
บางทีอาจจะสองชั่วโมงได้ ถ้าอุปกรณ์และเครื่องมือไม่ครบ.... ก็พยายามกันหน่อยนะครับ
-
มาเริ่มเปิดฝาปิดฝาครอบวาล์วกันเถอะครับ...
ขั้นแรกต้องเปิดฝาที่เติมน้ำมันเครื่องออกมา
แล้วก็บิดไปบิดมา ให้ฝาหลุดออกมาครับ
-
ขั้นที่สองล้วงมือไปด้านหลังเครื่องครับแล้วดึงขึ้นตรงๆ
ขั้นที่สามก็ดึงด้านหน้าขึ้นมาครับ
ฝาปิดฝาครอบวาล์วตัวนี้มันเห็นกิ๊บล็อคเฉยๆครับ
-
หลังจากถอดฝาปิดฝาคลอบวาล์วแล้ว จะสังเกตุเห็นว่าด้านหลังมีคลิปยางอยู่สองตัวครับ
-
นี่คือสภาพฝาคลอบวาล์วที่ถอดฝาปิดแล้วครับ....
ปลดสายมอเตอร์ Valvetronic ที่ตูดโดยการบีบที่คลิ๊บล็อกแล้วก็ดึงออกครับ
-
จากนั้นก็ปิดฝาที่เติมน้ำมันเครื่องกลับเข้าไปก่อนครับ เดี๋ยวสิ่งสกปรกจะตกลงไป
ก็จะเห็น เซ็นเซอร์เพลา eccentric (สีเหลือง) จะมีคลิปล็อคเล็กๆอยู่สองตัว
คอล์ยจุดระเบิดสูบทั้งสี่สูบ วิธีถอดปลั๊กคอล์ยจุดระเบิดก็แค่ดึงฝาคอล์ยจุดระเบิดขึ้นแล้วปลั๊กมันจะหลุดออกมาเองครับ
-
จากนั้นก็เอาด้ามไขควงหรือว่าเหล็กอะไรก็ได้มางัดกับหัวปลั๊กคอล์ยจุดระเบิดกับฝาวาล์วออก
เพราะว่าคอล์ยจุดระเบิดเวลาใส่ลงไปในเครื่องยนต์แล้วมันจะดูด(สูญญากาศ)กับหัวเทียนครับ
จึงค่อนข้างแน่นเวลาที่จะดึงมันออกมาครับ ค่อยๆงัดนะครับ ระวังฝาครอบวาล์วแตก(แต่คงจะไม่มีทาง)
ถอดคอล์ยจุดระเบิดออกมาทั้งสี่สูบ แนะนำว่าควรจะหาปากกาเมจิก มาเขียนที่คอล์ยจุดระเบิดของ
แต่ละสูบเวลาใส่กลับจะได้ไม่ใส่ผิดสูบนะครับ
-
จากนั้นมาด้านหน้าเครื่องครับ ถอดน๊อตเบอร์10 ยึดรางสายเซ็นเซอร์ออกครับ มีสองตัว
-
จากนั้นเอาไขควงอันเล็ก งัดคลิปล็อคสเตนเลสออก แล้วก็ดึงปลั๊กโซลีนอย์ออกทั้งสองตัว(ศรสีเหลือง)
-
บ้านคุณ อยู่แถวไหนครับ อยากเป็นเพื่อนบ้านจัง ;) ;) ;)
5555 ขอบคุณครับพี่ Krisada
ผมอยู่ลาดพร้าวครับ อีกบ้านอยู่วัชรพลครับ
ทำงานอยู่แถวรามคำแหง.... ชีพจรรองเท้าจริง วันๆเดินทางไปเกือบทั่วกรุงเทพ
ลาดพร้าว วัชรพล บ้านเพื่อนผมหลายบ้าน ผมจะขอไปอยู่บ้านเพื่อนสักพัก ( ฮ่า ) ;)
-
มอเตอร์ตัวนี้มันเสียแล้วอาการรถมันเป็นอย่างไร/ทำไมเราถึงต้องแก้ไขมัน วานบอก..ทีครับ
-
มอเตอร์ตัวนี้มันเสียแล้วอาการรถมันเป็นอย่างไร/ทำไมเราถึงต้องแก้ไขมัน วานบอก..ทีครับ
มอเตอร์ Valvetronic คือมอเตอร์ที่ใช้ปรับองศาให้วาล์วไอดีเปิดปิดปรับระยะความสูงได้โดยอัตโนมัติหรือ
ที่รถญี่ปุ่นชอบเรียกว่า VVT นั่นแหละครับ (Variable Valve Timing)
หากมอเตอร์ตัวนี้เสีย OBC จะฟ้องไฟเตือน eml ครับ และรถจะวิ่งไม่ออก ขับได้ไม่เกิน 40 กม./ชม.
รายละเอียด ลองใช้ อากู๋ หาดูครับ พิมพ์คำว่า valvetronic ใน youtube มีเพียบเลยครับ
-
ลาดพร้าว วัชรพล บ้านเพื่อนผมหลายบ้าน ผมจะขอไปอยู่บ้านเพื่อนสักพัก ( ฮ่า ) ;)
ยินดีครับ พี่ Krisada แวะเวียนมาเมื่อไหร่ ก็มาพบปะกันทานชาทานกาแฟกันได้ครับพี่.. :D
-
ต่อเลยนะครับ หลังจากนั้น ก็ขึ้นไปที่มอเตอร์ Valvetronic ครับ
จะมีสาย กราวด์ ของคอล์ยจุดระเบิดอยู่สองที่ครับ ข้างๆมอเตอร์ Valvetronic ครับ
น๊อตเบอร์10 อีกเช่นเคยครับ
ต้องระวังอย่าให้น๊อตตัวใดตัวนึงหล่นลงไปในห้องเครื่องนะครับ ไม่งั้นงานเข้าแน่นอนครับ
-
หลังจากนั้นก็ปลดหัวเซ็นเซอร์เพลา eccentric ออก
แล้วก็ดค่อยๆดึงรางสายคอล์ยจุดระเบิดออกจากฝาครอบวาล์วครับ
ผมเอาเชือกฟางมาผูกติดกับสายไฟบวกแบต มันจะได้ไม่เกะกะครับ
แต่ว่ามันก็เกะกะอยู่ดีครับ สายไฟ สายเซ็นเซอร์ยั้วเยี๊ยะไปหมด
บางทีก็รำคาญมันเหมือนกันนะครับ
-
ทีนี้ก็จะเผยให้เห็นถึงความขาวนวลเอ๊ย ความสวยงามของฝาครอบวาล์วเต็มๆซะที
จะสังเกตุเห็นว่า บนเครื่องยนต์มีสายอยู่แค่สองเส้นเท่านั้น เพราะว่าเราเอาสาย Vacuum
ไปหลบไว้ที่อื่นแล้วไงล่ะครับ
-
ต่อจากนี้ไปของจริงแล้วนะครับ....
ขั้นตอนการถอดฝาครอบวาล์ว
น๊อตฝาครอบวาล์วทั้งหมดจะเป็นเบอร์10 ครับ
มีรอบนอกโครงฝาครอบวาล์ว 11 ตัว
และรอบในตรงมอเตอร์ Valvetronic อีก 5 ตัว
ในรูปสีเหลืองคือมองเห็นได้ง่าย สีน้ำเงิน มันจะหลบอยู่ด้านล่าง เข้าถึงยากหน่อยนะครับ
ส่วนตัวสีแดงเป็นน๊อตพิเศษครับ ไม่เหมือนชาวบ้านเขา
-
นี่คือน๊อตสองตัวที่หลบอยู่ด้านหลัง บริเวณท้ายเครื่องครับ ที่วงสีน้ำเงินในรูปที่เเล้ว
-
น๊อตบริเวณรอบมอเตอร์ Valvetronic มีทังหมด 5 ตัว
4ตัวหัวจะเป็นสีดำ และยาวสั้นไม่เท่ากัน (วงกลมสีเขียว) ตัวดำด้านขวาในรูป จะสั้นกว่าตัวดำด้านซ้าย
เพราะฉะนั้นตอนถอดน๊อดออก อย่าลืมใส่กลับให้ถุกตำแหน่งและความยาวของน๊อตด้วยนะครับ
ส่วนอีก 1 ตัวที่เหลือ(วงกลมสีเหลือง) หัวน๊อตจะเป็นสีขาว เหมือนกับน๊อตรอบนอกฝาครอบวาล์วอีก 10 ตัว
เพราะอีกตัวหนึ่งเป็นหัวน๊อตชนิดพิเศษ
-
มาเริ่มคลายน๊อตที่บริเวณมอเตอร์ Valvetronic กันก่อนเลยครับ
คลายออกมาสุดแล้วเอามือดึงน๊อตขึ้นมาได้เลยครับ และนี่คือน๊อตหัวดำตัวสั้นและตัวยาว
-
แล้วก็คลายน๊อตรอบนอกฝาครอบวาล์วออกให้หมดครับ จะมีตัวเจ้าปัญหาก็คือน๊อตในวงกลมสีแดง
ที่บอกไว้เมื่อกี้ มันเป็นน๊อตพิเศษ 2 เกลียวครับ มีเกลียวเล็กเบอร์8 อยู่บนหัวน๊อตเบอร์ 10
ก็ค่อยๆถอดออกมาทีละตัว ตัวเบอร์8 เอาไว้ยึดสาย Vacuum หลังจากถอดตัวบนออก ก็ถอดน๊อตเบอร์10
ที่ยึดฝาครอบวาล์วออกอีกทีนึงครับ
ทีนี้ก็ค่อยๆใช้ความพยายามดึงฝาวาล์วขึ้นจากเสื้อฝาวาล์วนะครับ
มันจะค่อนข้างแน่นสำหรับฝาวาล์วที่ยังไม่เคยเปิด จะเอาค้อนยางเคาะเบาะ หรือแรงๆหน่อยก็ได้
เพื่อให้ยางฝาวาล์วมันขยับตัวแล้ว ทีนี้ก็ยกฝาวาล์วออกมาได้เลยครับ
-
และนี่คือโฉมหน้าของ คอล์ยจุดระเบิดทั้ง4ลูก เขียนบอกคอล์ยจุดระเบิดแต่ละสูบไว้เรียบร้อย
และน๊อตฝาครอบวาล์วรอบนอก
จะเห็นว่าตัวสุดท้ายด้านซ้ายผมวางกลับหัวนะครับ จริงๆมันจะมีเกลียวเล็กๆอยู่บนน๊อตอีกที อย่างที่เห็นในรูปเลยครับ
-
อันนี้วางกลับหัวใหม่ให้ดูกันชัดๆอีกทีครับ
-
ขณะที่เราพยายามยกฝาครอลวาล์วออกมามันจะติดโน่น ติดนี่
ติดสาย Vacuum ตรงท้ายเครื่อง ติดเหล็กค้ำของเพลา eccentric ด้านหลัง(วงสีเหลือง)
ติดสายคอล์ยจุดระเบิด ติดรางสายเซ็นเซอร์ต่างๆ ยังไงก็ใช้ความใจเย็นค่อยๆ
เอามันออกมานะครับ
-
หลังจากเปิดฝาครอบวาล์วออกมาได้อย่างยากลำบาก สำหรับผู้ที่ยังไม่ชำนาญอาจจะต้องใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง หรือมากกว่า
ก็จะเผยให้เห็นเจ้ามอเตอร์ Valvetronic เจ้าปัญหาตัวนี้ล่ะครับ
เช่นเดียวกับน๊อตตัวอื่น เจ้ามอเตอร์ Valvetronic ก็ถูกยึดด้วยน๊อตเบอร์ 10 สองตัวครับผม
และที่ผมสังเกตุดู จะมองเห็นเฟืองรูปครึ่งพระจันทร์ที่ขบอยู่กับเฟืองตัวหนอนของมอเตอร์ Valvetronic ขบกันทางด้านขวาสุด
แสดงให้เห็นว่ามอเตอร์ Valvetronic มันขับเฟืองของเพลา eccentric ไปตำแหน่งที่วาล์วไอดีเปิดสูงที่สุด
และมันจะค้างอยู่ตำแหน่งนี้ ผลที่ตามมานะครับ เครื่องสตาร์ทได้ ไฟ eml ไม่ขึ้น แต่วิ่งไปหากความเร็วเกิน 40 กม./ชม
ไฟเฟืองเกียร์จะขึ้นแทนครับ เรื่องวิเคราะห์ปัญหา เดี๋ยวจะวิเคราะห์ให้ทีหลังนะครับ
-
วิธีถอดมอเตอร์ Valvetronic ก็ง่ายๆครับ คลายน๊อตออก
แล้วก็เอามือหมุนเพลาของมอเตอร์ Valvetronic ทวนเข็มนาฬิกาครับ
เอามือซ้ายประคองมอเตอร์ไว้ ค่อยๆหมุนไปเรื่อยๆครับ มอเตอร์มันจะค่อยๆถอยออกมาเองครับ
-
ตอนใส่ก็มีวิธีการครับ ใส่มั่วๆไม่ได้ครับ ไม่งั้นจะ งานเข้าเหมือนผมงมอยู่อีก 3 วันเพราะความไม่รู้
สุดท้ายได้คำแนะนำที่มีคุณค่าจากพี่สุเมธ และได้ช่วยชีวิตผมจากความมืดมน อยู่หลายวัน
เครียดจนไม่สบายเลยครับ นึกว่าเครื่องจะพังซะแล้วเดี๋ยวจะบรรยายให้ฟังนะครับ :o :o :o
โปรดติดตามตอนต่อไป...... ;D ;D ;D
-
;) ;) ;) จะมารอชมต่อนะครับ :-X
-
หลังจากถอดมอเตอร์ Valvetronic เรียบร้อยเเล้วก็มาถึงขั้นตอนการเปลี่ยนซีล โอริงต่างๆครับ
ที่ด้านหน้ามอเตอร์จะมี โอริงอยู่ 1 ตัวครับ ลองเช็คสภาพดูหากมันเเข็งๆไม่ยืดหยุ่นแล้วก็ควรจะเปลี่ยนครับ
ไม่งั้นน้ำมันจะรั่วเครื่องจะรั่วออกมาได้ครับ เบิกห้าง โอริงตัวละ 140 บาทครับไม่แพง
แต่เจ้ามอเตอร์ valvetronic นี่สิ ตัวละหมื่นหนึ่งพันกว่าบาทครับ
ถอดออกมาทั้งทีก็ลอง ป้อนไฟ 12 โวล์ทเข้าไปที่มอเตอร์(ขั้วไฟเบอร์2)เช็คดูว่ายังหมุดดีอยู่รึเปล่าจะได้ไม่ต้องเสียเงิน
ซื้อมอเตอร์ตัวใหม่ครับ
ตอนผมลอง ผมเอาภาคจ่ายไฟปรับค่าได้มาลองที่มอเตอร์ครับ ต่อขั้วบวก กับลบ แล้วค่อยๆเพิ่มโวล์ทขึ้นไปมอเตอร์เริ่มหมุนไปทางหนึ่ง
จากนั้นก็สลับขั้วบวก ลบ แล้วค่อยๆเพิ่มโวล์ทขึ้นไปเหมือนเดิม ทีนี้มอเตอร์จะต้องหมุนกลับทางกับเมื่อสักครู่ เนื่องจากเป็นมอเตอร์ไฟแรงต่ำ
แค่12โวล์ท จึงทำให้เวลาทดสอบ มันจะกินกระแสไฟค่อนข้างสูง ผมลองให้มอเตอร์วิ่งตัวเปล่าก็กินกระแสไปตั้ง 5 เเอมป์แล้วครับ (ประมาณ 60 วัตต์)
พอลองเอามือกดไปที่เพลามอเตอร์ แรงบิดมอเตอร์ ค่อนข้างแรงครับ กินกระแสเพิ่มขึ้นเป็น 6.5แอมป์ แต่ภาคจ่ายไฟผมจ่ายไม่ไหว โวล์ทมันเลยตก
แต่ก็พอทดสอบได้ครับว่ามอเตอร์ยังทำงานปกติดีรึเปล่า เพราะเวลาทำงานจริง มันต้องไปขับ เพลา Eccentric จะกินกระเเสมากกว่านี้อีกครับประมาณ 10 เเอมป์
-
จากนั้นก็ดูที่ เพลา eccectric ว่า เฟืองครึ่งพระจันทร์ หันไปทางไหนครับ ถ้าอยู่ด้านขวา ต้องหมุนให้ไปอยู่ ด้านซ้ายครับ
ตอนจะหมุนไปด้านซ้ายต้องระวังหน่อยนะครับ อย่าทำให้เฟืองชำรุดนะครับ และก็ต้องระวังมือด้วยครับ เพราะเฟืองค่อนข้างคม
แล้วมันก็มีแรงสปริงอยู่ด้วยครับ หากไม่ระวังเดี๋ยว เฟืองงับนิ้วขึ้นมาละก็ งานเข้าแน่ครับ ประกอบกับแรงสปริง ดีไม่ดีนิ้วจะขาด เอานะครับ เพราะฉะนั้นกรุณาระวังด้วยนะครับ
รูปแรกเเสดง ว่ามอเตอร์วาล์วโทรนิคมีปัญหา เพราะว่าเฟืองเพลา eccentric มันไปทางด้านขวาสุด (จะทำให้เปิดวาล์วไอดีสูงสุดไว้ตลอดในจังหวะดูดของเครื่องยนต์ Full lift)
รูปสองแสดงให้เห็นว่า ก่อนใส่มอเตอร์ Valvetronic ต้องบิดเพลา eccentric มาที่ตำแหน่งนี้ก่อน จึงค่อยใส่มอเตอร์กลับเข้าไป โดยการหมุนแกนมอเตอร์ตามเข็มนาฬิกา
จนมอเตอร์เข้าไปขบกับเฟืองเพลา eccentric จนสุด แล้วค่อยขันน๊อตเบอร์10 ยึดมอเตอร์ให้แน่น
-
ถ้าหากระบบ Valvetronic ของรถไม่มีปัญหา เวลาเปิดฝาครอบวาล์วออกมา
เฟืองของเพลา eccentric มันจะอยู่ขึ้นไปด้านบนค่อนไปทางด้านซ้ายนิดนึงครับ ตามรูปเลยครับ
-
หลังจากใส่มอเตอร์ valvetronic เข้าไปเรียบร้อยแล้วก็มาถึงตอนที่เราจะทำการตั้งค่า ตำแหน่งเพลา eccentric
เพื่อให้ECUเรียนรู้ตำแหน่งสูงสุดและตำสุดของเพลา eccentric
เนื่องจากเฟืองรูปพระจันทร์ จึงทำให้มอเตอร์ Valvetronic เดินหน้าได้ถึงจุดหนี่งคือจุดสูงสุด ครึ่งวงกลมไปด้านขวา
และถอยหลังไปถึงอีกจุดหนึ่งคือจุดต่ำสุด ครึ่งวงกลมไปด้านซ้าย เราจึงต้องทำการสั่งให้มอเตอร์เรียนรู้ตำแหน่ง
สูงสุดและต่ำสุดอีกครั้ง เพราะเราเพิ่งทำการถอยมอเตอร์ Valvetronic ออกมานั่นเอง
อย่าลืมใส่สายไฟมอเตอร์ Valvetronic และสายเซ็นเซอร์เพลา eccentric กลับไปด้วยนะครับ
การปรับตั้งต้องอาศัย เครื่องวิเคราะห์ GT1 และโปรแกรม DIS
หลังจากเปิดโปรแกรม DIS และเลือกรุ่นของรถให้ถูกต้องแล้ว
ให้ทำการสั่งให้โปรแกรมทดสอบระบบอย่างเร่งด่วน (Quick Test) ที่หน้าโปรแกรมหลักก่อนนะครับ (วงกลมสีน้ำเงิน)
รอจนระบบทำการวิเคราะห์แบบเร่งด่วนเสร็จก็จะฟ้องปัญหาต่างๆที่ตรวจพบ
1.ให้คลิกไปที่ ฟังก์ชั่นควบคุม (Control Unit Function) ด้านล่างขวาใกล้ๆ ลูกศรขวามือ
2.จากนั้นก็คลิกไปที่ (ชืออะไรจำไม่ได้) ด้านล่างซ้ายมือใกล้ๆลูกศรซ้ายมือ
3.คลิกไปที่ ฟังก์ชั่นบริการ (Service function)
4.คลิกไปที่ ระบบขับเคลื่อน (Drive)
5.คลิกไปที่ ระบบควบคุมมอเตอร์อิเลคทรอนิคส์ (DME)
6.คลิกไปที่ ปรับตั้งเรียนรู้ตำแหน่งValvetronic
7.คลิกไปที่ ตารางทดสอบ (Test Schedule)
-
จากนั้นหน้าจอจะเปลี่ยนไปที่หน้า ตารางทดสอบ
ก็ให้ทำตามคำสั่งของโปรแกรม (วงกลมสีเหลือง)
เมื่อทำตามแล้วก็ให้คลิกลูกศรขวา (วงกลมสีแดง)
ทำตามตำสั่งไปเรื่อยๆครับ แล้วระบบก็จะปรับตั้งและเรียนรู้ตำแหน่งสูงสุด และต่ำสุดของเพลา eccentric เองโดยอัตโนมัติครับ
เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการตั้ง Valvetronic และการเรียนรู้ตำแหน่งเพลา eccentric
-
ไหนๆก็ถอดฝาวาล์วออกมาถึงขนาดนี้แล้ว ก่อนจะปิดกลับเข้าไป ก็ถือโอกาสเช็คโอริงต่างๆ และซีลต่างๆไปเลยซะทีเดียว
สิ่งที่ควรจะตรวจเช็ค
1.ยางฝาวาล์วครับ ทั้งรอบนอกฝาวาล์ว และรอบในที่มอเตอร์ Valvetronic ว่ายางหมดสภาพเเข็งตัวรึยัง
2.โอริงที่ฝาคลอบคอล์ยจุดระเบิด (เปลี่ยนได้เฉพาะสูบ 1 กับ สูบ 4 เพราะ อีกสองสูบมันติดอยู่ใต้ฐานยึดมอเตอร์ Valvetronic)
3.หัวเทียน ควรเปลี่ยนทุกๆ 40,000 km สำหรับหัวเทียนมาตรฐานของ BMW
4.ตรวจสอบ คอล์ยจุดระเบิด หรือเปลี่ยนหากชำรุด
5.ซีลที่หัวมอเตอร์ Valvetronic
6.ทำความสะอาดเซ็นเซอร์เพลา eccenctic (มีน๊อตเบอร์ 10 อีกสามตัวยึดเซ็นเซอร์อยู่ครับผม)
7.ซีลที่ Vacumm ปั๊ม ท้ายเครื่องยนต์ (ต้องถอดน๊อตเบอร์10 อีกสามตัวที่ยึด Vacuum อยู่ด้วยนะครับ)
8.ซีลฝาปิดน้ำท้ายเครื่อง (ต้องถอดน๊อตเบอร์ 10 อีกสี่ตัวที่ยึดฝาปิดเอาไว้ด้วยนะครับ
9.กรองแอร์ละเอียด (ด้านหน้าBrower)
-
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยก็ประกอบย้อนขั้นตอนมีข้อควรระวังเล็กน้อยตอนปิดฝาครอบวาล์วครับ
ยางฝาวาล์วต้องสะอาดและตรงที่ยางฝาวาล์วจะสัมผัสกับเครื่องจะต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย
และจะต้องเอาปะเก็นเหลวมาทาที่บริเวณรอยโค้ง และรอยเว้าก่อนที่จะประกอบฝาวาล์วกลับเข้าที่
ตามรูปที่แนบมาให้ครับ
รูปแรก รอยเว้าด้านหน้าเครื่องสองตำแหน่ง (สี่จุดที่ต้องทาปะเก็น)
รูปสอง รอยเว้าด้านหลัง (สองจุดที่ต้องทาปะเก็น)
รูปสาม รอยโค้งด้านหลังเครื่องครับ บริเวณที่Vacuumปั๊ม (สองจุดที่ต้องทาปะเก็น)
-
ตรวจเช็คตำแหน่งยางฝาวาล์วว่าแนบสนิทกับรอยโค้งรอยเว้าทั้งหมดให้พอดี
ก่อนที่จะเริ่มทำการขันยึดฝาวาล์วให้แน่น เริ่มจากตรงกลางออกไปด้านนอก
มาเริ่มกันที่ น๊อตยึดรอบๆมอเตอร์ Valvetronic ขันตามตัวเลขเลยนะครับ
-
จากนั้นก็ขันน๊อตรอบนอกฝาวาล์วทั้ง 11 ตัวต่อเลยครับ
-
ใส่สายมอเตอร์ Valvetronic
ใส่สายเซ็นเซอร์ eccentric
ใส่คอล์ยจุดระเบิดทั้งหมด
ประกอบรางสายเซ็นเซอร์เเละคอล์ยจุดระเบิด
อย่าลืมต่อสายกราวด์ของคอล์ยจุดระเบิดกับตัวเรื่อนเครื่องยนต์ด้วยนะครับ
ถึงจุดนี้เช็คว่าลืมต่ออะไรไปหรือไม่ มีสายเส็นไหนที่ยังไม่ได้ต่อหรือไม่
หากเช็คดีแล้ว ก็สตาร์ทเครื่องยนต์ได้เลยครับ แล้วออกมาดูว่ามีเสียงอะไรผิดปกติหรือไม่ มีกลิ่มอะไรไหม้ๆเเปลกๆหรือไม่
หากเป็นปกติดีทุกอย่างก็ปิดพลาสติกครอบฝาครอบวาล์ว
แล้วก็เก็บสายทุกอย่างให้เข้าที่ประกอบย้อนขั้นตอนขึ้นไปจนถึงอุปกรณ์ชิ้นแรกที่ถอด เป็นอันเสร็จพิธีครับ...
ก็ขอจบการ DIY การเปลี่ยนมอเตอร์ Valvetronic แต่เพียงเท่านี้นะครับ
หากผิดพลาดประการใด ก็ชี้แนะด้วยนะครับ.....
การทำ DIY ครั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ต้องการศึกษาหาข้อมูล เป็นเพียงตัวอย่างและแนวทางเท่านั้น หากเกิดความเสียหายใดๆ
ก็รับผิดชอบกันเอาเองนะครับ..... :-* :-* :-*
-
สุดยอดจริงๆ ขอคารวะครับ
:-X ;)
-
คุณชัคกี้ ใส่ signature ในบอร์ดของตัวเองไปเลยครับว่า
"BELIEVE ME I'M AN ENGINEER"
เชื่อแล้วครับ
มอเตอร์ตัวนี้มันเสียแล้วอาการรถมันเป็นอย่างไร/ทำไมเราถึงต้องแก้ไขมัน วานบอก..ทีครับ
ตอนที่รถผมออกอาการเครื่องสะอึกตอนจอด(ประมาณเปลี่ยนเกียร์สองเป็นเกียร์หนึ่ง)
เอา GT1 จับดู มันแจ้ง error ที่มอเตอร์วาล์วโทรนิคเหมือนกันครับ
แต่ลองเอามาเปลี่ยนกี่อันก็ไม่หาย ปรากฎว่าศูนย์ยูโรป้าจัดเซ็นเซอร์วาล์วโทรนิคให้
รวมถึงเปลี่ยนแอร์แมสอันใหม่ ถึงหายสะอึก แถมทางศูนย์ไม่ยอมบอกว่าจริงๆแล้วเป็นที่อะไร
และยังเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้
มอเตอร์วาล์วโทรนิคส์ที่ส่งต่อให้คุณชัคกี้ก็คืออันอันที่ผมถอดออกมาเปลี่ยนเพราะเครื่อง GT1 บอกนั่นแหละครับ
ปรากฎว่าที่มันไม่หมุนเพราะเป็นที่เซ็นเซอร์เลยมีเหลือเก็บอันนึง และรู้สึกดีใจที่มันมีประโยชน์ครับ
-
คุณชัคกี้ ใส่ signature ในบอร์ดของตัวเองไปเลยครับว่า
"BELIEVE ME I'M AN ENGINEER"
เชื่อแล้วครับ
มอเตอร์ตัวนี้มันเสียแล้วอาการรถมันเป็นอย่างไร/ทำไมเราถึงต้องแก้ไขมัน วานบอก..ทีครับ
ตอนที่รถผมออกอาการเครื่องสะอึกตอนจอด(ประมาณเปลี่ยนเกียร์สองเป็นเกียร์หนึ่ง)
เอา GT1 จับดู มันแจ้ง error ที่มอเตอร์วาล์วโทรนิคเหมือนกันครับ
แต่ลองเอามาเปลี่ยนกี่อันก็ไม่หาย ปรากฎว่าศูนย์ยูโรป้าจัดเซ็นเซอร์วาล์วโทรนิคให้
รวมถึงเปลี่ยนแอร์แมสอันใหม่ ถึงหายสะอึก แถมทางศูนย์ไม่ยอมบอกว่าจริงๆแล้วเป็นที่อะไร
และยังเป็นปริศนามาจนทุกวันนี้
มอเตอร์วาล์วโทรนิคส์ที่ส่งต่อให้คุณชัคกี้ก็คืออันอันที่ผมถอดออกมาเปลี่ยนเพราะเครื่อง GT1 บอกนั่นแหละครับ
ปรากฎว่าที่มันไม่หมุนเพราะเป็นที่เซ็นเซอร์เลยมีเหลือเก็บอันนึง และรู้สึกดีใจที่มันมีประโยชน์ครับ
5555 ขอบคุณครับคุณเชษฐ์ :-X ผมเองก็ทำไปเรื่อยๆครับ ไม่เคยคิดว่าตัวเองแน่อะไรหรอกครับ
ตอนแรกที่ถอดออกมาแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ ก็เหงื่อตกจริงๆครับ คิดในใจไม่น่าเลยตรู
ก็เป็นเพราะความช่วยเหลือของ คุณเชษฐ์ เเละคำแนะนำของพี่สุเมธถึงทำให้ผม ฮึดกลับมา
ลองดูกับมันอีกสักตั้ง... ในที่สุด ก็ทำสำเร็จจนได้ครับ
คุณเชษฐ์ช่วยผมประหยัดเงินไปเป็นหมื่น ผมก็ตอบแทนโดยการแบ่งปันเรื่องราวที่ผมเรียนรู้มาจากการทำเอง
ของผมนี่แหละครับ จะได้ไม่มีใครต้องเสียเงินไปฟรีๆ เนื่องจากโดนทางศูนย์จับเปลี่ยนโน่น เปลี่ยนนี่
ผมก็คิดว่าคงจะช่วยพี่น้อง ชาว E46thailand ได้ไม่มากก็น้อยครับ
และที่สำคัญหากไม่ได้รับคำแนะนำอย่างใจเย็นของพี่สุเมธ ผมก็ไม่สามารถทำได้แน่นอนครับ :-X
พี่เค้าค่อยๆ บอกถึงเหตุและผล ค่อยๆอธิบาย จนผมเข้าใจเลยครับ ถึงแม้ว่าจะโทรไปรบกวน
ตอนเวลาทำงานของพี่เค้า พี่เค้าก็สละเวลารับสาย เสมอเลยครับผม
แถมช่วงนี้พื่เค้าแนะนำให้ผมลองดูระบบระบายความร้อน พวกหม้อน้ำปั๊มน้ำและวาล์วน้ำต่างๆ
แต่ผมยังไม่เคยจับงานพวกนี้ ก็กำลังศึกษาอยู่ครับ หากว่าทำแล้วได้ผลดียังไง
จะมา DIY ให้อีกหนึ่งหัวข้อนะครับ.....
-
เอ๊ะ ผมลีมบอกไปในกระทู้เลยครับว่า ปัญหาที่ผมต้องถอดมอเตอร์ Valvetronic ออกมาเพราะสาเหตะอะไร
เดี๋ยวขอไปค้นข้อมูลในรูปภาพที่ถ่ายเอาไว้ก่อนนะครับว่า อาการเริ่มแรกมันเป็นยังไงกันแน่.....
แล้วจะมาอัพเดทให้อีกทีนะครับ
-
อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นคือ
เมื่อประมาณสองปีที่แล้วครับ ผมขับรถอยู่ดีๆ ไฟเตือน eml มันก็ติดขึ้นมาครับ
กล่อง ECU ก็เลยปรับรถให้ขับสู่โหมดฉุกเฉินครับ
คือเร่งความเร็วได้ไม่เกิน 40 กม./ชม แล้วก็วิ่งได้ไม่เกินเกียร์ 2 ครับ
ผมเลยค่อยๆขับเข้าไปที่อู่แถวๆนั้นครับ
พอไปถึงที่อู่ก็ดับเครื่องแล้วพอสตาร์ทใหม่อีกที อาการมันดันหายไปครับ
ลองอยู่หลายทีก็ไม่มีอาการอีกครับ เลยขับรถกลับบ้านไปก่อน
หลังจากผ่านมาประมาณสองปี เมื่อสองอาทิตย์ก่อน ไฟเตือน eml มันกลับมาอีกครับ
ทีนี้ ดับเครื่องสตาร์ทใหม่ยังไงก็ไม่หาย งานเข้าของจริงครับทีนี้.....
พอดีตอนนี้ผมมี GT1 ก็เลยเอาไปวิเคราะห์ความผิดปกติ ตรวจสอบพบความผิดปกติอยู่ 3 อย่างครับ
1. 2C9C หรือ P0030 คือ Oxygen sensor heater before catalytic (ตัวทำความร้อนออกซิเจนเซ็นเซอร์ก่อนแคท)
คำอธิบาย Open Circuit คือ เซ็นเซอร์เสียนั่นเองครับ
ความผิดปกตินี้อาจจะทำให้ไฟเตือนเครื่องยนต์ติด eml
2. 2A67 หรือ P1050 คือ Valvetronic, internal fault (ความผิดปกติภายในมอเตอร์ Valvetronic)
คำอธิบาย Short circuit of motor line คือ ลัดวงจรภายในมอเตอร์ Valvetronic
ความผิดปกตินี้อาจจะทำให้ไฟเตือนเครื่องยนต์ติด eml
3. 2A6B หรือ P1062 คือ Valvetronic, power limitation (การจำกัดกำลังไฟฟ้าของมอเตอร์ Valvetronic)
คำอธิบาย Eccentric angle does not move to full lift คือ มุมของเพลา Eccentric ไม่ปรับสู่ตำแหน่งที่วาล์วไอดีจะเปิดสูงสุด)
ความผิดปกตินี้อาจจะทำให้ไฟเตือนเครื่องยนต์ติด eml
-
ด้วยความที่เคยซนถอดฝาครอบวาล์วออกมาเปลี่ยนซีลฝาวาล์วเเล้วครั้งนึง(แต่คราวก่อนไม่ได้ยุ่งกับระบบเครื่องยนต์เลยเพราะไม่กล้าแตะต้อง)
แต่คราวนี้ มอเตอร์ Valvetronic มีปัญหา ก็คิดว่าน่าจะทำเองได้ก็ถอดฝาครอบวาล์วออกมาเหมือนเดิม แล้วก็แค่ถอดเปลี่ยนมอเตอร์
ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ด้วยความไม่รู้พอได้ มอเตอร์ Valvetronic มาจากคุณเชษฐ์ ก็เลยลงมือถอดเปลี่ยนที่รถตัวเองซะเลย
หารู้ไม่ว่าหลังจากเปลี่ยนมอเตอร์แล้ว ต้องตั้งเพลา eccentric เข้าหาทางตัวมอเตอร์
แล้วก็ต้องสั่งให้ ECU เรียนรู้ตำแหน่งเพลา eccentric ตำสุดและสูงสุดขณะทำงานควบคู่กับมอเตอร์ Valvetronic ตัวใหม่ทีเพิ่งจะใส่เข้าไป
ด้วยความไม่รู้ก็ประกอบฝาครอบวาล์วกลับเข้าที่เดิมเพราะดึกมากแล้ว ทำตั้งแต่ สี่โมงเย็น ยัน ตีสี่ เพราะไม่รู้ว่าสั่งเรียนรู้ตำแหน่งเพลา eccentric
ต้องทำยังไง เป็นเหตุให้ต้องถอดๆใส่ๆ เดินเข้าเดินออกในรถกับฝากระโปรงอยู่ร่วมหลายชั่วโมง เกือบเช้าแล้วก็เลยประกอบฝาครอบวาล์วกลับ แล้วเข้านอนดีกว่า
ตื่นเช้ามาสตาร์ทรถ โอวเยี่ยมเลยไฟเตือน eml หายไปเเล้วครับ คิดว่าจบงานเครื่องยนต์สามารถแก้ไขปัญหาเองได้
ก็เลยเอาไปเช็คโดยการลองวิ่งจริงครับ
แรกๆความเร็วต่ำๆก็ปกติดีครับ พอความเร็วแตะ 40 กม./ชม หน้าปัทม์ร้อง "ปี๊บ" สั้นๆ แล้วไฟเฟืองติดเเทนครับทีนี้....?????
โอวแม่เจ้า เกียร์มีปัญหาหรือนี่
-
หลังจากนั้น เวลาเปลี่ยนเกียร์มันจะกระตุกมากครับ เร่งเครื่องได้ปกติ เร่งถึง 7,000 รอบ ยังไงสบายมาก
แต่เวลาเปลี่ยนเกียร์มีแรงสะท้อนกลับ ทุกครั้งที่เปลี่ยนเกียร์
ขับกลับมาที่บ้านเอา GT1 จับอีกทีครับ ทีนี้ มีความผิดปกติตัวใหม่ครับ
ความผิดปกติที่เกียร์
92 EGS CAN torque interface ไม่มีคำอธิบาย โอวงานเข้าหมายความว่าไงล่ะทีนี้...
แต่รู้ว่า CAN คือระบบสื่อสารของ กล่องควบคุมถึงกล่องควบคุมอีกอันหนึ่ง ซึ่งในทีนี้ก็น่าจะเป็นกล่องควบคุมเกียร์กับกล่อง DME
เหงื่อตกอย่างแรง.... ทำอะไรผิดไปล่ะเนี่ย..... เกียร์ก่อนหน้านี้ก็ปกติดีพอเปลี่ยนมอเตอร์ Valvetronic ทำไมมันถึงขึ้นรูปเฟืองไปได้
จึงต้องเข้าไปหาข้อมูลในเน็ท ก็พบข้อมูลความผิดปกตินี้
ปัญหาเกิดจาก การที่เครื่องยนต์ยังไม่ได้เรียนรู้ ตำแหน่งสูงสุดและต่ำสุดของเพลา eccentric ทำให้รถทำงานโดยลิ้นปีกผีเสื้อแทน
ใช้ Valvetronic ในการควบคุมคันเร่ง
ผลก็คือเมื่อเร่งเครื่องไปถึงตำแหน่งหนึ่ง เครื่องยนต์ผลิดกำลังแรงบิด (torque) ไม่สัมพันธ์กับที่ระบบเกียร์ต้องการ
กล่อง ECU จึงตัดการสื่อสารกับกล่องควบคุมเกียร์ และฟ้องความผิดปกติ โดยโชว์รูปเฟืองครับผม
งั้นก็ต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือทำให้เครื่องเรียนรู้ ตำแหน่งสูงสุดและต่ำสุดของเพลา eccentric ให้ได้
-
มีความผิดปกติสืบเนื่องที่ตามมาอีก 2 ตัวครับ
1. 2A61 Valvetronic adaptation1 คือ การปรับตั้งตำแหน่ง Valvetronic
คำอธิบาย No stop learn คือ ยังไม่มีการเรียนรู้ตำแหน่งสูงสุดของเพลา eccentric ครับ
ความผิดปกตินี้ไม่ทำให้ไฟเตือนเครื่องยนต์ติด eml
2. 2D0F Hot-film air-mass sensor, signal คือ สัญญาณจาก MAF เซ็นเซอร์
คำอธิบาย Signal above threshold or short circuit to positive คือ สัญญาณเกินค่าที่กำหนด หรือ ลัดวงจรไปที่ +12 โวล์ท
ความผิดปกตินี้ไม่ทำให้ไฟเตือนเครื่องยนต์ติด eml
-
ก็ทำการปรับตั้ง ให้เครื่องเรียนรู้ ตำแหน่งสูงสุดและต่ำสุดของเพลา eccectric ก็ได้อธิบายไปแล้วก่อนหน้านี้....
ก็หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกท่านนะครับ
-
หลังจากปรับตั้งมอเตอร์ Valvetronic และให้เครื่องเรียนรู้ตำแหน่งสูงสุดเเละต่ำสุดของเพลา eccentric อย่างถูกต้อง
ไฟเตือนทั้งหมด และความผิดปกติทั้งหมดจะหายไปครับ
ของผมหายหมด ยกเว้น O2 เซ็นเซอร์ ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนซึ่งก็ไม่เกียวข้องกับ ปัญหามอเตอร์ Valvetronic ในครั้งนี้ครับ
มีตังค์เมื่อไหร่ค่อยมุดเข้าไปเปลี่ยนอีกทีครับผม..... ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามการ DIY มอเตอร์ Valvetronic ในครั้งนี้ครับ
-
ขอบคุณครับ
-
ท่านเก่งมาก
-
คุณชัคกี้ใกล้ได้เปิดบล็อก DIY แข่ง รศ.บุญชัด เนติศักดิ์ แระ
http://netisak.lpru.ac.th/bmw_e34_diy/ (http://netisak.lpru.ac.th/bmw_e34_diy/)
-
กระทู้นี้ได้ความรู้มาก ให้ 2000 like
-
กระทู้นี้ได้ความรู้มาก ให้ 2000 like
ขอบคุณครับพี่Somchai ผมอยากให้สังคมในe46thailand เป็นสังคมแห่งการแบ่งปันครับ
เป็นเพราะเพื่อนสมาชิกในนี้ได้แบ่งปันซึ่งกันและกัน แม้สมาชิกบางท่านที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นและประทับใจมากครับ ผมจึงอยากแบ่งปันความรู้สึกดีๆเหล่านั้นให้กันเพื่อนสมาชิก
ต่อๆๆๆๆๆกันไปครับ. พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ. :)
หากยังผิดพลาดประการก็ช่วยแก้ไขกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
-
คุณชัคกี้ใกล้ได้เปิดบล็อก DIY แข่ง รศ.บุญชัด เนติศักดิ์ แระ
http://netisak.lpru.ac.th/bmw_e34_diy/ (http://netisak.lpru.ac.th/bmw_e34_diy/)
ยังไม่ถึงขนาดนั้นครับคุณ เชษฐ์...... >:D
-
ขอบคุณมากครับ ;)
-
ขอบคุณครับ
-
สุดยอดเลยครับ สังคมนี้น่าอยู่จริงๆกับ น้ำใจแบ่งปั่น
-
ขอถามพี่ chaky ตอนที่เปลี่ยนยางซีลวาล์วนี่ตอนยกแคมชาฟออกมาต้องมีเครื่องมือเฉพาะของมันหรือเปล่าครับหรือว่าสามารถถอดน้อตแล้วยกแคมออกมาเลยย :-*
ขอบคุณนะครับ
-
ขอถามพี่ chaky ตอนที่เปลี่ยนยางซีลวาล์วนี่ตอนยกแคมชาฟออกมาต้องมีเครื่องมือเฉพาะของมันหรือเปล่าครับหรือว่าสามารถถอดน้อตแล้วยกแคมออกมาเลยย :-*
ขอบคุณนะครับ
ถ้าจะยกเพลา แคมชาฟ ออกมาจากฝาสูบ จะต้องมีเครื่องมือ มาร์คตำแหน่งซึ่งจะจับยึดไม่ให้ตำแหน่งเฟืองไทม์มิ่งที่หัวเพลา
เลื่อนตำแหน่งผิดไปครับ
การยกแคมชาผออก ต้องทำโดยคนที่มีประสพการณ์และเครื่องมือพร้อมเท่านั้นนะครับ
ไม่เช่นนั้น หากใส่กลับเข้าไปผิดตำแหน่ง วาล์วจะยกผิดจังหวะหมดครับ ดีไม่ดีอาจจะทำให้ วาล์วคด ลูกสูบพังได้นะครับ
ในกรณีที่ วาล์วเปิดไปยันกับฝาสูบเข้า
-
เพิ่มเติม สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้การทำงานของระบบวาล์วโทรนิคส์ครับ
http://www.e46thailand.com/index.php?topic=6421.msg53192#msg53192 (http://www.e46thailand.com/index.php?topic=6421.msg53192#msg53192)
-
ถามเป็นความรู้นะครับ ในการดำเนินการครั้งนี้ หากเราไม่มี GT1
ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรต่อได้เลยใช่หรือไม่ครับ
เพราะเท่าที่ติดตามอ่านมา หัวใจอยุ่ที่การตั้งค่าให้ตัวมอเตอร์วาล์ว
รู้จักกับค่าของมันก่อนที่จะมีการนำไปใช้งานจริง กรณีจะถอดประกอบเองที่บ้านคงยาก
เพราะต้องจัดหา GT1 ไว้ที่บ้านเพื่อดำเนินการดังกล่าวหนะครับ
ขอบคุณครับ
-
ถามเป็นความรู้นะครับ ในการดำเนินการครั้งนี้ หากเราไม่มี GT1
ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรต่อได้เลยใช่หรือไม่ครับ
เพราะเท่าที่ติดตามอ่านมา หัวใจอยุ่ที่การตั้งค่าให้ตัวมอเตอร์วาล์ว
รู้จักกับค่าของมันก่อนที่จะมีการนำไปใช้งานจริง กรณีจะถอดประกอบเองที่บ้านคงยาก
เพราะต้องจัดหา GT1 ไว้ที่บ้านเพื่อดำเนินการดังกล่าวหนะครับ
ขอบคุณครับ
ถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัยครับ
-
ดีนะผมไม่ลื่อ ไม่งั้น งานยาวแน่นอนครับ
-
ดีนะผมไม่ลื่อ ไม่งั้น งานยาวแน่นอนครับ
ทำไมถึงคิดจะรื้อ มอเตอร์วาล์วโทรนิคสืออกมาละครับ....
แสดงว่าต้องมีปัญหาใช่มั้ยครับ..??
-
สุดยอดครับ ;)
-
เพราะระบบวาล์วโทรนิคส์คือหัวใจของ เครื่องตระกูล N
ดังนั้นเมื่อวาล์วโทรนิคส์มีปัญหา ก็ประหนึ่งเปรียบเสมือนว่าไม่มีกำลังครับ
แถมระบบควบคุมจะตัดเข้าสู่โหมด กำลังต่ำเพื่อให้ขับรถไปยังศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด
ดังนั้นดูแลระบบวาล์วโทรนิคส์กันให้ดีๆนะครับ ;)
สรุปง่ายๆก็คือ วาล์วโทรนิคส์ทำงานเปรียบเสมือนคันเร่งไฟฟ้าที่ไม่ง้อลิ้นปีกผีเสื้อครับ
คือสั่งปรับระยะยกของวาล์วไอดีได้ตามที่เท้าเหยียบคันเร่งเลยทีเดียว
แถมเครื่องยนต์ของ BMW ยังมีระบบ VANOS เพื่อเพิ่มลดระยะเวลาและองศาในการเปิดปิดวาล์วไอดีและไอเสีย
อีกหนึ่งขั้นตอนทำให้ รีดม้าออกมาได้รวดเร็วทันใจตามต้องการได้ในขนาดเครื่องที่เล็กกว่าครับ
แต่ระบบวาล์วโทรนิคส์ยังมีข้อจำกัดบางประการจึงไม่สามารถติดตั้งกับเครื่องยนต์ที่ต้องการรอบจัดจริงๆ
เช่นตระกูล M ได้ครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของระบบวาล์วโทรนิคส์ ตามไปอ่านกันได้ที่กระทู้นี้ครับ
http://www.e46thailand.com/index.php?topic=6421.0 (http://www.e46thailand.com/index.php?topic=6421.0)
เครดิตพี่สุเมธครับ ที่อธิบายรายละเอียดอย่างใจเย็นครับ :-X :-X :-X