BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => ถาม-ตอบ ปัญหา => ข้อความที่เริ่มโดย: sompol bumrongjaroen ที่ เมษายน 22, 2013, 07:11:56
-
แอร์จำเป็นต้องปิดมั้ยเวลาดับเครื่อง เพื่อไม่ให้ไดชาร์จทำงานหนักเวลาสตาร์ท เห็นบางรายการตอบปัญหารถบอกว่า รถรุ่นใหม่ๆไม่ต้องปิดแอร์จะทำให้ยืดอายุของแอร์ครับ
-
ถึงปิดแอร์ แต่พอจะติดเครื่องแอร์มันก็เปิดเองอยู่ดีครับ เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องปิดครับ แค่เบาก็น่าจะพอครับ
-
ของผมปิดไว้ ตอนเปิดมันก็ปิดครับ สงสัยจะเสีย
แต่เวลาผมปิด ผมปิดจากปุ่มพัดลมนะครับ ไม่ได้กดปุ่มคอมแอร์
-
ของผมปิดไว้ ตอนเปิดมันก็ปิดครับ สงสัยจะเสีย
แต่เวลาผมปิด ผมปิดจากปุ่มพัดลมนะครับ ไม่ได้กดปุ่มคอมแอร์
ขอผมเวลาปิดก็ปิดที่ตัวนี้เหมือนกันครับ แต่พอจะติดเครื่อง แอร์ก็จะทำงานให้ครับ แต่จะเร่งขึ้นมาแค่ขีดเดียวก่อน
-
สงสัยจะเสีย...
-
ไม่จำเป็นต้องปิดค่ะเพื่อยืดอายุการใช้งาน
ของปุ่มและสวิทช์ต่างๆบนหน้าปัทม์
ในรถbmwตั้งแต่e36ขึ้นมาเวลาสตาร์ท
เครื่องขณะเปิดแอร์อยู่ คอมแอร์จะทำงาน
หลังจากเครื่องติดแล้ว8-10วินาที จึงไม่
ต้องกลัวเครื่องหนัก ยกเว้นถ้ารู้สึกว่าแบต
อ่อนสตาร์ทไม่ไหวจึงปิดค่ะ :-*
-
งง สรุปว่าต้องทำอย่างไรครับ
วิ่งมาดับเครื่องเลย สตาร์ใหม่แอร์ติดเองเลย หรือ ปิดแอร์ก่อนดับเครื่อง แต่ตอนสตาร์ทแอร์จะติดเองครับ
-
ผมนิสัยเสียไม่เคยปิดอะไรเลย สตาร์ทเสร็จมาครบทั้งแอร์ทั้งวิทยุ
ขับรถมา20ปี หลายคันหลายยี่ห้อยังไม่เคยเจอไดสตาร์ทพังซักคัน
-
ความรู้ใหม่ เพราะผมปิดตลอดเพราะเคยได้ยินใครบอกให้ทำก็ไม่รู้ จำไม่ได้แล้วตั้งแต่หลายปีก่อน
ส่วนตัวคิดว่า กลัวแบ็ตมันจะหมด O0
-
ของผมปิดไว้ ตอนเปิดมันก็ปิดครับ สงสัยจะเสีย
แต่เวลาผมปิด ผมปิดจากปุ่มพัดลมนะครับ ไม่ได้กดปุ่มคอมแอร์
ขอผมเวลาปิดก็ปิดที่ตัวนี้เหมือนกันครับ แต่พอจะติดเครื่อง แอร์ก็จะทำงานให้ครับ แต่จะเร่งขึ้นมาแค่ขีดเดียวก่อน
เหมือนกันครับ
-
งง สรุปว่าต้องทำอย่างไรครับ
วิ่งมาดับเครื่องเลย สตาร์ใหม่แอร์ติดเองเลย หรือ ปิดแอร์ก่อนดับเครื่อง แต่ตอนสตาร์ทแอร์จะติดเองครับ
ไม่ต้องปิดครับพี่ต้อม วิ่งมาดับเครื่อง สตาร์ทใหม่แอร์มันจะลดความเร็วแอร์เองตามโหลดเครื่องนั้นหละจากนั้นก็ทำงานปกติครับ
-
ลองมาละ ฮือ ทำได้จริงๆด้วย แต่มันจะกลายเป็นพัดลมออโตครับ
-
ผมปิดปุ่ม AC ก่อนจะเข้าบ้านประมาณ 300 เมตรอะครับแต่ยังเปิดพัดลมอยู่เพื่อไล่ความชื้นที่จะตกค้างอยู่ในระบบแอร์ พอจอดรถนิ่งแล้วก็จะกดปิดพัดลม..(เป็นความเชื่อส่วนตัว)...ว่าแอร์จะได้ไม่มีกลิ่นอับหนะครับผม.... :D
-
ผมปิดปุ่ม AC ก่อนจะเข้าบ้านประมาณ 300 เมตรอะครับแต่ยังเปิดพัดลมอยู่เพื่อไล่ความชื่นที่จะตกค้างอยู่ในระบบแอร์ พอจอดรถนิ่งแล้วก็จะกดปิดพัดลม..(เป็นความเชื่อส่วนตัว)...ว่าแอร์จะได้ไม่มีกลิ่นอับหนะครับผม.... :D
อันนี้ เขาก็สอนๆกันมาเหมือนกันครับ
-
ของผมปิดไว้ ตอนเปิดมันก็ปิดครับ สงสัยจะเสีย
แต่เวลาผมปิด ผมปิดจากปุ่มพัดลมนะครับ ไม่ได้กดปุ่มคอมแอร์
ไม่ได้เสียครับ มันถูกโปรแกรมให้จำค่าสุดท้ายครับ
ตัวระบบแอร์สามารถโปรแกรมได้ทุกอย่างครับ ว่า เปิดมาปุ๊ป พัดลมเบอร์ไหน อากาศภายนอกเข้าได้รึเปล่า คอมทำงานรึเปล่า อุณหภูมิเท่าไหร่ หรือจะตั้งง่าย ๆ ว่า จำค่าสุดท้ายที่ตอนดับเครื่องก็ยังได้ครับ
-
8)เป็นความรู้ใหม่ จิงด้วย คับ ผมเองใช้รถ คันที่ 3 คับ ปิดพัดลม ปิดแอร์ ก่อนดับ เครื้องทุกครั้ง และ ติดเครื้อง หรือ ออกรถ ประมาน 3-5 นาที ก็จึงเปิดแอร์ เคิยฟังมาจาก วุทยุ รายการ รถยนต์ แล้ว ตกลงอย่างไงดี ที่สุด ครับครับ ???
-
ผมว่าถ้าเป็บแอร์ระบบออโต้ ไม่ว่ารถรุ่นไหนยี่ห้อไหน ไม่จำเป็นต้องปิดครับ
เพราะมันเป็นระบบออโต้ (อัตโนมัติ)
-
ผมก็คนหนึ่งไม่เคยปิดครับ ก็ยังไม่เคยประสบปัญหาเหมือนกันครับ แต่ได้อ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากก็เป็นประโยชน์เลยทีเดียวครับ ขอบคุณคร้าบ...บ
-
ของผมปิดไว้ ตอนเปิดมันก็ปิดครับ สงสัยจะเสีย
แต่เวลาผมปิด ผมปิดจากปุ่มพัดลมนะครับ ไม่ได้กดปุ่มคอมแอร์
เหมือนกันครับ ปิดที่พัดลม เวลาสตาร์ท ก็ปิดครับ แล้วค่อยกดปุ่ม AUTO :-X
-
ผมปิดครับ ตัดคอมแอร์ทุกครั้งก่อนขับรถถึงที่บ้าน (เวลาจะจอดรถนานๆ เช่นตอนจะเข้าบ้านนอนแล้ว)
เนื่องจากว่า เวลาแอร์ทำงาน ที่คอยล์เย็นจะมีเหงื่อแอร์ หรือ ไอน้ำมาควบแน่นอยู่ครับ
(ลักษณะเหมือนเอาขวดน้ำเย็นออกมาจากตู้เย้น แล้วตั้งทิ้งเอาไว้จะมีหยดน้ำมาควบแน่นเกาะด้านนอกขวด)
ปิดคอมพ์แอร์ก่อนจอดรถสัก 4-5 นาที เพื่อไล่ความชื้นให้ออกไปจากตู้แอร์ครับ
เนื่องจากว่าหากมีหยดน้ำเกาะที่คอยล์เย็น มากๆ เป็นเวลานานๆ คอยล์เย็นจะผุเร็วและแอร์ก็จะรั่วได้ครับ (รั่วเป็นตามด)
แต่ในขณะที่ขับรถอยู่พัดลมแอร์ก็จะพัดอยู่ตลอดเวลาจึงไม่มีปัญหาครับ จะมีปัญหาก็ตอนที่ดับเครื่องนี่แหละครับ
หยดน้ำ เล็กๆ เกาะนานๆ หลายๆปี ก็ทำให้แผงคอยล์เย็นผุได้ครับ
ผมทำเช่นนี้มาตลอด คอยล์เย็นถึงอยู่คู่รถผมมาได้ ร่วม 7 ปี
เพิ่งจะออกอาการรั่วซึมเล็กน้อย เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เองครับ
-
ส่วนของรถผม เวลาจะจอดรถ ผมกดปิดคอมพ์เเอร์ครับ พัดลมยังทำงานอยู่ครับ
เวลาสตาร์ทรถตอนเช้า พัดลมแอร์จะทำงานเหมือนเดิม แต่ไฟ AUTO จะทำงานเองครับ
คอมพ์แอร์ก็จำสถานะเดิมก่อนดับเครื่อง คือปิด อยู่เหมือนเดิมครับ
ส่วนวันไหนถ้าลืมดับคอมพ์แอร์ก่อนดับเครื่อง สตาร์ทเครื่องอีกที คอมพ์แอร์ก็จะทำงานเองเหมือนก่อนจะดับเครื่องครับ
-
ผมปิดครับ ตัดคอมแอร์ทุกครั้งก่อนขับรถถึงที่บ้าน (เวลาจะจอดรถนานๆ เช่นตอนจะเข้าบ้านนอนแล้ว)
เนื่องจากว่า เวลาแอร์ทำงาน ที่คอยล์เย็นจะมีเหงื่อแอร์ หรือ ไอน้ำมาควบแน่นอยู่ครับ
(ลักษณะเหมือนเอาขวดน้ำเย็นออกมาจากตู้เย้น แล้วตั้งทิ้งเอาไว้จะมีหยดน้ำมาควบแน่นเกาะด้านนอกขวด)
ปิดคอมพ์แอร์ก่อนจอดรถสัก 4-5 นาที เพื่อไล่ความชื้นให้ออกไปจากตู้แอร์ครับ
เนื่องจากว่าหากมีหยดน้ำเกาะที่คอยล์เย็น มากๆ เป็นเวลานานๆ คอยล์เย็นจะผุเร็วและแอร์ก็จะรั่วได้ครับ (รั่วเป็นตามด)
แต่ในขณะที่ขับรถอยู่พัดลมแอร์ก็จะพัดอยู่ตลอดเวลาจึงไม่มีปัญหาครับ จะมีปัญหาก็ตอนที่ดับเครื่องนี่แหละครับ
หยดน้ำ เล็กๆ เกาะนานๆ หลายๆปี ก็ทำให้แผงคอยล์เย็นผุได้ครับ
ผมทำเช่นนี้มาตลอด คอยล์เย็นถึงอยู่คู่รถผมมาได้ ร่วม 7 ปี
เพิ่งจะออกอาการรั่วซึมเล็กน้อย เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เองครับ
;) เห็นด้วยครับ อย่างน้อยก็แก้ปัญหาเรื่องกลิ่นได้
-
ผมก็ปิดก่อนดับเครื่องตลอด ชักจะลังเล :-\
-
ผมซื้อรถมา 3ปีกว่าเเล้ว ไม่เคยปิดเเอร์เลยครับ เเล้วก็ไม่เคยซ่อมเรื่องเเอร์ครับ เคยเเค่เปลี่ยน เเม่เหล็ก ดูดหน้าเเปนคอมเเอร์ เเต่ใช้คอมลูกเดิม จะมีงานเข้าไหมเนีย :o
-
ผมปิดปุ่ม AC ก่อนจะเข้าบ้านประมาณ 300 เมตรอะครับแต่ยังเปิดพัดลมอยู่เพื่อไล่ความชื้นที่จะตกค้างอยู่ในระบบแอร์ พอจอดรถนิ่งแล้วก็จะกดปิดพัดลม..(เป็นความเชื่อส่วนตัว)...ว่าแอร์จะได้ไม่มีกลิ่นอับหนะครับผม.... :D
คอยล์ยเย็นหนาเกือบ3นิ้วให้เป่าด้วยพัดลมระยะทาง3-400เมตรไม่แห้ง
หรือลดหยดน้ำไม่ได้ผมปิดครับ ตัดคอมแอร์ทุกครั้งก่อนขับรถถึงที่บ้าน (เวลาจะจอดรถนานๆ เช่นตอนจะเข้าบ้านนอนแล้ว)
เนื่องจากว่า เวลาแอร์ทำงาน ที่คอยล์เย็นจะมีเหงื่อแอร์ หรือ ไอน้ำมาควบแน่นอยู่ครับ
(ลักษณะเหมือนเอาขวดน้ำเย็นออกมาจากตู้เย้น แล้วตั้งทิ้งเอาไว้จะมีหยดน้ำมาควบแน่นเกาะด้านนอกขวด)
ปิดคอมพ์แอร์ก่อนจอดรถสัก 4-5 นาที เพื่อไล่ความชื้นให้ออกไปจากตู้แอร์ครับ
เนื่องจากว่าหากมีหยดน้ำเกาะที่คอยล์เย็น มากๆ เป็นเวลานานๆ คอยล์เย็นจะผุเร็วและแอร์ก็จะรั่วได้ครับ (รั่วเป็นตามด)
แต่ในขณะที่ขับรถอยู่พัดลมแอร์ก็จะพัดอยู่ตลอดเวลาจึงไม่มีปัญหาครับ จะมีปัญหาก็ตอนที่ดับเครื่องนี่แหละครับ
หยดน้ำ เล็กๆ เกาะนานๆ หลายๆปี ก็ทำให้แผงคอยล์เย็นผุได้ครับ
ผมทำเช่นนี้มาตลอด คอยล์เย็นถึงอยู่คู่รถผมมาได้ ร่วม 7 ปี
เพิ่งจะออกอาการรั่วซึมเล็กน้อย เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เองครับ
ถ้าปิดก่อนจอด4-5นาทีในขณะวิ่งอยู่ร้อนเหงื่อแตกแน่ๆ
หรือจะติดเครื่องทิ้งไว้4-5นาทีปิดแอร์ไว้ด้วยเพื่อไล่ความ
ชื้น คงแทบไม่มีใครมานั่งรอแบบนั้น
เรื่องจริงไม่ว่าเราจะปิดแอร์ก่อน หรือไม่ปิดเวลาดับเครื่อง
แล้วช่องอากาศด้านหลังตู้แอร์จะเปิดเมื่อปิดสวิทช์กุญแจ
อากาศความชื้นก็จะถูกระบายออกไปทางด้านนั้น
ดังนั้นปัญหากลิ่นอับในตู้แทบหมดไป กลิ่นอับในรถน่าจะเกิด
จากสิ่งของที่อยู่ในรถเองเช่นน้ำหอมบางชนิด หรือการนำอาหาร
มารับประทานในรถค่ะ
-
ขอต่ออีกนิด
99%ของการรั่วในตู้แอร์จะรั่วที่โอริงวาล์วหรือที่ตัววาล์วเอง
หรือถ้ารั่วเป็นตามดส่วนมากก็จะพบบริเวณรอยต่อ
เหตุผลที่ช่างต้องเปลี่ยนคอยล์เย็นด้วยเพราะการถอดประกอบ
แต่ละครั้งไม่ง่ายถ้าไม่เปลี่ยนอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วไม่จบมัน
คงไม่ดีทั้งสองฝ่ายช่างจึงต้องเปลี่ยนทั้งหมด ค่ะ
8) 8)
-
ขอต่ออีกนิด
99%ของการรั่วในตู้แอร์จะรั่วที่โอริงวาล์วหรือที่ตัววาล์วเอง
หรือถ้ารั่วเป็นตามดส่วนมากก็จะพบบริเวณรอยต่อ
เหตุผลที่ช่างต้องเปลี่ยนคอยล์เย็นด้วยเพราะการถอดประกอบ
แต่ละครั้งไม่ง่ายถ้าไม่เปลี่ยนอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วไม่จบมัน
คงไม่ดีทั้งสองฝ่ายช่างจึงต้องเปลี่ยนทั้งหมด ค่ะ
8) 8)
ขอบคุณคะ ^-^ ^-^ ^-^
-
ตอบซะ ผู้ชายอาย ไม่รู้จะตอบอะไรดี... :-\
-
;) ;) ;) ::)
ผมปิดปุ่ม AC ก่อนจะเข้าบ้านประมาณ 300 เมตรอะครับแต่ยังเปิดพัดลมอยู่เพื่อไล่ความชื้นที่จะตกค้างอยู่ในระบบแอร์ พอจอดรถนิ่งแล้วก็จะกดปิดพัดลม..(เป็นความเชื่อส่วนตัว)...ว่าแอร์จะได้ไม่มีกลิ่นอับหนะครับผม.... :D
คอยล์ยเย็นหนาเกือบ3นิ้วให้เป่าด้วยพัดลมระยะทาง3-400เมตรไม่แห้ง
หรือลดหยดน้ำไม่ได้ผมปิดครับ ตัดคอมแอร์ทุกครั้งก่อนขับรถถึงที่บ้าน (เวลาจะจอดรถนานๆ เช่นตอนจะเข้าบ้านนอนแล้ว)
เนื่องจากว่า เวลาแอร์ทำงาน ที่คอยล์เย็นจะมีเหงื่อแอร์ หรือ ไอน้ำมาควบแน่นอยู่ครับ
(ลักษณะเหมือนเอาขวดน้ำเย็นออกมาจากตู้เย้น แล้วตั้งทิ้งเอาไว้จะมีหยดน้ำมาควบแน่นเกาะด้านนอกขวด)
ปิดคอมพ์แอร์ก่อนจอดรถสัก 4-5 นาที เพื่อไล่ความชื้นให้ออกไปจากตู้แอร์ครับ
เนื่องจากว่าหากมีหยดน้ำเกาะที่คอยล์เย็น มากๆ เป็นเวลานานๆ คอยล์เย็นจะผุเร็วและแอร์ก็จะรั่วได้ครับ (รั่วเป็นตามด)
แต่ในขณะที่ขับรถอยู่พัดลมแอร์ก็จะพัดอยู่ตลอดเวลาจึงไม่มีปัญหาครับ จะมีปัญหาก็ตอนที่ดับเครื่องนี่แหละครับ
หยดน้ำ เล็กๆ เกาะนานๆ หลายๆปี ก็ทำให้แผงคอยล์เย็นผุได้ครับ
ผมทำเช่นนี้มาตลอด คอยล์เย็นถึงอยู่คู่รถผมมาได้ ร่วม 7 ปี
เพิ่งจะออกอาการรั่วซึมเล็กน้อย เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เองครับ
ถ้าปิดก่อนจอด4-5นาทีในขณะวิ่งอยู่ร้อนเหงื่อแตกแน่ๆ
หรือจะติดเครื่องทิ้งไว้4-5นาทีปิดแอร์ไว้ด้วยเพื่อไล่ความ
ชื้น คงแทบไม่มีใครมานั่งรอแบบนั้น
เรื่องจริงไม่ว่าเราจะปิดแอร์ก่อน หรือไม่ปิดเวลาดับเครื่อง
แล้วช่องอากาศด้านหลังตู้แอร์จะเปิดเมื่อปิดสวิทช์กุญแจ
อากาศความชื้นก็จะถูกระบายออกไปทางด้านนั้น
ดังนั้นปัญหากลิ่นอับในตู้แทบหมดไป กลิ่นอับในรถน่าจะเกิด
จากสิ่งของที่อยู่ในรถเองเช่นน้ำหอมบางชนิด หรือการนำอาหาร
มารับประทานในรถค่ะ
-
ไม่จำเป็นครับ
ผมใช้รถมาไม่ต่ำำกว่า 20 คัน ไม่มีคันไหนที่ผมปิดแอร์ก่อนจอดเลย อายุแอร์ก็ไม่ได้น้อยหรือมากกว่ารถคันอื่น ๆ ครับ
E46 E36 E39 W210, W211, W203 Hyundai Tiburon, Toyota Altis, Honda Civic, Accord, Isuzu TFR, Spark ex, Dmax, Mitsubishi Cyclone, Toyota Sportrider, Toyota Vigo, Mazda BT50, etc.
พวกรถกระบะส่งของบางคันผมดึงปุ่มปรับแอร์ออกเลย คนขับรถผมไม่เคยได้จับ
-
ผมเป็นอีกคน ครับไม่เคยดับก่อนเลย ใช้มา 10 ปี ตู้แอร์ยังไม่เคยเปลี่ยนเลย ต้องพยามรักษากรองอากาศแอร์ด้านหน้าดีๆแล้วพยามกดปุ่มปิดอากาศภายนอกใหม่ๆใช้กดเอาทุกที มาหลังๆไปเซ็ท ให้จำค่าไม่ต้องกดแล้ว เพื่อนที่ทำอู่เล่า ว่าe36 กดมากๆ
ปุ่มนี้พังกันหลายค้นแล้ว
-
ของเวลาดับเครื่อง แอร์ดับปึ้บเลย มันจะเสียไหมแบบนี้ มันเสียวๆ สรุป ว่าปล่อยให้แอร์มันดับปึ๊บแบบนี้ต่อไปถูกไหมครับ :-\ :-\ :-\
-
ไม่จำเป็นต้องปิดค่ะเพื่อยืดอายุการใช้งาน
ของปุ่มและสวิทช์ต่างๆบนหน้าปัทม์
ในรถbmwตั้งแต่e36ขึ้นมาเวลาสตาร์ท
เครื่องขณะเปิดแอร์อยู่ คอมแอร์จะทำงาน
หลังจากเครื่องติดแล้ว8-10วินาที จึงไม่
ต้องกลัวเครื่องหนัก ยกเว้นถ้ารู้สึกว่าแบต
อ่อนสตาร์ทไม่ไหวจึงปิดค่ะ :-*
ของผมใช้มา11ปีแล้ว ยังไม่เคยปิดเลยสักครั้งตอนจะจอด เพิ่งจะเติมน้ำยาแอร์ตอนหลังน้ำท่วมครั้งเดียวครับ แต่คงอีกไม่นานต้องจัดการอะไรสักอย่างแล้วครับ อย่างตู้แอร์อะไรประมาณนั้นครับ ;) :))
-
ผมปิดครับ ตัดคอมแอร์ทุกครั้งก่อนขับรถถึงที่บ้าน (เวลาจะจอดรถนานๆ เช่นตอนจะเข้าบ้านนอนแล้ว)
เนื่องจากว่า เวลาแอร์ทำงาน ที่คอยล์เย็นจะมีเหงื่อแอร์ หรือ ไอน้ำมาควบแน่นอยู่ครับ
(ลักษณะเหมือนเอาขวดน้ำเย็นออกมาจากตู้เย้น แล้วตั้งทิ้งเอาไว้จะมีหยดน้ำมาควบแน่นเกาะด้านนอกขวด)
ปิดคอมพ์แอร์ก่อนจอดรถสัก 4-5 นาที เพื่อไล่ความชื้นให้ออกไปจากตู้แอร์ครับ
เนื่องจากว่าหากมีหยดน้ำเกาะที่คอยล์เย็น มากๆ เป็นเวลานานๆ คอยล์เย็นจะผุเร็วและแอร์ก็จะรั่วได้ครับ (รั่วเป็นตามด)
แต่ในขณะที่ขับรถอยู่พัดลมแอร์ก็จะพัดอยู่ตลอดเวลาจึงไม่มีปัญหาครับ จะมีปัญหาก็ตอนที่ดับเครื่องนี่แหละครับ
หยดน้ำ เล็กๆ เกาะนานๆ หลายๆปี ก็ทำให้แผงคอยล์เย็นผุได้ครับ
ผมทำเช่นนี้มาตลอด คอยล์เย็นถึงอยู่คู่รถผมมาได้ ร่วม 7 ปี
เพิ่งจะออกอาการรั่วซึมเล็กน้อย เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เองครับ
ผมทำแบบเดียวกับคุณ Chaky ครับ :-*
-
ผมปิดปุ่ม AC ก่อนจะเข้าบ้านประมาณ 300 เมตรอะครับแต่ยังเปิดพัดลมอยู่เพื่อไล่ความชื้นที่จะตกค้างอยู่ในระบบแอร์ พอจอดรถนิ่งแล้วก็จะกดปิดพัดลม..(เป็นความเชื่อส่วนตัว)...ว่าแอร์จะได้ไม่มีกลิ่นอับหนะครับผม.... :D
คอยล์ยเย็นหนาเกือบ3นิ้วให้เป่าด้วยพัดลมระยะทาง3-400เมตรไม่แห้ง
หรือลดหยดน้ำไม่ได้ผมปิดครับ ตัดคอมแอร์ทุกครั้งก่อนขับรถถึงที่บ้าน (เวลาจะจอดรถนานๆ เช่นตอนจะเข้าบ้านนอนแล้ว)
เนื่องจากว่า เวลาแอร์ทำงาน ที่คอยล์เย็นจะมีเหงื่อแอร์ หรือ ไอน้ำมาควบแน่นอยู่ครับ
(ลักษณะเหมือนเอาขวดน้ำเย็นออกมาจากตู้เย้น แล้วตั้งทิ้งเอาไว้จะมีหยดน้ำมาควบแน่นเกาะด้านนอกขวด)
ปิดคอมพ์แอร์ก่อนจอดรถสัก 4-5 นาที เพื่อไล่ความชื้นให้ออกไปจากตู้แอร์ครับ
เนื่องจากว่าหากมีหยดน้ำเกาะที่คอยล์เย็น มากๆ เป็นเวลานานๆ คอยล์เย็นจะผุเร็วและแอร์ก็จะรั่วได้ครับ (รั่วเป็นตามด)
แต่ในขณะที่ขับรถอยู่พัดลมแอร์ก็จะพัดอยู่ตลอดเวลาจึงไม่มีปัญหาครับ จะมีปัญหาก็ตอนที่ดับเครื่องนี่แหละครับ
หยดน้ำ เล็กๆ เกาะนานๆ หลายๆปี ก็ทำให้แผงคอยล์เย็นผุได้ครับ
ผมทำเช่นนี้มาตลอด คอยล์เย็นถึงอยู่คู่รถผมมาได้ ร่วม 7 ปี
เพิ่งจะออกอาการรั่วซึมเล็กน้อย เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เองครับ
ถ้าปิดก่อนจอด4-5นาทีในขณะวิ่งอยู่ร้อนเหงื่อแตกแน่ๆ
หรือจะติดเครื่องทิ้งไว้4-5นาทีปิดแอร์ไว้ด้วยเพื่อไล่ความ
ชื้น คงแทบไม่มีใครมานั่งรอแบบนั้น
เรื่องจริงไม่ว่าเราจะปิดแอร์ก่อน หรือไม่ปิดเวลาดับเครื่อง
แล้วช่องอากาศด้านหลังตู้แอร์จะเปิดเมื่อปิดสวิทช์กุญแจ
อากาศความชื้นก็จะถูกระบายออกไปทางด้านนั้น
ดังนั้นปัญหากลิ่นอับในตู้แทบหมดไป กลิ่นอับในรถน่าจะเกิด
จากสิ่งของที่อยู่ในรถเองเช่นน้ำหอมบางชนิด หรือการนำอาหาร
มารับประทานในรถค่ะ
ผมก็คนนึง ครับที่คิดแบบนี้ ไม่เคยปิดเลยครับ
-
555555
ยังไงก็ได้ครับ แล้วแต่ผู้ใช้แต่ละท่านครับ....
เพราะพิสูจน์จากผู้ใช้แล้วหลายๆท่าน
สรุป ก็คือ ปิดไม่ปิด แอร์ก่อนจอดรถเป็นเวลานานๆ ผลเหมือนกันครับ
คือ แอร์ที่ใช้งานไป ถึงเวลา มันก็รั่วของมันเอง ตามอายุ
ไม่ว่าจะปิด หรือไม่ปิดคอมพ์แอร์ แผงคอยล์เย็น ก็มีอายุการใช้งาน 7-10 ปีจริง(จากที่สมาชิกหลายท่านตอบมา)
ผมยังมองอีกมุมนึงด้วยครับ การที่ดับเเอร์ก่อนจอดยังช่วยประหยัดน้ำมันไอ้อีกเล็กน้อย
เพราะ ภาระของเครื่องลดลงเมื่อเราตัดคอมพ์แอร์ แถมแอร์ที่เปิดมาตลอดการเดินทางก็ยังเย็นอยู่ได้อีก 4-5 นาที
ผมว่าไม่ทำให้ร้อนจนเหงื่อแตกหรอกครับ ประหยัดวันละนิด ปีนึงก็หลายอยู่ครับ อันนี้ นานาจิตตังครับ
ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันครับ... ;)
เหมือนเวลา ข้างหน้า สัก 200-300 เมตร เห็นไฟแดงจะๆ จะเร่งเครื่องไปเบรคทำไมจริงมั้ยครับ
เร่งเครื่องไปเปลืองน้ำมัน รถมาเร็วต้องเบรคแรงอีก เปลืองผ้าเบรค
ปล่อยไหลไปเลย ยังไงก็ต้องเบรคติดไฟแดงอยู่ดี
-
555555
ยังไงก็ได้ครับ แล้วแต่ผู้ใช้แต่ละท่านครับ....
เพราะพิสูจน์จากผู้ใช้แล้วหลายๆท่าน
สรุป ก็คือ ปิดไม่ปิด แอร์ก่อนจอดรถเป็นเวลานานๆ ผลเหมือนกันครับ
คือ แอร์ที่ใช้งานไป ถึงเวลา มันก็รั่วของมันเอง ตามอายุ
ไม่ว่าจะปิด หรือไม่ปิดคอมพ์แอร์ แผงคอยล์เย็น ก็มีอายุการใช้งาน 7-10 ปีจริง(จากที่สมาชิกหลายท่านตอบมา)
ผมยังมองอีกมุมนึงด้วยครับ การที่ดับเเอร์ก่อนจอดยังช่วยประหยัดน้ำมันไอ้อีกเล็กน้อย
เพราะ ภาระของเครื่องลดลงเมื่อเราตัดคอมพ์แอร์ แถมแอร์ที่เปิดมาตลอดการเดินทางก็ยังเย็นอยู่ได้อีก 4-5 นาที
ผมว่าไม่ทำให้ร้อนจนเหงื่อแตกหรอกครับ ประหยัดวันละนิด ปีนึงก็หลายอยู่ครับ อันนี้ นานาจิตตังครับ
ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันครับ... ;)
เหมือนเวลา ข้างหน้า สัก 200-300 เมตร เห็นไฟแดงจะๆ จะเร่งเครื่องไปเบรคทำไมจริงมั้ยครับ
เร่งเครื่องไปเปลืองน้ำมัน รถมาเร็วต้องเบรคแรงอีก เปลืองผ้าเบรค
ปล่อยไหลไปเลย ยังไงก็ต้องเบรคติดไฟแดงอยู่ดี
ถูกต้องแล้วครับ!! ;) ;) ;)
-
555555
ยังไงก็ได้ครับ แล้วแต่ผู้ใช้แต่ละท่านครับ....
เพราะพิสูจน์จากผู้ใช้แล้วหลายๆท่าน
สรุป ก็คือ ปิดไม่ปิด แอร์ก่อนจอดรถเป็นเวลานานๆ ผลเหมือนกันครับ
คือ แอร์ที่ใช้งานไป ถึงเวลา มันก็รั่วของมันเอง ตามอายุ
ไม่ว่าจะปิด หรือไม่ปิดคอมพ์แอร์ แผงคอยล์เย็น ก็มีอายุการใช้งาน 7-10 ปีจริง(จากที่สมาชิกหลายท่านตอบมา)
ผมยังมองอีกมุมนึงด้วยครับ การที่ดับเเอร์ก่อนจอดยังช่วยประหยัดน้ำมันไอ้อีกเล็กน้อย
เพราะ ภาระของเครื่องลดลงเมื่อเราตัดคอมพ์แอร์ แถมแอร์ที่เปิดมาตลอดการเดินทางก็ยังเย็นอยู่ได้อีก 4-5 นาที
ผมว่าไม่ทำให้ร้อนจนเหงื่อแตกหรอกครับ ประหยัดวันละนิด ปีนึงก็หลายอยู่ครับ อันนี้ นานาจิตตังครับ
ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันครับ... ;)
เหมือนเวลา ข้างหน้า สัก 200-300 เมตร เห็นไฟแดงจะๆ จะเร่งเครื่องไปเบรคทำไมจริงมั้ยครับ
เร่งเครื่องไปเปลืองน้ำมัน รถมาเร็วต้องเบรคแรงอีก เปลืองผ้าเบรค
ปล่อยไหลไปเลย ยังไงก็ต้องเบรคติดไฟแดงอยู่ดี
+1
-
ฮ่าๆ ผมเป็นคนที่ชอบเร่งเครื่องไปติดไฟแดง(จริงๆนะ)
กับชอบปลดเกียร์ว่างกับปิดไฟหน้าตอนติดไฟแดงกลางคืน
ถึงแม้จะอ่านมาเจอมาเรื่องผลจากการเข้าเกียร์/ปลดเกียร์บ่อยๆ
แต่ผมก็เลือกความสบายเป็นหลักอยู่ดี คือทั้งสบายเราและสบายคนอื่น
ขนาดไฟหน้าผมยังปรับกดซะเลียดพื้นเพราะเคยรู้สึกว่าแสบตาเวลาใครมาส่องอยู่ข้างหลัง
รวมถึงไปจอดข้างหลังรถคันที่กำลังกดไฟเบรค แสบตามากกกก
ที่พูดยาวๆคือจะบอกว่าผมจะเลือกความสบายไว้เป็นอันดับแรก (คือขี้เกียจนั่นเอง)
-
ฮ่าๆ ผมเป็นคนที่ชอบเร่งเครื่องไปติดไฟแดง(จริงๆนะ)
กับชอบปลดเกียร์ว่างกับปิดไฟหน้าตอนติดไฟแดงกลางคืน
ถึงแม้จะอ่านมาเจอมาเรื่องผลจากการเข้าเกียร์/ปลดเกียร์บ่อยๆ
แต่ผมก็เลือกความสบายเป็นหลักอยู่ดี คือทั้งสบายเราและสบายคนอื่น
ขนาดไฟหน้าผมยังปรับกดซะเลียดพื้นเพราะเคยรู้สึกว่าแสบตาเวลาใครมาส่องอยู่ข้างหลัง
รวมถึงไปจอดข้างหลังรถคันที่กำลังกดไฟเบรค แสบตามากกกก
ที่พูดยาวๆคือจะบอกว่าผมจะเลือกความสบายไว้เป็นอันดับแรก (คือขี้เกียจนั่นเอง)
มีวิธีติดไฟแดงแบบสบายๆ และถนอมเกียร์อีกวิธีครับ
คือ ถ้าช่วงรถติดๆ ไม่มาก เช่น D เหยียบเบรค แป๊บๆ 20-30 วินาที ขยับอีกแล้ว
ขยับไปอีกสัก 2 เมตร เบรคอีกสัก 45 วินาที แล้วก็ขยับไปอีกสัก 5-6 เมตร
สถานะการณ์แบบนี้ ผมจะดึงเบรคมือแทนการเหยียบเบรคครับ
คือพอรถหยุดนิ่ง ยังเป็นเกียร์ D อยู่รู้ว่าอีกเดี๋ยวก็ขยับไปอีกหน่อย
ผมดึงเบรคมือรอเลยครับเท้าก็จะปล่อยออกจากแป้นเบรคได้ครับ
พอรถเริ่มขยับ ก็ปลดเบรคมือได้เลยครับ ไม่ต้องเหยียบเบรคอีก
รถก็จะเลื่อนไปข้างหน้าทันทีเพราะยังเป็นเกียร์ D อยู่เลยครับ
แถมไม่แสบตาคันข้างหลังด้วย แล้วก็ไม่ต้องคอยเปลี่ยนเกียร์ จาก D เป็น N
แล้วก็ N เป็น D บ่อยๆ เมื่อยครับ
สรุป รถติดแบบแป๊บๆ ขยับบ้างนิ่งบ้าง ผมจะดึงเบรคมือแทนการเหยียบเบรคครับ
ถนอมเกียร์ ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ ถนอมแรงขา ไม่ต้องเหยียบแป้นเบรคนานๆ..
แต่ถ้าเห็นเวลาไฟแดง เกิน 80 วินาทีขึ้นไป แล้วรถไม่ขยับแล้วแน่ๆ ผมก็จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ N ครับ
-
เข้ามาหาความรุ้ ขอสารภาพเลยว่า ผมยังปิดแอร์ E46 ไม่เป็นเลย กดยังให้ระบายลมเย็นออกก่อนดับเครื่องครับ