ผู้เขียน หัวข้อ: สาวก E46 มือใหม่ต้องอ่าน (ยาว)  (อ่าน 13775 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

kwan47

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 703
สาวก E46 มือใหม่ต้องอ่าน (ยาว)
« เมื่อ: มีนาคม 07, 2012, 21:36:07 »
 E46 นั้น ถือเป็นรถยนต์ BMW 3-Series เจนเนอเรชั่นที่ สี่ โดยมี E21 E30 E36 เป็นรุ่นก่อนหน้าตามลำดับโดยมีการเปิดตัวขายครั้งแรกเพื่อมาทดแทน E36 ในปี คศ. 1998 ในยุโรป และ ในประเทศไทยนั้นมีการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี คศ.2000โดยเป็นการนำเข้ามาในชุดแรกๆและมีการประกอบเพื่อการจำหน่ายในประเทศไทยด้วยในปีเดียวกันนั้น ซึ่งนับว่าเป็นรุ่นแรก ๆ ที่ทำการตลาดโดย BMW Thailand
           ในการออกแบบ BMW E46 นั้น มีโจทย์ง่าย ๆ แต่ทำยากคือ รถสวย ช่วงล่างดี ตัวถังเบา ปลอดภัย แข็งแรง หากเป็นรถในตระกูลตัวแรก โจทย์เหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร หากเพราะว่า E36 รุ่นที่กำลังทำตลาดในขณะนั้ นได้มีการออกแบบที่ลงตัวกับยุคสมัยนั้น หากทำให้ E46 ดูล้ำสมัยกว่า จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยทีมออกแบบของ BMW เอง จึงได้มีการประสานงานกันระหว่าง DesignworkUSA ช่วยในการออกแบบ E46 DesigneworkUSA นั้นก็มีผลงานอื่น ๆ ฝากตามมาอีกเช่น MINI และยังเป็นบริษัทที่ทำการออกแบบผลิตภัณฑ์หลายชนิดอีกด้วย
          รูปร่างภายนอกนั้น หลัก ๆ มีการเขียนแบบโดย Erik Goplen (ออกแบบ X3 และรุ่นอื่น ๆด้วย) หากดูคร่าว ๆ แล้ว การออกแบบ E46 ก็คือการนำเอา E36 มาลบเหลี่ยมลบมุมออก แล้วเปลี่ยนเส้นสายให้ดูลื่นขึ้น ทั้งเส้นข้างรถ และกระโปรงท้ายรถ โดยยังคำนึงถึงการปรับปรุงค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศของรถ (0.26-0.38 Sedan - Coupe)ที่จะไม่รั้งตัวรถไว้เกินความจำเป็น แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของรถรุ่นก่อนที่คนติดตามาแล้วถึง เก้าปีด้วย ได้มิติตัวรถที่มีขนาด ยาว กว้าง สูง คือ 4470mm 1740mm 1415mm ฐานล้อยาวขึ้นจาก E36 เป็น 2725mm เพื่อรักษาน้ำหนักหน้าหลังให้เท่ากัน จึงมีการขยับเครื่องยนต์ไปลึกอีกนิดในห้องห้องเครื่อง พื้นที่ห้องโดยสารตอนหลังมีพื้นที่มากขึ้น แต่โดยรวมจะเห็นว่าเป็นรถที่มีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับรถคอมแพคในปัจจุบัน (ALTIS CIVIC LANCER EX) เพราะสมัยนั้นรถคอมแพคยังมีขนาดไม่ใหญ่มากถึงจะมีการลดน้ำหนักช่วงล่าง ตัวถัง และขนาดรถที่เล็กนั้น น้ำหนักตัวของมันก็ไม่ได้เล็กตามไปด้วย ในรุ่นที่เบาที่สุดของ ซีดาน ยังมีน้ำหนักมากถึง 1350kg เลยทีเดียว เพราะโลหะที่ใช้ทำโครงนั้น มีความหนามากกว่ารถในระดับเดียวกันอยู่ เพื่อความมั่นคงของโครงสร้าง more solid, stiffer, rigid body แล้วแต่ใครจะเรียกสามปีหลังการเปิดตัว กันยายน 2001 มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาของ ช่องลม ไฟหน้า ไฟมุม และเส้นกระโปรงหน้าในรุ่น facelift เพื่อรับการเปิดตัวของคู่แข่งอย่าง MB W203 C-class ทีเปิดตัวไปในปี 2000ในเรื่องความสวยงามนั้น คงไม่เหมาะทีจะกล่าวถึง เพราะเป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วน ๆ แต่ สิง่ที่จะไม่เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัว ที่พอจะบอกได้ว่ามันสวย คือ รางวัลการออกแบบ หลาย ๆ ปี ติด ๆ กันในช่วงที่มีการเอา E46 ออกขายจากทั่วทุกมุมโลกเรียกได้ว่า ผู้ออกแบบ ได้ตอบโจทย์ ความสวย ความปลอดภัย ได้แล้วในระดับที่น่าภูมิใจอยู่ไม่น้อยแล้วช่วงล่างของรถล่ะจะมีดีอย่างไร ?ดีไซน์ภายนอกของรถรุ่นนี้ไม่ใช่เพียงอย่างเดียวที่มันถูกกล่าวถึงมากเป็นพิเศษ แต่ ระบบกันสะเทือนของรถที่ได้รับการปรับแต่ง ปรับปรุง จาก E36 ทำให้รถมีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก โดยเน้นการลดน้ำหนักของชิ้นส่วนช่วงล่าง (unsprung weight) ที่ได้รับอิทธิพลส่วนหนึ่งมาจาก E38 และ E39 ชิ้นส่วนช่วงล่างเกือบทุกชิ้น มีอลูมิเนียมเป้นส่วนประกอบหลัก และยังได้รับการจัดวางชิ้นส่วนรับน้ำหนักให้อยู่ในตำแหน่งที่กระจายน้ำหนัก หน้าหลังออกเป็นอย่างล่ะครึ่งหนึ่ง 50:50 load เพื่อการทรงตัวที่ดีในทุก ๆสภาวะเช่นเดียวกับ E36 และ อะไหล่ช่วงล่างบางชิ้นของรถ ก็ยังหยิบยืมมาจาก E36 ที่ออกแบบมาได้ดีอยู่แล้ว เช่น ระบบบังคับเลี้ยว ระบบเบรค แต่มีการใส่ ระบบควบคุมการทรงตัวในภาวะคับขันเพิ่มมาที่เรียกว่า ASC หรือ DSC ตามแต่รุ่นย่อย ๆ นั้น เช่นเดียวกับ E39และเพื่อรองรับ แก้ปัญหาวงเลี้ยวแคบมาก ๆ ทีเกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ รวมถึงการแก้ไขส่วนของ Oversteer นั้น มีการปรับศูนย์ล้อใหม่ ให้เหมาะสมกันในแต่ละรุ่นย่อย แบ่งตามขนาด น้ำหนักตัว และ ขนาดเครื่องยนต์ หากใครที่ได้รับรถใหม่ ๆ สังเกตว่า ล้อหลังนั้น นอกจากจะแบะออกแล้ว ยังงุ้มเข้าด้านหน้าของตัวรถอีกด้วย ดังนั้น การตั้งศูนย์ล้อของรถรุ่นนี้ มีเสปคย่อย ๆ มากมาย หลาย ๆ ครั้งที่ร้านตั้งศูนย์ที่มีเครื่องมือไม่พร้อม ไม่มีสเปคที่ละเอียดพอ ก็ไม่สามารถตั้งศูนย์ให้เหมาะกับรถได้ ซึ่งอาจจะทำให้ รถที่ขับดี ๆ ในประวัติศาสตร์ คันหนึ่ง กลายเป็นรถขับหลังธรรมดาที่มีท้ายปัดเป๋เวลาเลี้ยวเข้าโค้งไปได้
         <!-- s:lol: -->:lol:<!-- s:lol: --> ขอกล่าวถึงนิดนึง กับการตั้งศูนย์ รถยนต์ BMW และ BENZรถสองยี่ห้อนี้ มีวิธีการตั้งศูนย์ที่ไม่เหมือนรถยี่ปุ่น และรถขับหน้าทั่ว ๆไปในท้องตลาด หลาย ๆครั้งที่ร้านตั้งศูนย์จับรถขึ้นสะพาน ปรับศูนย์ล้อให้เป็นศูนย์ทุกค่าจริง ๆ ไม่ได้คำนึงถึงข้อมูลจำเพาะและรายละเอียดมากนัก หากมองถึงการใช้งานทั่วไปนั้น ก็ดีสำหรับการยืดอายุดอกยาง แต่สมรรถภาพของรถ จะไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้ออกแบบได้ตั้งใจให้เป็น รถทั้งสองยี่ห้อนี้ เวลาตั้งศูนย์ จะต้องมีการถ่วงน้ำหนัก แล้วแต่รุ่น และขนาดของรถ ในตำแหน่งคนขับ และคนนั่ง ก่อนทำการตั้งศูนย์ ทุกรุ่น ! แต่นอกจากศูนย์บริการบางแห่งแล้ว ร้านตั้งศูนย์ ข้างนอก ผมไม่เคยเห็นมีการถ่วงน้ำหนักตามคู่มือแม้แต่น้อย เพราะเพียงแค่ คุณกระโดดไปนั่งในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในรถ ศูนย์ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเครื่องตั้งศูนย์ ก็เพี้ยนออกไปแล้ว
         ทำไมต้องถ่วงน้ำหนัก ? รายละเอียดปลีกย่อยคงต้องไปหาอ่านกันเอง แต่คร่าว ๆ คือ ศูนย์ล้อที่แท้จริงของรถ จะถูกเลือกจากการที่สปริงส่วนอ่อนของรถยุบตัวไปแล้ว สปริงของรถสองยี่ห้อนี้ เป็นทรง ป่องกลาง ส่วนที่จะยุบตัวมากกว่าคือส่วนป่องกลาง นี้ล่ะ พอมันยุบ องศา ต่าง ๆ ค่าต่าง ๆ ก็จะเปลี่ยนไป นักออกแบบเลือกใช้จุดนี้ในการคำนวนศูนย์ล้อ วงเลี้ยว กับบังคับเลี้ยวครับ
        ยังพออนุโลมได้ ระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เวลาเลือกรุ่น ในเครื่องตั้งศูนย์ ช่างตั้งศูนย์เองก็ยังบอกไม่ได้เลยว่า รถที่ตัวเองตั้งศูนย์นั้น เป็นรุ่นย่อยรุ่นไหน ทำให้ค่าการตั้งศูนย์ แทบจะมีโอกาสเป็นรถรุ่นนั้นน้อยมาก ๆ อันนี้ต้องเป็นเรื่องที่ต้องทำใจ
         สำหรับชาวBMW BENZ ทุก ๆ ท่าน ว่าทำไม ตั้งศูนย์แล้ว รถยังขับได้ไม่ดีเท่าที่ควร หากสัมผัสไม่ได้ ก็นับว่าโชคดีไป แต่หากรับรู้ได้ ก็จะกลายเป็นปัญหาหงุดหงิดทุกครั้งไปนอกเรื่องไปไกลนิดหนึ่ง
         ขอกลับมาที่ช่วงล่างกันต่อระบบ ASC และ DSC นั้น ชื่อเต็ม ๆ ก็คือ Automatic Stability Control และ Dynamic Stability Control ในรถรุ่นแรกๆ และรุ่นล่าง ๆ นั้น จะมีเฉพาะระบบ ASC เท่านั้น และในปีหลัง ๆ มีการเพิ่มระบบ DSC ขึ้นมา ทั้งสองระบบทำหน้าที่คล้าย ๆ กันคือ ควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวรถบนพื้นลื่น และ พื้นที่ไม่เรียบ แต่ต่างกันในวิธีการทำงาน ASC มีหน้าที่ป้องกันการสูญเสียการทรงตัว โดยจะทำให้ผู้ขับขี่ สามารถเข้าโค้ง และเร่งเครื่องยนต์ไปได้ โดยที่ไม่เกิดภาวะ Over/understeer (คาดว่าผมคงอยู่ในสวนมะพร้าว over/understeer คงเป็นมะพร้าวห้าว ไม่ขอนำมาขาย) หรือแม้แต่ทางตรง เมื่อมีการเร่งเครื่อง บนพื้นถนนที่ไม่เรียบ หรือ ลื่น ระบบASC ก็จะคอยระมัดระวังไม่ให้ล้อหลังมีการหมุนขณะเร่งเครื่อง ที่จะทำให้รถปัด (BMW E46 ขับหลัง ครับ ต้องบอกไหมนี่ ) หากล้อข้างไหนมีการไถลเกิดขึ้น ล้อข้างนั้นจะถูกระบบ ASC สั่งการเบรคล้อนั้นเพื่อรักษาการทรงตัว และหากล้อหลังทั้งสองลื่นไปทั้งคู่ มันจะไปควบคุมแรงของเครื่องยนต์ หรือแรงของเกียร์ในกรณีที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ เพื่อไม่ให้รถปัด เรียกว่าคุณไม่สามารถออกล้อฟรีข้างเดียว หรือสองล้อในทางตรงกับรถรุ่นนี้ได้หากมีการเปิดใช้งานระบบ ASC ไว้นั่นแหละ และข้อดีของรถรุ่นนี้ คือ หากคุณอยากจะ DRIFT ใช่ครับ ไม่ว่าจะ VIN Diesel หรือ เจ้าแม่ดริฟ แห่ง การปิดตาอ่านหนังสือ(ถามหมอเจเอาครับ ;-P) อยาก ดริฟท์ ก็สามารถเลือกปิดระบบ ASC เพื่อทำการดริฟท์ได้ ตามใจชอบครับ เป็นสวิทชปุ่มเล็ก ๆ อยู่ใต้ชุดควบคุมแอร์ตรงบริเวณทีเขี่ยบุหรี่ ที่เขียนว่า ASC นั่นแหละ กดปุ๊ปจะมีไฟบอกให้รู้บนหน้าปัดว่า ระบบปิดอยู่นะครับ ไฟรูปลูกศรล้อมสามเหลี่ยมตกใจกลางหน้าปัทม์นั่นแหละDSC นั้นเป็นระบบที่ครอบเจ้าระบบ ASC ไว้อีกทีหนึ่ง ซึ่งหากอ่านข้างบนนี้เข้าใจ จะรู้ว่า ASC สั่งงานได้ทั้ง เครื่องยนต์ เกียร์ และ ระบบเบรคล้อหลัง แต่ DSC นั้น มีมากกว่านั้น เพราะมันยังรวมเอาการควบคุมล้อทั้งสี่ ระบบ ASC และ ระบบ ABS เข้าไว้อีกทีหนึ่งด้วย ซึ่งเจ้าระบบนี้ จะสามารถตรวจพบแนวโน้มการเกิดUnder/Oversteer ได้ตั้งแต่เริ่มต้น และทำการควบคุมการเบรค หรือ ปล่อยเบรค ควบคุมแรงบิดข้องเกียร์ และเครื่องยนต์ที่ล้อต่าง ๆ โดยอาศัยการประเมิณผลจากเซนเซอร์ของล้อทั้งสี่ที่วัดรอบการหมุนของล้อ เซนเซอร์ของเกียร์ เซนเซอร์ขององศาลิ้นปีกผีเสื้อ เซนเซอร์ ความเร็วรอบเครื่องรอบเกียร์ องศาการหักเลี้ยวของล้อรถ และ การวัดYAW หรือ องศาการหมุนรอบของรถในแนวตั้ง ซึ่งการมีระบบนี้ ไม่ว่าหน้ายางที่สัมผัสลงบนพื้นจะมีการยึดเกาะถนนไม่เท่ากัน ระบบนี้จะยังสามารถรักษาการควบคุมรถให้อยู่ในสภาวะการขับขี่อย่างปรกติได้ ไม่ใช่ว่าการมีระบบDSC จะได้มาเปล่า ๆ ค่าตัวทีเพิ่มขึ้นมาคือส่วนที่เจ้าของรถต้องจ่าย เพราะเจ้ากล่อง DSC นั้นกระบวนการผลิตใช้ทองคำแท้ ๆ จำนวนมากกว่าวงจรอีเล็คทรอนิคส์ในคอมพิวเตอร์อยู่มาก แม้กระทั่งขาสัญญาณในวงจรยังมีทองคำเป็นเส้น ๆ ให้มองเห็นได้ด้วยตาเปล่ามากมาย เชื่อมต่อระหว่างขาไอซี กับเซนเซอร์ทุกตัวที่ผมกล่าวไว้ เวลามันมีปัญหา ซึ่งก็เจอกันหลายคน ค่าตัวของกล่อง DSC นั้นจึงมีราคาค่อนข้างแพง (2x,xxxบาท ) โชคดี รถผมไม่มี มีแค่ ASC ถ้ามันเสียก็ยังพอจะซ่อมกันได้บ้างมีหลายกรณีที่เจ้าของรถที่มีระบบ ASC DSC จะประสพปัญหาไฟเตือนต่าง ๆ ขึ้น เช่น ไฟเกียร์ ไฟ TRACTION ไฟเตือนเบรคมือ แล้วเวลาไปตรวจวิเคราะห์ด้วยเครื่อง GT1 มักจะไปลงเอยด้วยการเปลี่ยน อุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย โดยปัญหาไม่จบ
        การวิเคราะห์รถยนต์ด้วย GT1 นั้นมีรายละเอียดมากมาย หากไม่ใช่ช่างที่ได้รับการฝึกฝนจาก BMW มาเฉพาะ อาจจะทำให้การแก้ปัญหาไม่ถูกจุดเกิดขึ้นได้ เพราะ FAULT CODE เดียว อาจจะมีต้นเหตุมาจากอุปกรณ์ตัวไดตัวหนึ่ง หรือหลาย ๆ ตัวที่มันเกี่ยวข้องด้วยก็ได้ เนื่องจาก DSC ตัวเดียวก็อ่านค่ามาจากเซนเซอร์อีกสิบกว่าตัวเข้าไปแล้ว แค่มีตัวไดตัวหนึงมีปัญหา ไฟก็เตือนแล้ว ไม่ต้องไปนับรวมปัญหาที่อาจจะมาจากตัวมันเองอีก ในเรื่องความปลอดภัย BMW E46 ได้ใส่เอาแอร์แบก 6 ลูกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับรถที่เปิดตัวในปี 1998 ทุกคัน และ ยังเพิ่มเป็น 8 และ 10 ลูกในปีต่อ ๆ มา ประกอบกับโครงสร้างตัวถังที่ได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแรงมากกว่า E36 ถึง 70% ประตูรถทุกบ้านจะสามารถเปิดออกได้แม้จะได้รับแรงกระแทก โดยเทคนิคความปลอดภัยจาก 7-Series ให้สังเกตตรงชายประตูจะมีพลาสติกสามเหลี่ยมทรงตันหักปลายยื่นออกไปส่วนของเสากล่างด้านล่าง เป็นหลุมรูปสามเหลี่ยมรับกัน นั่นแหละครับ คือส่วนที่จะช่วยให้ประตูเปิดออกได้หลังเกิดอุบัติเหตุ
        สิ่งที่น่าสนใจของรถรุ่นนี้ที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงก็คือ ระบบเกียร์ ที่นอกจากจะเป็นเกียร์ Steptronic แล้ว ตัวสมองเกียร์ ยังเป็นรถรุ่นแรก ๆ ของ BMW ที่สามารถเรียนรู้รูปแบบการขับขี่ของคนขับได้ (ADAPTIVE FUNCTION)ซึ่งระบบเกียร์จะทำหน้าที่เปลี่ยนเกียร์ การออกแรงกดคลัทช์ จังหวะล๊อกอัพคลัทช์ ให้เหมาะสมตามสภาวะการขับขี่ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในสภาวะที่มีการเหยียบคันเร่ง แตะเบรคบ่อย ๆแบบจราจรหนาแน่น หรือ การขับขี่แบบขึ้นเขาลงเขาแบบใช้แรงบิดสูงมีเอนจินเบรค แบบการขับขี่นุ่มนวลทางเรียบไกล ๆ มีเร่งแซงบ้าง หรือ การขับขี่แบบสุดโหด ลากรอบยาว ๆ สมองเกียร์จะทำการเรียนรู้ตลอดเวลา และทำการควบคุมแรงบิดเกียร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน และนิสัยผู้ขับขี่ ในอเมริกา และกลุ่มขับซ้าย นั้น E46 ได้มีการเปิดตัวรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ All Wheel Drive ไว้ด้วย แต่สำหรับรถในประเทศอื่น ๆ ไม่มีระบบขับเคลื่อนนี้ เพราะ ระบบขับเคลื่อนล้อหน้านั้นออกแบบมาอยู่ติดกับแร๊กด้านขวาของตัวรถ ทำให้ไม่มีรถรุ่นนี้สำหรับพวงมาลัยขวา เครื่องยนต์ ตัวเลขรุ่นท้ายรถ ไม่ได้บอกขนาดพิกัดของเครื่องยนต์เหมือนรุ่นที่ผ่านมา แต่มันเป็นการแบ่งรุ่นย่อย เท่านั้นเอง เครื่องยนต์สำหรับ E46 นั้นมีให้เลือกมากมาย แล้วแต่ความต้องการของลูกค้าดังเช่นรถรุ่นก่อน ๆ โดยมีทั้ง 4สูบ 6 สูบแถวเรียง และ V8 32วาล์วด้วย โดยแบ่งตามรหัสเครื่องยนต์ได้แก่

      -M43 8 วาล์ว ที่รับมรดกมาจาก E36 ถูกพัฒนาจนปลายรุ่น และปรับปรุงให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่จะขาย มีเครื่องขนาดเดียวคือ 1895cc ในไทยมีขายตั้งแต่ปีแรกทีเปิดตัวถึงปี 2001 ก่อนจะเปลี่ยนเป็นไฟยก(ส่วนตัว ผมและเพื่อนต่างก็ใช้เครื่องตัวนี้ เทียบกับ M52TUใน E39 ที่เคยใช้แล้ว ตัวนี้ทนกว่า และซ่อมบำรุงถูก และง่ายกว่าด้วยครับ ประสบการณ์ท่านอื่นอาจจะแตกต่างไป ช่วยกันแชร์ครับ ผมอยากรู้)

      -N42 16วาล์ว มีทั้ง 1.8 และ 2.0 ลิตร ที่ขายในไทยมีแต่ 2.0 ใครใช้เครื่องตัวนี้ก็อยู่ในลิสทประวัติศาตสร์ต้องจากรึกเพราะมีแค่ E46 เท่านั้นที่ได้ใช้เครื่องตัวนี้ เป็นเวลา 3 ปีเท่านั้นอายุสั้นไปนิดเพราะปัญหาเยอะไปหน่อย BMWเลยต้องปล่อยเอา N46 มารับหน้าเสื่อแทน คาดว่ามีในโลกไม่ถึงสามแสนคัน

      -N46 เป็นเครื่องยนต์ที่พูดได้ว่ามีประสิทธิภาพ และปัญหาน้อยกว่าN42 เพราะมันเกิดมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ความจุ 2.0ลิตรเช่นกัน พื้นฐานเครื่องยนต์จริง ๆ ก็คือ N42 ในฝาเครื่อง และกล่องเครื่องใหม่ รายละเอียดของวัสดุที่ใช้ผลิต แม้กระทั่งการทำเกลียวน๊อต รู และรูปร่างเล็ก ๆ น้อย ของเครื่องเปลี่ยนไปเพื่อแก้ปัญหา น้ำมันรั่ว เครื่องสั่น วานอสเสียงดัง อื่น ๆอีกมากมาย แม้กระทั่งการรวมเอาชุดควบคุมหัวฉีดไปเป็นส่วนเดียวกับ Engine Management

       -M52TU เครื่องยนต์ที่ยกมาจาก E39 มีขนาดเครื่องยนต์ 2.0 2.2 2.5 ในเมืองไทยน่าจะมีแค่ตัว 2.5 สำหรับเครื่องตัวนี้ (ใครใช้ขนาดอื่นบอกผมด้วยครับ )
       -M54 ขนาดเครื่องยนต์ ตั้งแต่ 2.0 ถึง 3.2 ตัวนี้ผมมีรายละเอียดน้อยครับ
       -M56 ขนาดเครื่อง 2.5 litre อีกเช่นกันกับ M54 ในไทยไม่เคยเจอกับ E46 นะครับ
       -S54 ขนาดเครื่องยนต์ 3.2 litre อยู่ในเฉพาะ M3
       -M3GTR 4.0litre ตัวแรงแต่งนอกค่าย 0-100 4วินาที V8 ตัวนี้มีหัวตัดหลุดมาเมืองไทยเหมือนกัน

       ระบบไฟฟ้า รถรุ่นนี้นับเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่มีระบบไฟฟ้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่าง ๆ เต็มรถไปหมด ไม่ว่าจะไฟส่องสว่างภายนอกรถ อันได้แก่ไฟหน้า ไฟท้าย ทุกดวงควบคุมด้วยกล่องอิเลคทรอนิคส์ เพื่อการตรวจเช็คสภาพหลอดขาดหลอดผิดขนาด มีฟังก์ชั่นกระจุ๋มกระจิ๋มที่ผมพอจะนึกได้เป็นขอดี..คือ
        - เวลาดับเครื่องยนต์หากลืมเปิดไฟหน้าไว้ จะมีเสียงร้องเตือน
        - การโยกคันไฟเลี้ยวค้างไว้แล้วบิดสวิทช์ไฟหรี่ไว้ ไฟหรี่จะติดข้างเดียวกับที่เปิดไฟเลี้ยวไว้ สำหรับจอชิดถนนกลางคืน ให้ไฟสว่างข้างเดียว
        - เวลาลงจากรถ เราสามารถดึงก้านไฟเลี้ยวเข้าหาตัว เพื่อทำให้ไฟหน้าทำงานประมาณ 1 นาทีเป็นการส่องทางเดินให้เมื่อลงจากรถในตอนกลางคืน
        - หากหลอดไฟหรี่ขาด ตัวไฟเลี้ยวด้านเดียวกับหลอดที่ไฟหรี่ขาด จะติดขึ้นมาแทน พร้อมเตือนสภาวะหลอดขาด
        - หลอดไฟส่องสว่างนอกรถทุกดวงหากไม่ครบวงจร จะมีไฟเตือนบนหน้าปัทม์บอกตำแหน่งหลอดที่มีปัญหา ยกเว้นไฟเลี้ยว ที่จะรู้ได้เพียงเสียงไฟเลี้ยวกระพริบเร็วกว่าปรกติ
        - หลอดไฟคู่หน้าสามารถปรับสูงต่ำได้จากภายในรถเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อชดเชยกรณีบรรทุกท้ายห้อยหน้าเชิด

ไฟส่องสว่างภายในรถก็ไม่แพ้กัน
       - เราสามารถเปิดไฟส่องสว่างได้ด้วยสวิทช์ปุ่มกดเพียงปุ่มเดียวเพื่อให้ไฟทำงานในโหมดประตูเปิด ปิด หรือ จะเปิดปิดเองได้
       - ด้านข้างสวิทช์ไฟส่องสว่าง จะมีหลอดไฟเล็ก ๆ สองดวงขนาบซ้ายขวา สีแดง ๆ แบบเดียวกับพื้นหน้าปัทม์ความเร็ว ซึ่งจะปรับให้สว่างมากน้อยได้ด้วย ดิมเมอร์ที่ปรับความสว่างหน้าปัทม์ ไฟสองดวงนี้จะส่องมาถึงบริเวณกระปุกเกียร์ และที่ใส่ของทีเขี่ยบุหรีด้วย
       - ไฟหน้าปัทม์ ไฟเรืองแสงของตัวควบคุมระบบปรับอากาศ ไฟวิทยุ ปรับให้สว่างมากน้อยได้ด้วยปุ่มหมุนข้างสวิทช์ไฟหน้า
       - ไฟส่องสว่างในห้องเก็บของท้ายรถ จะดับเองหากลืมปิดกระโปรงท้ายรถ หรือปิดไม่สนิท ตัดปัญหาไฟหมดกรณีลืม
นอกจากไฟส่องสว่างแล้ว ระบบวิทยุ ระบบcd changer ระบบนาวิเกชั่น ยังเชื่อมกับชุดไฟทั้งหมดผ่าน IBUS ข้อดีของมันก็คือ
       - หากเราจอดรถตากแดดไว้เป็นเวลานาน แล้วขึ้นรถ พยายามจะเปิด CD Changer แต่บังเอิญว่าตัว Changer มันมีความร้อนมาก วิทยุจะขึ้นข้อความเตือนให้รู้ และไม่เปิด ซีดีจนกว่าจะเย็นลง ทำให้ลดความเสี่ยงของแผ่นซีดีเสียหายเนื่องจากความร้อนได้ทางหนึง
       - สามารถใช้ชุด upgrade ของ BMW ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นรุ่นต่ำสุด ก็สามารถซื้ออุปกรณ์รุ่นสุงสุดมาต่อได้ ตั้งแต่ Voice Control, Bluetooth, Navigation, TV etc แต่ก็เป็นข้อเสียเพราะอุปกรณ์พวกนี้ของBMW ราคาแพงพอ ๆ กับเครื่องเสียงราคาแพง ๆ
       - เครื่องเสียงติดรถควบคุมความดังของเสียงในกรณีขับรถเร็วด้วย เปิดปิดระบบนี้ได้
กุญแจรีโมท Immobilizer ของ E46 เป็นรถรุ่นแรก ๆ ที่ใช้ EWS 3.3 มี ROLLING CODE เช่นกัน คือ ไม่สามารถมีกุญแจที่มีโค้ทเหมือนกันสองดอกได้ ทุก ๆ ดอกจะถูกบันทึกในกล่อง EWS แยกกันเด็ดขาดเพราะมันจะ เปลี่ยนpassword ทุกครั้งที่กุญแจเสียบไปในเบ้ากุญแจ

  ฟังก์ชั่นย่อย ๆเกี่ยวกับรีโมท เซนทรัลล๊อกนั้นทำงานรวมกันหมด ได้แก่
       - การจำตำแหน่งที่นั่งคนขับในเบาะไฟฟ้าของกุญแจแต่ละดอก
       - การล๊อกประตูอัตโนมัติ ของกุญแจแต่ละดอกไม่เหมือนกัน ขับไปแล้วรถล็อกเอง หรือไม่ล๊อกเองตั้งได้ และจำเฉพาะกุญแจดอกนั้น ๆ
       - เปิดปิดกระจกรถทุกบานด้วยรีโมทได้ ไม่ต้องสตาร์ทรถ หรือเสียบกุญแจ
       - เลือกล๊อกรถ เปิดรถ แบบทุกบาน หรือเฉพาะบานคนขับก็ได้
และอีกเล็ก ๆ น้อย ที่ผมขอละไว้ให้เจ้าของ E46 ทั้งใหม่และเก่าเอาไปเล่นกันเองดีกว่า

         หน้าปัทม์แสดงผลของรุ่นนี้สามารถโปรแกรมได้หลายแบบ เช่น จากองศาฟาเรนไฮด์เป็น เซลเซียล กิโลเมตรเป็นไมล์ Litre/100 เป็น km/litre เป็นต้น

         ในรถรุ่นต่าง ๆ ยังมีระบบไฟฟ้ายิบย่อย เช่น เบาะปรับไฟฟ้า พวงมาลัยไฟฟ้า กระจกข้างพับไฟฟ้า ครูสคอนโทรล ระบบวัดปริมาณน้ำฝนควบคุมที่ปัทม์น้ำฝนตามความเร็วรถ ระบบ ปรับม่านหลังไฟฟ้าขึ้นลงอัตโนมัติ
         อย่าแปลกใจ หากคุณเห็นคู่มือซ่อมรถรุ่นนี้ หนากว่า 4 พันหน้าขนาด A3 สองเล่ม เพื่อครอบคลุมฟังก์ชั่นทั้งหมดของรถ
        ไหน ๆ ก็กล่าวถึงกระจกไฟฟ้าแล้ว หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินถึงเรื่องกระจกตกรางของรถรุ่นนี้ บางคนบอกว่า รถรุ่นนี้ห่วย เพราะกระจกตกราง ค่าซ่อมแพงสี่ห้าพันบาทต่อบาน !@?????ผมใช้รถรุ่นนี้มาเกือบ ๆสิบปีพอดีๆ กับเพื่อนบ้านอีกสองท่านที่ใช้รุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน ออกรถจากศูนย์เดียวกัน กระจกตกรางคนละบานในสามปีแรกทุกคัน และทุกบานในรถ ได้รับการแก้ไขแล้วในช่วงที่รถออกมา หากเจ้าของรถรู้จักเรียกร้องซักนิดไม่มีต้องไปทำซ้ำ หรือ หากจะต้องไปทำ ผมเห็นร้านข้างนอกรับซ่อมไม่เกิน บานละ 1000 บาท ด้วยการใช้คลิบรองสลิงกระจกที่เป็นโลหะ หรือ เฟืองกระจกโลหะ แทนพลาสติก ผมกับเพื่อน ซ่อมฟรีไปแล้ว ไม่นับล่ะ และยังมี DIY ในราคาไม่เกิน 500 ต่อบานให้เห็นอีกหรือจะซื้อรางกระจกทั้งรางของเทียบ สองพันบาท ก็ของแท้ถ้ามันเสียเร็วคุณทะลึ่งไปใช้ ผมก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรหรือแม้แต่ถ้าลงทุนกับของแท้ ที่ผมได้รับการยืนยันจากศูนย์แล้วว่า ไม่เสียอีกนาน ...
         ถ้าใครยังบอกว่ารุ่นนี้ห่วย เพราะแค่กระจกตกราง ซ่อมไม่หาย ผมว่าพิจารณาตัวเองอีกนิดครับ ว่าทำไมซ่อมไม่หาย และซ่อมแพงเหมือนผมและเพื่อน ๆ E46 นั้นปิดยอดขายรวมทั่วโลก อยู่ที่ราวๆ 5 ล้านคัน ตั้งแต่ปี 1998-2006 เป็นจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายรถBMW ทั้งหมด เรียกว่า BMW หากินกับ 3-Series ซะส่วนมาก ทุก ๆ ปีที่มีการผลิตรถยนต์รุ่นนี้ มันจะได้รับรางวัน 10 Best Car จากนิตยสาร Car and Driver Magazine ยังมีรางวัลต่าง ๆในด้านการออกแบบ การขับขี่ จากทั่วทุกมุมโลก ที่ยกให้กับรถรุ่นนี้หลาย ๆ ปีติด ๆ กัน ซึ่งก็เป็นการยืนยันถึงความดีของตัวรถรุ่นนี้อีกทางหนึ่ง ก่อนที่มันจะถูกทดแทนด้วย E90

        ผมเขียนมาตรงนี้ แล้ว กับรถอายุตลาดมากกว่า 10 ปี หากยังไม่เห็นข้อดีของรถรุ่นนี้ ก็ไม่ว่ากันครับ ผมเองก็สบาย ๆกับมันอยู่แล้ว เพราะเขียนไป ผมก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้ว นอกจาก..
หวังว่าคุณภรรยาผม ถ้ามาอ่านเห็น คงน่าจะเห็นข้อดีของมันบ้างนะครับ

ขอบคุณทุกท่าน ๆที่อ่าน ขอบคุณทุกคำ ติชมครับ

หากเป็นประโยชน์สร้างสรรค์เป็นผลกรรมดี ขอให้ผลกรรมดีตอบแทนไปยังคนดีทุกคน และคนชั่วใจบาปได้สงบ
หากเป็นโทษไม่สร้างสรรค์ ขออภัยกรรมให้ผมเอย
จากคุณ: Crayonz เวป พันทิป  (ขอบคุณในวิทยาทานนี้ครับ)
เขียนเมื่อ   : 24 พ.ค. 54 16:39:56 A:101.108.167.1 X: TicketID:158059
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 06, 2012, 15:21:22 โดย kwan47 »

ยิ้มบางแสน

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 3835
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 07, 2012, 22:42:59 »
ผมก็ชอบยาวๆ ครับพี่ kwan47 อิอิ  :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »
ยิ้มบางแสน เทพวินนิ่ง (ข้าพิชิตมาแล้วทุกสำนัก)


donaldinho

  • มือใหม่หัดขับ
  • *
  • กระทู้: 25
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 08, 2012, 00:48:54 »
Thank you ค้าบ
เสียดายไม่มีให้กด like
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »

Krisada511

  • คิดว่าดีก็ทำต่อไป
  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 13170
  • 325i M-Sport-N52k
    • http://www.subaruxvthailand.com/
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 08, 2012, 10:10:30 »
ขอบคุณครับ / Crayonz เวป Pantip  แกเขียน เรื่อง E39 และ E90 ไว้ด้วยครับ รายละเอียดดีมาก ขอเสริมนิด


BMW 5-series E39 ในมุมมองของผม
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

ที่เขียนถึง E90 ไม่รู้หายไปไหนแล้ว ไว้หาให้ครับ  :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »
สิ่งที่สมบูรณ์แล้วโดยแท้ มันก็มีความบกพร่องอยู่ สิ่งที่บกพร่องอยู่ แท้จริงมันก็สมบูรณ์ดีอยู่แล้ว / ขอแนะนำเวปส่วนตัว ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

BMWCNX

  • สมาชิกสมัครใหม่
  • กระทู้: 196
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 08, 2012, 10:23:20 »
สาระความรู้ทั้งน้านนนนน ขอบคุณบทความดีๆ และที่สำคัญ E46 ขอบอกว่ารูปทรงกับอายุมันไม่ได้สัมพันธ์กันเลยแม้แต่น้อย ปัจจุบันยังสวยล้ำสมัยอยู่มากๆ หรือพูดง่ายๆ ดูยังไงก็สวยครับ เหมาะกับรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมมากมาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »

Nirat330

  • สมาชิกสมัครใหม่
  • กระทู้: 5
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 08, 2012, 12:29:14 »
ขอบคุณครับ สำหรับความรู้ที่ให้มากมาย สุดยอดครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »

tom46

  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 16931
  • M52TUB30 SCHRICK CAM
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 09, 2012, 07:27:47 »
เรื่องกระจกตกราง ผมเคยเจอครั้งนึงแต่ บานเดียว เข้าศูนย์เปลี่ยนรางไป ใช้มาจนทุกวันนี้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »


M52TUB24 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

oon_resist

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 1321
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 09, 2012, 10:48:58 »
อ่านแล้วรักรถตัวเองมากๆ  :D  :D  :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »

ning2511

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 104
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 11, 2012, 11:28:59 »
แล้วมีที่ไหนตั้งศูนย์ล้อแบบถ่วงน้ำหนักบ้างครับ
เพราะตั้งศูนย์ล้อร้านยางทั่วไปเหมือนหน้ารถยังไวอยู่เหมือนเดิม
ขับแล้วต้องประคองรถมากกว่าปกติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »

tom46

  • Global Moderator
  • บุคคลในตำนาน
  • *****
  • กระทู้: 16931
  • M52TUB30 SCHRICK CAM
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มีนาคม 11, 2012, 16:09:27 »
ลองไปตั้งศูนย์ที่ บางพลัดศูนย์ล้อ ดูครับ ส่วนตั้งแบบถ่วงน้ำหนักเคยไปถามที่ศูนย์ เขาว่าเมื่อก่อนทำแต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ทำแล้ว สงสัยคงขี้เกียจจะทำ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »


M52TUB24 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

kwan47

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 703
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 15, 2012, 01:58:30 »
:wahaha
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »

SweeTKhaI

  • คนคุ้นเคย
  • ***
  • กระทู้: 99
  • BMW E46 323IA Normally
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เมษายน 16, 2012, 01:13:05 »
      ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับพี่ ผมเพิ่งซื้อมือ 2 มาเมื่อไม่กี่วันมานี้ข้อมูลสำหรับรถรุ่นนี้ผมเองยังมีน้อย
ต้องขอบคุณพี่มากๆครับ ที่แบ่งปันข้อมูลและสาระความรู้ดีๆให้ขอบคุณครับ...
:bow
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »

X-talize

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 795
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: เมษายน 16, 2012, 10:53:51 »
ข้อมูลจาก BMW M54 (อ่านเพิ่มเติมได้จาก  Wikipedia, the free encyclopedia)
Models
Engine   Displacement   Power   Torque   Redline   Year   Stroke   Bore   Compression
M54B22
2.2 L (2171 cc/132 in³)   125 kW (168 hp) @ 6100 rpm   210 N•m (150 ft•lbf) @ 3500   6500   2000   72.0 mm (2.83 in)   80 mm (3.15 in)   10.2:1
M54B25
2.5 L (2494 cc/152 in³)   143 kW (192 hp) @ 6000 rpm   245 N•m (181 ft•lbf) @ 3500   6500   2000   75.0 mm (2.95 in)   84 mm (3.31 in)   10.5:1
M54B30
3.0 L (2979 cc/181 in³)   170 kW (228 hp) @ 5900 rpm   300 N•m (220 ft•lbf) @ 3500   6500   2000   89.6 mm (3.53 in)   84 mm (3.31 in)   10.2:1

ในเมืองไทยที่เห็น M54 จะมีใช้อยู่ในE46 2 รุ่น (ถูกใช้ใน E39 และ E60 บางรุ่นครับ)
E46 325i: เป็นเครื่อง M54B25; 2.5 L (2494 cc); 192 hp (143 kW) at 6000 rpm with 181 lb•ft (245 Nm) of torque at 3500 rpm.
E46 330i: เป็นเครื่อง M54B30; 3.0 L (2979 cc); 231 hp (170 kW) at 5,900 rpm while torque is 221 lb•ft (300 Nm) at 3,500 rpm. เครื่องที่ใช้ในไทยจะถูกล็อคแรงม้าใว้ที่ 218 hp ครับเนื่องจากเหตุผลด้านภาษี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »
เฉาก๊วย

kwan47

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 703
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2012, 12:10:37 »
ตอนนี้ E46 ราคาตกลงมาก เป็นโอกาสดีของหลายๆท่านที่จะมีรถที่มีสมรรถนะใช้งาน เต๊นท์ซื้อเข้าแค่ 4 กลางๆเอง ครับ :hi
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »

koazaf

  • มือใหม่หัดขับ
  • *
  • กระทู้: 13
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2012, 00:48:31 »
หาปุ่มกด like ไม่เจอ :o_o
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 1970, 07:00:00 โดย Guest »

kwan47

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 703
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2012, 08:38:16 »
คุณ Crayonz จาก เวป พันทิป เจ้าของกระทู้ตัวจริง ให้เกียรติมาแชร์ประสบการณ์ในเวปE46 แล้วครับ ต้องขอขอบคุณ แทนสมาชิกทุกท่านในเวปด้วยนะครับ

treety

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 1021
  • เก่งกันจริงๆ
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2012, 10:15:41 »
 ;) ข้อมูลดีๆครับ ขอบคุณครับ

PiekPoon

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 246
  • Golffy 323ise Grey Color
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2012, 18:20:33 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
อ่านแล้วรักรถตัวเองมากๆ  <!-- s:D -->:D<!-- s:D -->  <!-- s:D -->:D<!-- s:D -->  <!-- s:D -->:D<!-- s:D -->

เหมือนกันเลยครับพี่

 ::) ::) ::)

Harn

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 255
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2012, 21:26:32 »
N42 ถึงแรงจะน้อย  C:-) CC ก็น้อย ม้า ในคอกก็ไม่กี่ตัว  ปัญหาก็มี  O0      จับดมแก็ส รับรอง เหลือโลละบาทแน่  8)   เครื่อง หลวมหา

325 ยัดแทน เลย อิอิ  ;D

Awirut

  • klass 71 ไม่ใหญ่ แต่ไม่เคยกลัวใคร
  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 10231
  • ตอนนี้มีปัญญาหาได้แค่นี้ E46-323,E90-320,X1,X3
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2012, 21:38:24 »
ผมอ่านมา 3 วัน....วันละนิดนะครับ เพึ่งอ่านจบเมื่อกี้เองครับ ข้อมูลสุดยอดมากๆครับ :-X :-X :-X

I Love e46 323 I  >!<. 
ใครมีปัญหาเรื่องรถ สามารถโทรปรึกษาได้ครับ 082-365-6523 รุทธ์. หรือ แอดlineมาที่rut467

kwan47

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 703
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2012, 16:54:03 »
ผมคิดจะเอาN42ไปติดแก๊ส ยังหวั่นๆใจอยู่เลย กลัวไม่จบ

crayonz

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 428
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: สิงหาคม 09, 2012, 17:01:21 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ผมคิดจะเอาN42ไปติดแก๊ส ยังหวั่นๆใจอยู่เลย กลัวไม่จบ

ติดดี ๆ ก็น่าจะจบนะครับ ถ้าเป็นรุ่นที่อ่านค่าจาก OBD ได้จะลดปัญหาการเพี้ยนของการจ่ายแก๊สได้ครับ

แต่ขอเป็นช่างที่ชำนาญนิดนึงนะครับ ไม่ใช่เดินสายมั่ว จะพาลทำเครื่องรวนอีก
แกล้งโง่ไปบ้าง ทำให้เขาดูถูกไปบ้าง ชีิวิตมันก็ง่ายขึ้น

kwan47

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 703
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2012, 00:02:04 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ผมคิดจะเอาN42ไปติดแก๊ส ยังหวั่นๆใจอยู่เลย กลัวไม่จบ

ติดดี ๆ ก็น่าจะจบนะครับ ถ้าเป็นรุ่นที่อ่านค่าจาก OBD ได้จะลดปัญหาการเพี้ยนของการจ่ายแก๊สได้ครับ

แต่ขอเป็นช่างที่ชำนาญนิดนึงนะครับ ไม่ใช่เดินสายมั่ว จะพาลทำเครื่องรวนอีก
พอจะแนะนำยี่ห้อและสถานที่ได้มั้ยครับ หลังไมล์ก็ได้ครับ

ท.ทหาร 330

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 343
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2012, 07:45:35 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ผมคิดจะเอาN42ไปติดแก๊ส ยังหวั่นๆใจอยู่เลย กลัวไม่จบ

ติดดี ๆ ก็น่าจะจบนะครับ ถ้าเป็นรุ่นที่อ่านค่าจาก OBD ได้จะลดปัญหาการเพี้ยนของการจ่ายแก๊สได้ครับ

แต่ขอเป็นช่างที่ชำนาญนิดนึงนะครับ ไม่ใช่เดินสายมั่ว จะพาลทำเครื่องรวนอีก
พอจะแนะนำยี่ห้อและสถานที่ได้มั้ยครับ หลังไมล์ก็ได้ครับ

ขอหลังไมล์ด้วยคับ
ขอด้วยคับ

crayonz

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 428
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2012, 16:22:51 »
ติดแก๊ส ผมแนะนำไปหลัง สนามกีฬา ซอย จุฬา ยีสิบขึ้นไป ร้านไหนก็ได้ แต่แนะว่าเดินถาม เดินคุยก่อน ถามโน่นถามนี่ ถ้าไม่ยอมตอบ หรือทำท่าตอบไม่ดี เดือนไปเลย หาร้านใหม่

ผมติดมาสี่คัน คนละร้านกันหมดเลย ก็โอเค แต่รถผมไม่มีคันไหนซับซ้อนเท่า N42

 E46 M43ไปติด GO Gas สามัคคี กลับมา แก้งานอีกนิดหน่อย  STAG 200 23,000 บาท
E36 ร้านชื่อ NP อะไรนี่แหละครับ ติดมาหลายปีแล้ว จุฬาซอย 24 มั้ง 20000 Stag 200 เหมือนกัน
VIGO 2.7 พรศักดิ์แก๊ส ติดมาจ่ายบาง เดินสายไม่เรียบร้อย แก้นิดหน่อย อันนี้ผมไม่ดีเองไม่ได้คุย Stag 200 28000
Commuter 2.7 รถตู้ เกือบถึงถนนพระรามสี่ ร้านมีแต่แท๊กซี่ เข้าไปติด สามชั่วโมงเสร็จ ใช้ลืม 2x,xxx ผมจำราคาไม่ได้ AG
แกล้งโง่ไปบ้าง ทำให้เขาดูถูกไปบ้าง ชีิวิตมันก็ง่ายขึ้น

praphol

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 455
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2012, 16:54:44 »
ชอบสนจูนเองได้ไม่ยาก แนะนำ AC 300 Plus ใช้อยู่ไม่มีปัญหาครับ ก่อนหน้าหน้าใช้อีกยี่ห้อหนึ่งออกตัวสดุดแก้อย่างไรก็ไม่หาย เขาโทษรถอย่างเดียวเลยทนใช้มาได้40,000 โลกล่องเสีย เปลี่นยใหม่ราคา 12000 เลยเปลี่ยนยี่ห้อดีกว่าแล้วก็ดีกว่าจริงๆ AC ถ้ากล่องเสียเขารับซ่อมครับส่งกลับบริษัทแม่ที่ต่างประเทศคิดค่าใช้จ่ายไม่เกิน 1200 บาทด้วย คุ้มครับแนะให้ลองตัดสินใจครับ

kwan47

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 703
Re: สาวก E46 ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กันยายน 01, 2012, 20:53:38 »
อันนี้เป็นความรู้จากคุณcrayonz ทั้งนั้นเลยครับ พี่แกจะไปอยู่อเมริกา แล้ว โชคดีนะครับ พี่..

kwan47

  • แฟนพันธุ์แท้
  • *****
  • กระทู้: 703
Re: สาวก E46 มือใหม่ต้องต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กันยายน 06, 2012, 10:16:28 »
อยากให้สมาชิกฟันธงหน่อยครับ ว่าเครื่อง N42 มันติดแก๊สแล้วจะชัวร์มั้ยครับ ท่านใดติดแล้ว ติดที่ใหน ยี่ห้ออะไร ราคาประมาณเท่าใด ถ้าดีแนะนำอู่ด้วยครับ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับท่านอื่นที่กำลังตัดสินใจด้วย

chet

  • บุคคลในตำนาน
  • ******
  • กระทู้: 1763
  • Love conquers all
    • ศูนย์บริการสิ่งพิมพ์ครบวงจร
Re: สาวก E46 มือใหม่ต้องต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กันยายน 06, 2012, 13:19:03 »
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
หาปุ่มกด like ไม่เจอ <!-- s:o_o -->:o_o<!-- s:o_o -->

คลิก applaud ได้ครับ แปลว่า "ปรบมือ แปะๆๆ"

bank4s

  • ขาประจำ
  • ****
  • กระทู้: 675
  • รักว่ะ E46 อ่ะ
Re: สาวก E46 มือใหม่ต้องอ่าน (ยาว)
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: กันยายน 06, 2012, 16:31:32 »
ใช้เวลาอ่าน เกือบ 9 ชั่วโมง อ่านทีละนิด ทำงานไปด้วย ตอนนี้จบแล้ว ขอบคุณมากๆครับ สำหรับข้อมูล

รักรถมากขึ้น และภูมิใจครับ ที่ตัดสินใจถูกที่เลือก E46 แทน Cruze ครับ เย้ๆๆๆๆๆ :))