ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินถ้าบอกว่าใส่เกียร์ N แล้วพังไวกว่าเกียร์ D เหยียบเบรกนี้ สงสัยสตาร์ทรถคงต้องใส่ D แล้วเหยี่ยบเบรกแทนนะนิทฤษฎีใครเนี่ยสงสัยจริงๆ555ใช่ครับผม งง มากรถอะไรเข้าเกียร์ n ไม่ได้ ลองอ่านลิงค์พี่กฤษดาดูแล้วครับนี้ก็อีกแนวไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินแต่ผมเลือกนิยมไว้ที่ D แต่ถ้าติดนานๆ ก็ปลดมา n แต่มันก็นานๆครั้งเท่านั้น. ส่วน p ถ้าโดนชนท้าย อันตราย รวมถึงออกตัว จะช้าต้องริแรงดันน้ำมัน ผมวิเคราะห์เองได้ว่าปัญหาที่ไม่ให้เข้าเกียร์ D น่าจะมาจากการที่เราจะออกตัวและย้ายเกียร์จาก N มา D มันจะทำให้เกิดจะเกิดการเว้นว่างของแรงดันน้ำมันและตัวทอร์คก็จะหยุดหมุน เพราะฉะนั้นความเสี่ยงน่าจะอยู่ตรงนี้มากกว่า เคยไหมครับเวลาจอดนานๆเพลินแล้วลืมดูไฟแดงจนรถออกไปแล้ว โดนบีบแตรไล่ 555 คนขับอาจจะตกใจรีบใส่เกียร์แล้วเหยียบคันเร่งโดยที่เกียร์ยังไม่ทันจะจับตัว น่าจะเป็นสาเหตุให้เกียร์พังได้เร็วกว่าน่ะ
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินถ้าบอกว่าใส่เกียร์ N แล้วพังไวกว่าเกียร์ D เหยียบเบรกนี้ สงสัยสตาร์ทรถคงต้องใส่ D แล้วเหยี่ยบเบรกแทนนะนิทฤษฎีใครเนี่ยสงสัยจริงๆ555ใช่ครับผม งง มากรถอะไรเข้าเกียร์ n ไม่ได้
ถ้าบอกว่าใส่เกียร์ N แล้วพังไวกว่าเกียร์ D เหยียบเบรกนี้ สงสัยสตาร์ทรถคงต้องใส่ D แล้วเหยี่ยบเบรกแทนนะนิทฤษฎีใครเนี่ยสงสัยจริงๆ
;)เพราะฉะนั้นผมสรุปของผมเองว่า เข้าNได้เหมือนเดิมแต่ให้ระวังตอนออกตัว ให้เข้าเกียร์D รอเกียร์จับและออกตัวด้วยแรงเฉื่อยของรถมันเองแล้วถึงตามด้วยการเหยียบคันเร่งครับ
จริงครับ ที่เวลาสตาร์ทเครื่องลูกทอร์กทำงานตลอดเวลา แน่นอนครับเพราะว่าลูกทอร์กมันยึดติดกับล้อช่วยแรงครับเพราะฉะนั้นตราบใดที่เครื่องยนต์ยังติดอยู่ลกทอร์กมันก็ต้องหมุนอยู่ตลอดเวลาแน่นอนครับผม.....แต่ว่าในขณะที่เข้าเกียร์ D ภายในเกียร์มีการขบกันของเฟืองเกียร์1และผ้าคลัทช์ก็ทำงานด้วยแต่เราเหยียบเบรคล็อคล้อเอาไว้ รถจึงไม่ขยับครับซึ่งก็แปลว่าภาระของเครื่องยนต์มีมากกว่าตอนที่เข้าเกียร์ N ไว้เฉยๆครับส่วนเวลาที่เราเข้าเกียร์ N ลูกทอร์กก็ยังทำงานครับ แต่ว่า เฟืองภายในเกียร์ไม่มีการต่อกำลังไปที่ไหน เหมือนเครื่องยนต์วิ่งตัวเปล่าครับจึงทำให้ภาระของเครื่องยนต์น้อยกว่าที่เข้าเกียร์ D แล้วเหยียบเบรคฝืนเอาไว้ครับ เครื่องยนต์ก็จะกินน้ำมันแค่รอบเดินเบาซึ่งภาระของเครื่องน้อยมากจนเเทบจะเท่ากับเครื่องเดินตัวเปล่าเลยครับ[/quote
เมื่อก่อน จอดไฟแดงนานๆ ถ้าจอดคันแรกสุด ไฟแดงเกิน 2 นาที ผมปลดไป N พอเหลือซัก 30 วิ ผมจะทำแบบนี้ครับ 1.ผมก็เหยียบเบรค 2.เข้า D3.กด ASC4.กดคันเร่งแรงๆ5.พอเริ่มเบิร์นยางได้ย้ำรอบที่ 6000 รอบ จะครบออกตัวที่ไฟเขียวพอดี ควันท่วมถนน ซักพักรถด้านหลังจะขับมาพร้อมกับคำอวยพรให้พ่อกับแม่เรา พร้อมกับตั้งชื่อใหม่ให้เราเป็นวรนุชทันที ผลต่อมา...1.เสี่ยงบาทา อาจจะโดนยิงได้2.ความสึกหรอของยางเยอะมาก3.คนเกลียดเยอะกว่าเดิม4.ตำรวจไล่จับ5.มีต่ออีกเยอะมาก ไม่อยากจะนึกเลยรอบสุดท้ายที่ไปเบิร์นยางคือหน้ามอนติคาโร ทำโดนัทเล่นหน้าลานจอดรถ กลับบ้าน กลิ่นยางไหม้ติดเต็มรถไป 1 อาทิตย์เต็มๆ ไม่น่าทำเลย เฮ้อ ขำๆนะครับ อย่าคิดมาก
เวลารถติดผมเข้าเกียร์ N เพียงเพราะว่าผมกลัวเผลอยกเท้าออกจากเบรค แล้วพุ่งไปชนคันหน้า O0ได้ความรู้จากกระทู้นี้เลยครับรบกวนสอบถามเพิ่มเติมครับ ปุ่มที่เกียร์จะกดตอนเข้าเกียร์ไหนบ้างครับ (ตอนนี้ผมกดปุ่มเวลาเข้าเกียร์ทุกเกียร์เลย ขับเกียร์ธรรมดามาก่อนน่ะครับ)
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินเวลารถติดผมเข้าเกียร์ N เพียงเพราะว่าผมกลัวเผลอยกเท้าออกจากเบรค แล้วพุ่งไปชนคันหน้า O0ได้ความรู้จากกระทู้นี้เลยครับรบกวนสอบถามเพิ่มเติมครับ ปุ่มที่เกียร์จะกดตอนเข้าเกียร์ไหนบ้างครับ (ตอนนี้ผมกดปุ่มเวลาเข้าเกียร์ทุกเกียร์เลย ขับเกียร์ธรรมดามาก่อนน่ะครับ)ถ้าจากเกียร์ไหนไปเกียร์ไหนเลื่อนไปไม่ได้ก็กดเลยครับ แต่ n ไป d d ไป n ไม่ต้องกดครับผม
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินเมื่อก่อน จอดไฟแดงนานๆ ถ้าจอดคันแรกสุด ไฟแดงเกิน 2 นาที ผมปลดไป N พอเหลือซัก 30 วิ ผมจะทำแบบนี้ครับ 1.ผมก็เหยียบเบรค 2.เข้า D3.กด ASC4.กดคันเร่งแรงๆ5.พอเริ่มเบิร์นยางได้ย้ำรอบที่ 6000 รอบ จะครบออกตัวที่ไฟเขียวพอดี ควันท่วมถนน ซักพักรถด้านหลังจะขับมาพร้อมกับคำอวยพรให้พ่อกับแม่เรา พร้อมกับตั้งชื่อใหม่ให้เราเป็นวรนุชทันที ผลต่อมา...1.เสี่ยงบาทา อาจจะโดนยิงได้2.ความสึกหรอของยางเยอะมาก3.คนเกลียดเยอะกว่าเดิม4.ตำรวจไล่จับ5.มีต่ออีกเยอะมาก ไม่อยากจะนึกเลยรอบสุดท้ายที่ไปเบิร์นยางคือหน้ามอนติคาโร ทำโดนัทเล่นหน้าลานจอดรถ กลับบ้าน กลิ่นยางไหม้ติดเต็มรถไป 1 อาทิตย์เต็มๆ ไม่น่าทำเลย เฮ้อ ขำๆนะครับ อย่าคิดมากทำแบบนี้ได้ คือต้องเมาแน่นอนเลยครับ เพราะผมก็ทำบ่อย555
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินเมื่อก่อน จอดไฟแดงนานๆ ถ้าจอดคันแรกสุด ไฟแดงเกิน 2 นาที ผมปลดไป N พอเหลือซัก 30 วิ ผมจะทำแบบนี้ครับ 1.ผมก็เหยียบเบรค 2.เข้า D3.กด ASC4.กดคันเร่งแรงๆ5.พอเริ่มเบิร์นยางได้ย้ำรอบที่ 6000 รอบ จะครบออกตัวที่ไฟเขียวพอดี ควันท่วมถนน ซักพักรถด้านหลังจะขับมาพร้อมกับคำอวยพรให้พ่อกับแม่เรา พร้อมกับตั้งชื่อใหม่ให้เราเป็นวรนุชทันที ผลต่อมา...1.เสี่ยงบาทา อาจจะโดนยิงได้2.ความสึกหรอของยางเยอะมาก3.คนเกลียดเยอะกว่าเดิม4.ตำรวจไล่จับ5.มีต่ออีกเยอะมาก ไม่อยากจะนึกเลยรอบสุดท้ายที่ไปเบิร์นยางคือหน้ามอนติคาโร ทำโดนัทเล่นหน้าลานจอดรถ กลับบ้าน กลิ่นยางไหม้ติดเต็มรถไป 1 อาทิตย์เต็มๆ ไม่น่าทำเลย เฮ้อ ขำๆนะครับ อย่าคิดมากทำแบบนี้ได้ คือต้องเมาแน่นอนเลยครับ เพราะผมก็ทำบ่อย555 เอาคันดำพี่รุจมาบ้าง ผมจะจัดให้หนักเลย แบบว่ากลับบ้านเหลือแต่ลวด คิคิ
O0อันินี้ถามจริง เบิร์นล้อนี่ตัดเบรคหลังยังงัย เคยได้ยินว่าบางตนทำปุ่มกดใส่โซลินอยด์ตัดน้ำมันไปจ่ายเบรคหลังออกเพื่อเล่นเบิร์นล้อ จริงป่าว
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน O0อันินี้ถามจริง เบิร์นล้อนี่ตัดเบรคหลังยังงัย เคยได้ยินว่าบางตนทำปุ่มกดใส่โซลินอยด์ตัดน้ำมันไปจ่ายเบรคหลังออกเพื่อเล่นเบิร์นล้อ จริงป่าว ผมก็เคย burn ใน e46 นะครับ ไม่เห้นต้องทำอะไรเลยครับพี่ป้อมกดเบรคเบากว่าคันเร่งหน่อยแล้วก็ปลด dsc ออกซะครับ แค่นี้ยางก้ไหม้เลยครับ 55 เสียดายยางจริงๆครับ ไม่ควรทำเลยครับ
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน O0อันินี้ถามจริง เบิร์นล้อนี่ตัดเบรคหลังยังงัย เคยได้ยินว่าบางตนทำปุ่มกดใส่โซลินอยด์ตัดน้ำมันไปจ่ายเบรคหลังออกเพื่อเล่นเบิร์นล้อ จริงป่าว ผมก็เคย burn ใน e46 นะครับ ไม่เห้นต้องทำอะไรเลยครับพี่ป้อมกดเบรคเบากว่าคันเร่งหน่อยแล้วก็ปลด dsc ออกซะครับ แค่นี้ยางก้ไหม้เลยครับ 55 เสียดายยางจริงๆครับ ไม่ควรทำเลยครับ พอดีต้นปีกะจะเปลี่ยนยาง เดี๋ยวหาที่ลองดูส่งท้าย
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน O0อันินี้ถามจริง เบิร์นล้อนี่ตัดเบรคหลังยังงัย เคยได้ยินว่าบางตนทำปุ่มกดใส่โซลินอยด์ตัดน้ำมันไปจ่ายเบรคหลังออกเพื่อเล่นเบิร์นล้อ จริงป่าว ผมก็เคย burn ใน e46 นะครับ ไม่เห้นต้องทำอะไรเลยครับพี่ป้อมกดเบรคเบากว่าคันเร่งหน่อยแล้วก็ปลด dsc ออกซะครับ แค่นี้ยางก้ไหม้เลยครับ 55 เสียดายยางจริงๆครับ ไม่ควรทำเลยครับ พอดีต้นปีกะจะเปลี่ยนยาง เดี๋ยวหาที่ลองดูส่งท้าย อย่าทำเกินเลยนะครับ เพราะเฟืองท้ายจะพังได้ครับ เพราะเฟืองท้ายเราไม่ใช่เฟืองเต็ดนะครับ พังมางานเข้านะครับ
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอินไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน O0อันินี้ถามจริง เบิร์นล้อนี่ตัดเบรคหลังยังงัย เคยได้ยินว่าบางตนทำปุ่มกดใส่โซลินอยด์ตัดน้ำมันไปจ่ายเบรคหลังออกเพื่อเล่นเบิร์นล้อ จริงป่าว ผมก็เคย burn ใน e46 นะครับ ไม่เห้นต้องทำอะไรเลยครับพี่ป้อมกดเบรคเบากว่าคันเร่งหน่อยแล้วก็ปลด dsc ออกซะครับ แค่นี้ยางก้ไหม้เลยครับ 55 เสียดายยางจริงๆครับ ไม่ควรทำเลยครับ พอดีต้นปีกะจะเปลี่ยนยาง เดี๋ยวหาที่ลองดูส่งท้าย อย่าทำเกินเลยนะครับ เพราะเฟืองท้ายจะพังได้ครับ เพราะเฟืองท้ายเราไม่ใช่เฟืองเต็ดนะครับ พังมางานเข้านะครับ เห้นด้วยครับและไม่ใช่แค่เฟืองท้ายนะครับ เพลาขับก็พังได้ร่วมด้วยครับ ทำก็ทำแค่ทีเดียวพอครับเป็นประสบการณ์ครั้งนึงในชีวิต แต่ถ้าบ่อยๆพังแน่ครับ อิๆ
น้ำมันครึ่งลิตร กับ ไม้ขีด ก็เบิร์นได้แล้ว BM ปกติ มันจ่ายแรงไปแบรกหน้า 60/40 หรือเปล่า ถ้าขับหน้า รับรองจานเป็นร่องให้เห็นแน่ แต่ขับหลัง ก็นิดหน่อยก็พอ ครับพี่ถ้าใช้โซลินอย์ แนะนำสำหรับรถลงสนามครับ ต้องการรอบที่สูงมากขึ้น ต้องการความร้อนหน้ายาง คือ หยีบแบรก แล้วกดสั่งโซลินอย์กักน้ำมันไว้ แล้วยกเท่า แบรกหลังก็จำรีลีสกลับแล้วจะ เบิร์นได้ รอบสูงกว่าธรรมดา จานไม่หมิ่น ฝาไม่เปลืองนะคร้าบ อิอิ
n ไป d ต้องเหยียบเบรคด้วยนะครับ