ผมก็สงสัยไปที่แร็คพวงมาลัยเหมือนกันครับพี่ต้อม
จากที่ทำมา โช๊ค, ลูกหมาก, บูช จุดหมุนต่างๆ ก็แน่นดีทุกจุด แต่รถกลับมีอาการเลื้อยนิดๆ ดึงหน่อยๆ
แต่ก็มีข้อสังเกตบางจุดครับ ตอนที่ผมรื้อรถทำแอร์ ตอนถอดพวงมาลัยรถออก ช่างที่เคยทำช่วงล่างเขาใส่พวงมาลัยไว้ไม่ตรงมาร์ค(ใส่แค่ให้ดูว่าพวงมาลัยตรงกลาง แล้วปรับที่แขนแร็คแทน) คราวนี้ผมสงสัยเลยมุดไปวัดระยะแกนแร็คจากกระบอกชนปลายแร็ค ผลคือ ระยะแกนที่ยื่นออกมาซ้าย-ขวาไม่เท่ากัน ห่างกันสัก3มิลได้ ช่วงนั้นรถผมนี่ เวลาลงหลุม พื้นเอียง มันจะมีอาการดึงรถแปลกๆ ผมเคยอ่านเจออาการ Bump steer คืออาการเวลารถวิ่งลงพื้นต่างระดับแล้วล้อจะมีอาการล้อขยายไม่เท่ากัน
ตาม vdo นี้ครับ
ผมลองใส่พวงมาลัยตามมาร์คหมุนให้ตรงแล้วก็มุดไปดูแร็ค ผลคือ ระยะแกนที่ยื่นออกมาเท่ากันทั้งสองข้าง ผมเลยตั้งใหม่ทั้งหมดเลย ส่วนอาการหลังตั้งแล้วก็ดีขึ้นแต่ยังมีนะครับ อาจจะเป็นที่ยางด้วยหรือป่าวไม่แน่ใจ เพราะตอนนั้นยางคู่หน้า ซ้าย-ขวา กินไม่เท่ากันเลย
อีกจุดก็ตอนเปลี่ยนยางเมื่อปี 19 หลังจากเปลี่ยนยางเสร็จก็ตั้งศูนย์ตามปกติ หน้า toe in 2mm หลัง toe in 1.5mm แรกๆขับดีครับไม่เลื่อยเท่าไหร่ ขับไป 10000 โลแรก ยางกินในเยอะมาก อาการหน้าไวมาชัดเจน ผมลองวัดระยะของล้อด้านหน้า ผลคือมันเป็น toe out 5mm คราวนี้แก้ไม่ลงเลยครับ ยางมันกินจนเสียทรงไปหมด ก็ทนขับมาจนเปลี่ยนยางตัวล่าสุด ผมเอาตลับเมตรตั้งมุม toe แล้ววิ่งไปจับค่าศูนย์ล้ออีกที ตอนนี้วิ่งมาจะสองหมื่นแล้ว ยางยังดี ไม่กินนอก-ใน อาการเลื้อยก็น้อยลงเยอะนะครับ แต่ไม่หาย
ส่วนแร็คนี่ รถผมพวงมาลัยมันหนักมาก เปลี่ยนแร็ค-ปั๊มเชียงกงมาแล้วก็ยังหนัก ไม่แน่ใจว่าแบบนี้เป็นปกติของ e46 หรือเปล่าหรือเพราะของมือสอง เคยยกรถล้อหน้ารอยแล้วติดเครื่องให้ปั๊มพาวเวอร์ทำงาน แล้วเอามือผลักล้อให้เลี้ยว คือ ล้อเบามาก จริงๆผมว่า มันน่าจะมีแรงต้านจากแร็คบ้างนะครับ ไม่งั้นเจอผิวถนนขรุขระนี่คือ ยังไงแรงจากผิวถนนก็ส่งถึงพวงมาลัยแน่ๆ
จากที่ทำมา ตอนนี้อาการหน้าไวก็ยังไม่หาย เป็นอยู่นิดๆพอคุมรถอยู่ครับ แต่ถ้าหลุมใหญ่ก็ดึงตกใจเหมือนกันครับ ตอนนี้สงสัยแร็คเป็นอันดับแรกเลยครับ