BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => พูดคุย สนทนาทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: X-talize ที่ กันยายน 16, 2012, 16:36:54
-
เดินเทสโก้มา ได้ใบยางปัดน้ำฝน ราคา 119 บาท มี2เส้นๆละ 24" เลือกเป็นแบบ Silicone ตกอันละไม่ถึง 60 บาท ปัดได้เรียบ เงียบ ลื่น ใบทางซ้ายตัดออกประมาณ 3" ส่วนด้านขวาใส่ได้เต็มประหยัดได้อีกปีก็สุดคุ้ม ส่วนยางใบปัดประกันใช้งานสองปี :)) :)) :))
-
ขอทราบวิธีทำด้วยครับ :-X
-
ขอโทษที่ภาพไม่ชัดนะครับ
ยางปัดจะมีร่องอยู่สามร่องหลัก ถ้านับจากส่วนใบที่สัมผัสกระจกขึ้นมา
ร่องแรกจะออกแบบให้ยางพับมุมได้เล็กน้อย เพื่อให้รับกับกระจกเวลาที่ยางปัดขึ้นหรือปัดลง
ร่องสองจะเป็นร่องยึดกับขาเหล็ก เป็นส่วนที่เราต้องค่อยๆสไลท์ยางออกมาครับ
-
พอสไลท์ยางออกมาได้จะเจอก้านเหล็กสำหรับยึดเป็นโครงของใบปัดครับ
-
จุดยึดจับสำหรับโครงเหล็กอันนี้ ต้องสังเกตุที่ปลายด้านนึงของยาง จะทำร่องยึดสำหรับล็อคใบปัดยางกับโครงเหล็ก ระวังห้ามตัดทิ้งหรือตัดผิดด้านครับ
-
หลังจากนั้นก็เอายางใหม่มาใส่ ประกอบเหล็กยึดอันเดิมเข้าไป ในร่องที่สามแล้วค่อยๆสไลท์กับเข้าโครงเดิม
สังเกตุปลายที่เป็นจุดยึด เวลาประกอบเข้าไปจะอยู่ด้านล่างของโครงปัดนะครับ
-
ส่วนปลายด้านบนเทียบกับโครงเหล็กเก่า ถ้าเกินมากก็ตัดทิ้งได้ เอาตามขนาดจริงไม่เกินกระจกก็ใช้ได้ ของผมตัดด้านซ้ายออกข้างเดียว
-
ขอบคุณมากครับ ;)
-
เดี๋ยวจะลองทำตามบ้างคับพี่ป้อม :-X
ผมไปซื้อยาง มาเปลี่ยน ปัดไม่ได้เรื่องเลยย แถมมีเสียงดัง อีกตะหากกก :'( :'(
-
ราคานี้ผมก็ซื้อมาลองยาเหมือนกัน ตอนแรกเปลี่ยนด้านซ้ายลองดูก่อนเพราะมันเสียงดังและเหมือนจะสะดุดกระจกแล้วด้วย >:(
บังเอิญเปลี่ยนแล้วรู้สึกดี พอเทียบกับอันเดิมติดรถด้านขวา เอ้าปาดเรียบกว่าซะงั้น ก็เลยเปลี่ยนทั้งคู่ซะเลย ;)
จากการสังเกตุที่บอกไว้ตอนต้น ผมว่าร่องยางอันแรกที่เขาออกแบบมามันช่วยให้ใบปัดล้มเอียงทำมุมกับกระจกได้ดี อันนี้ความเห็นส่วนตัวตอนที่เอาเศษยางที่ตัดออกมาพินิจพิเคราะห์ดู เวลาเอามือจับใบปัดมันโยนตัวได้ดี แต่ทั้งนี้จะทนแค่ไหนก็ต้องลองดูระยะยาว O:-)
ยังไงดูที่มันเป็นยางผสมซิลิโคนด้วยนะครับ จะได้ลื่นหน่อยและเสียงไม่ดังด้วย :))
-
ไว้เอามาลองบ้างคร้าาาบ
-
รถผมเปลี่ยนของศูนย์มาทำไมมันดังจัง เวลาใช้ดังครึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เห็นเลยว่าใบปัดมันดิ้น ไม่เรียบ ไม่ลื่นเลย :o
-
ซิริโคนจะทนความร้อนได้ดี ทำให้ยางเสื่อมช้าครับ ;) ;) ;)
-
ของผมแบบรุ่นใหม่ที่ไม่มีโครงเหล็ก ผมไม่ได้ใช้แล้วครับ เปลี่ยนมาเป็นแบบมีโครงดีกว่า ปัดเกลี้ยงกว่า แต่ราคายางปัด อย่างเดียวเดี๋ยวนี้แพงมาก ล่าสุดเพิ่งเบิกมาโดนไป 900 ครับ
-
ของผมแบบรุ่นใหม่ที่ไม่มีโครงเหล็ก ผมไม่ได้ใช้แล้วครับ เปลี่ยนมาเป็นแบบมีโครงดีกว่า ปัดเกลี้ยงกว่า แต่ราคายางปัด อย่างเดียวเดี๋ยวนี้แพงมาก ล่าสุดเพิ่งเบิกมาโดนไป 900 ครับ
คุณ Tom46 ขอความรู้นิด ที่ปัดน้ำฝนรุ่นใหม่ ไร้โครงเหล็ก มันมีปัญหาอะไรครับ เรื่องไม่แนบ เรื่องเสียง หรือไม่ครับ
ส่วนตัวคิดว่ามันน่าจะเงียบ และ ป้องการฟัดกระจกแตกได้ เมื่อเผลอหลุดมือ ว่าจะไปซื้ออยู่ ... ???
ภาพตัวอย่างแบบ ไร้โครงเหล็ก
(http://www.bmoption.com/upload/wst/e60.jpg)
-
เห็นโฆษณา เรื่องคุณภาพไว้ดังตัวอย่าง
เป็นใบปัดรุ่นใหม่ไร้โครงเหล็ก นิยมใช้กับรถยุโรปรุ่นใหม่ BENZ , BMW , CIVI 06 , ETC.
เป็นใบปัดน้ำฝนดีไซน์โค้งรับกับหลักอากาศพลศาสตร์ หน้าสัมผัสแนบกับกระจกตลอดแนวทำให้ปัดได้เกลี้ยง และเงียบกว่าใบปัดน้ำฝนแบบปกติคุณภาพการปัดสุดยอด
------------------------
เปิดตัวใบปัดน้ำฝนนวัตกรรมใหม่ บ๊อช แอโร่ทวิน
บ๊อชเปิดตัว แอโร่ทวิน ใบปัดน้ำฝนไฮเทคนวัตกรรมล่าสุด โดดเด่นด้วยการออกแบบโครงสร้างตามหลักอากาศพลศาสตร์ให้มีสปอยเลอร์ในตัวและไร้โครงเหล็ก ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ไร้เสียงรบกวน เผยติดตั้งง่ายทั้งรถยุโรป และญี่ปุ่น
นายยิ่งยวด หวังประโยชน์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายอะไหล่รถยนต์ บริษัทโรเบิร์ต บ๊อช จำกัด เปิดเผยว่า บ๊อชได้เปิดตัวใบปัดน้ำฝน”บ๊อช แอโร่ทวิน” ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมล่าสุดของใบปัดน้ำฝนบ๊อช โดดเด่นด้วยการออกแบบใบปัดให้ไม่มีโครงเหล็กตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้การปัดน้ำฝนมีประสิทธิภาพ ไม่มีเสียงรบกวน และมีความปลอดภัยเมื่อใช้ ความเร็วสูง
นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีสปอยเลอร์ในตัวตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้ใบปัดน้ำฝนไม่ยกตัวในขณะทำงาน ช่วยให้ใบปัดแนบติดกับกระจกในขณะใช้ความเร็วสูง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วนแผ่นสปริงอีโวเดียม (Evodium) ทำจากโลหะอีโวเดียมซึ่งเป็นอัลลอยด์ชนิดพิเศษให้ความยืดหยุ่น และมีความทนทานดีเยี่ยม โดยแผ่นสปริงจะออกแบบให้กระชับกับกระจกเพื่อให้เหมาะสมกับรถยนต์แต่ละรุ่น ช่วยกระจายน้ำหนักแรงกดที่เท่ากันทั่วใบปัด ทำให้ปัดสะอาดไม่มีเสียงรบกวน และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าใบปัดแบบเก่า
“ใบปัดของ แอโร่ทวิน ใช้เนื้อยางใบปัดสองสูตรในอันเดียวกัน เพื่อให้ใบปัดมีความยืดหยุ่นสามารถปัดสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด และมีความทนทานสูงในเวลาเดียวกัน สำหรับการติดตั้งจะ ใช้ Adapter แบบ Quick Clip ทำให้สามารถเปลี่ยนปัดน้ำฝนด้วยตนเองได้อย่างง่ายดาย และ ใช้ได้กับก้านใบปัดหลายรุ่น ทั้งรถญี่ปุ่น และยุโรป ไม่ว่าจะเป็น บีเอ็มดับเบิ้ลยู ,วอลโว่,ออดี้,โตโยต้า,ฮอนด้า,มิซูบิชิ,มาสด้า,นิสัน,อีซูซุ ฯลฯ” นายยิ่งยวดกล่าว
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาบ๊อช ได้ส่งใบปัดน้ำฝน บ๊อชแอโรทวินสำหรับรถยุโรปออกสู่ตลาด ซึ่งได้รับความนิยม และไว้วางใจติดตั้งมาพร้อมกับรถยุโรป และจากการที่บ๊อชมีการขยายตลาดสู่รถยนต์ญี่ปุ่น การพัฒนานวัตกรรมใบปัดน้ำฝนบ๊อชแอโร่ทวินสำหรับรถยนต์ญี่ปุ่นครั้งนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการขยายตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นของบ๊อช ซึ่งเป็นไปตามแผนการทำตลาดด้วยการพัฒนาอะไหล่ต่างๆ ให้ครอบคลุมกับอะไหล่ของรถญี่ปุ่น โดยตั้งเป้าที่จะผลิตอะไหล่รถยนต์ และเพิ่มจำนวนรายการสินค้าให้สามารถครอบคลุมได้ถึง 80-90 % ของรถยนต์ญี่ปุ่นที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบัน บ๊อชสามารถผลิตครอบคลุมได้กว่า 50% โดยมีอะไหล่พร้อมขาย ได้แก่ ใบปัดน้ำฝน, หัวเทียน, แบตเตอรี่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น, ผ้าเบรก, ไส้กรองน้ำมันเครื่อง, ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง, ออกซิเจนเซ็นเซอร์, ระบบไฟส่องสว่าง, อุปกรณ์ไฟฟ้าอำนวยความสะดวก, ฯลฯ การเติบโตในระยะแรกคงคาดหวังในระดับหนึ่ง หลังจากการผลิต ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น บ๊อชจะบุกเต็มที่ในแผนระยะยาว เพื่อช่วงชิงตลาดในส่วนของตลาดอะไหล่ทดแทน ต่อไป
-
ใบปัดแบบไร้โครงเหล็กนี้ มีคุณสมบัติในการปัดดี เนื่องจากน้ำหนักของใบปัดจะถูกกระจายไปทั่วเท่า ๆ กัน ทั้งแขนใบปัด ทั้งยังมีดีไซน์ที่ให้ความสปอร์ตอีกด้วย
จาก :
ใบปัดน้ำฝน ที่คุณควรรู้
ตอนนี้ก็เข้าหน้าฝนกันแล้ว สิ่งที่จำเป็นสำหรับความปลอดภัยในการขับขี่ก็คือ ใบปัดน้ำฝน นั่นเอง เราจะพบว่ามีใบปัดน้ำฝนหลากหลายยี่ห้อให้เราเลือกซื้อกัน ไม่ว่าจะมาจากค่ายฝรั่งเช่น บ๊อช แวริโอ หรือค่ายญี่ปุ่นเช่น เด็นโซ่ และเอ็น ดับบลิว ดี แต่ยี่ห้อ หรือใบปัดน้ำฝนชนิดไหนล่ะ ที่จะเหมาะกับรถยนต์คันเก่งของเรา ความเข้าใจเกี่ยวกับใบปัดน้ำฝน มีความเข้าใจผิดกันมาตลอดว่า ใบปัดน้ำฝนที่ดีจะต้องปัดน้ำฝนให้หมดไปจากกระจก แท้ที่จริงแล้วการทำงานของใบปัดน้ำฝนนั้นจะปาดน้ำฝน โดยมีช่องว่าง ความห่างระหว่างกระจกและน้ำฝนประมาณ 0.01- 0.05 มม. เพื่อสร้างผิวฟิล์มบนกระจก หรือเรียกง่ายว่าการปาดน้ำให้เรียบนั่นเอง แต่ไม่ใช่เป็นการปาดน้ำทั้งหมดออกไปจากกระจก มิฉะนั้น หากออกแบบให้ใบปัดอยู่ติดกับกระจกมากเกินไปแล้ว จะทำให้เกิดปัญหาใบปัดสะดุด และสั่นกระพือเมื่อใช้งาน ชนิดของใบปัดน้ำฝน ชนิดของใบปัดน้ำฝนที่จำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบัน 3 ชนิด ได้แก่ 1. ชนิดแบบมีโครงเหล็ก (Conventional Wiper Blade) ใบปัดน้ำฝนแบบนี้เป็นแบบดั้งเดิม ท่านจะสังเกตเห็นโครงเหล็กแขนยางปัดน้ำฝน และใบปัดน้ำฝน แบบนี้มีให้เห็นโดยทั่วไป ใบปัดน้ำฝนชนิดนี้จะใช้ได้ดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้ - คุณภาพของยาง ยางคุณภาพดีส่วนมากก็มาจากประเทศไทยและมาเลเซีย ผู้ผลิตจะใส่สารปรุงแต่งบางตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น สารต่อต้านแสงยูวี คาร์บอนแบลค - จำนวนจุดที่เป็นข้อต่อบนแขนของใบปัดน้ำฝน ยิ่งมีจุดข้อต่อมาก ยิ่งกระจายแรงกดไปบนยางรีดน้ำฝน ทำให้ใบปัดน้ำฝนปัดน้ำได้สะอาดเกลี้ยงเกลา ไม่ทิ้งคราบน้ำ - การออกแบบโครงเหล็ก ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายรายออกแบบโครงเหล็กให้มีความโค้งมนรับกับแรงลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้เกิดการกระพือของใบปัดน้ำฝนน้อยแม้จะวิ่งรถด้วยความเร็วสูง ชนิดของใบปัดน้ำฝน 2. ใบปัดน้ำฝนแบบซ่อนแขนใบปัดน้ำฝน (Semi Concealed Wiper Blade) ใบปัดน้ำฝนแบบที่ 2 นี้ มีโครงสร้างเหมือนกับแบบแรก แต่ผู้ผลิตออกแบบที่ครอบเพิ่มเพื่อนำมาครอบแขนใบปัดน้ำฝนไว้ แต่ยังคงเห็นเนื้อยางของใบปัดน้ำฝนอยู่ จุดประสงค์ก็คือเพื่อความสวยงาม จะเห็นได้ตามรถบางรุ่นเช่น รถยุโรป รถโตโยต้าแคมรี่ ฮอนด้าแจ๊ส 3. ใบปัดน้ำฝนแบบไร้โครงเหล็ก (Flat Blade) ท่านจะไม่สามารถสังเกตเห็นแขนของใบปัดและตัวยางปัดน้ำฝนเลย เพราะไม่มีโครงเหล็ก แต่จะมีแกนเหล็กทดแทนถูกฝังไว้ในเนื้อยาง ใบปัดแบบไร้โครงเหล็กนี้ มีคุณสมบัติในการปัดดี เนื่องจากน้ำหนักของใบปัดจะถูกกระจายไปทั่วเท่า ๆ กัน ทั้งแขนใบปัด ทั้งยังมีดีไซน์ที่ให้ความสปอร์ตอีกด้วย เมื่อไรที่ควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน 1. เมื่อใบปัดน้ำฝนปัดไม่สะอาด ปัดไม่เรียบ เกิดคราบน้ำเป็นช่วง ๆ เกิดจากปัญหายางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพเป็นบางช่วงของหน้ายาง 2. ยางปัดน้ำฝนกระพือ เกิดจากปัญหายางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ และแข็ง ทำให้ใบปัดกระโดด 3. ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ และทำให้กระจกเป็นรอย ข้อควรระวังในการเลือกใบปัดน้ำฝน 1. การเลือกใช้ใบปัดน้ำฝนนั้น ท่านสามารถสังเกตรุ่นรถยนต์ของท่านได้จากข้างบรรจุภัณฑ์ของผู้ผลิตใบปัดน้ำฝน ผู้ผลิตหลายรายป้อนอะไหล่ใบปัดน้ำฝนให้กับทั้งโรงประกอบรถยนต์ และยังมีจำหน่ายในตลาดด้วย 2. เมื่อเลือกซื้อใบปัดน้ำฝน ไม่ควรเลือกซื้อใบปัดเก่าเก็บ เพราะยางบนใบปัดน้ำฝนนั้นมีอายุ บางครั้งผู้จำหน่ายไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้หมดภายในหน้าฝนปีก่อน ก็จะนำออกมาจำหน่ายในปีถัดไป เพราะส่วนใหญ่ผู้ใช้รถมักจะเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนในช่วงหน้าฝนเท่านั้น 3. หากบนใบปัดน้ำฝนมีการะบุภาษาอังกฤษตัวย่อบนใบปัดเช่น อักษร “D” ย่อมาจาก “Driver” ให้ผู้ใช้รถทุกท่านเข้าใจว่าใบปัดใบนั้นให้ติดตั้งฝั่งคนขับ ส่วนอักษร “P” ย่อมาจาก “Passenger” ก็คือฝั่งคนนั่งนั่นเอง 4. ให้สังเกตว่ารถรุ่นใหม่ ๆ ทุกวันนี้ก้านใบปัดน้ำฝนทางฝั่งคนขับ และคนนั่งจะมีขนาดที่ไม่เท่ากัน เช่น โตโยต้าวีออส เป็นต้น มีขนาดใบปัดโดยประมาณ 14” และ 21” ดังนั้นเวลาท่านซื้ออาจจะเลือกแบบแพ๊คสำเร็จสำหรับรุ่นนั้น ๆเลย หรือหากแยกซื้อเป็นกล่อง ๆ ก็ต้องระวังเรื่องนี้ไว้ด้วย โปรดติดตามเคล็ดลับดีๆแบบนี้ได้ในฉบับหน้า
เขียนโดย Suparporn Deerueak ที่ 6:10
-
แบบไม่มีโครงเหล็ก ผมใช้ของศูนย์บริการที่เคยลงรูปไว้นะครับ เรื่องอื่นๆดีหมดครับ แต่ติดเรื่อง ใบปัดด้านซ้าย ด้านปลายจะไม่แนบสนิทกับกระจก เวลาปัดด้านคนนั่งจะดูไม่ค่อยเกลี้ยง เนื่องจากปลายปัด มันกวาดไม่ได้ จะลอยๆอยู่นิดนึง
อีกอย่างที่ผมเปลี่ยนคือ แบบไม่มีโครง ศูนย์ไม่มีสต็อกไว้ครับ ต้องรอเบิก bm thailand อีกที เลยเปลี่ยนมาเป็นแบบเหล็ก หาอะไหล่ง่ายกว่าครับ
-
ผมใช้แบบไม่มีโครงเหล็กครับ ใหม่ ๆ เงียบมากปาดเรียบ สงสัยตอนนี้มันจะเก่าเลยเสียงดัง อิอิ >:D เหมือนอะไรน้่าาาา
-
แบบไม่มีโครงเหล็ก ผมใช้ของศูนย์บริการที่เคยลงรูปไว้นะครับ เรื่องอื่นๆดีหมดครับ แต่ติดเรื่อง ใบปัดด้านซ้าย ด้านปลายจะไม่แนบสนิทกับกระจก เวลาปัดด้านคนนั่งจะดูไม่ค่อยเกลี้ยง เนื่องจากปลายปัด มันกวาดไม่ได้ จะลอยๆอยู่นิดนึง
อีกอย่างที่ผมเปลี่ยนคือ แบบไม่มีโครง ศูนย์ไม่มีสต็อกไว้ครับ ต้องรอเบิก bm thailand อีกที เลยเปลี่ยนมาเป็นแบบเหล็ก หาอะไหล่ง่ายกว่าครับ
ขอบคุณมากครับ :-X
-
เริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว ขอขุดหน่อยนะครับ
เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนสมาชิกครับ
-
แบบมีโคลงหรือไม่มีโคลงยางก็เสียเหมือนกันครับ
สามารถเปลี่ยนเฉพาะยางได้ ยกเว้นพวกใบปัดเทียม
ที่เอาใส้โลหะเสียบไว้บนยางด้านบนเส้นเดียว แบบ
นั้นต้องเปลี่ยนทั้งอัน(ทั้งใบปัด)ครับผม
:-X
-
ขอบคุณมากครับ สำหรับรายละเอียดและวิธีการทำ
มีโปรแกรมจะเปลี่ยนเหมือนกัน หน้าฝนแล้วด้วย เริ่มกวาดไม่เรียบ+เสียงดังแล้ว ;)