BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => DIY & FAQs => ข้อความที่เริ่มโดย: tee808 ที่ มิถุนายน 24, 2016, 10:29:05
-
จากที่ได้ขับรถ N42 มา ดูทุกอย่างลงตัวและ เหลือแค่ 2 เรื่อง(มั้ง มันมาเรื่อย ๆเลย :ร้อนมวาก:) คือ
1.อุณหภูมิน้ำในระบบหล่อเย็นจะสูงเกินไป
2.ความแรงของเครื่องยนต์ (ที่น้อยจัง) ไปวัดค่าแรงม้าลงพื้นได้เพียง 98.x hp ไม่ถึงร้อย
(แต่อันนี้เอาไว้ก่อน แต่เล็งไว้แล้ว อยากได้ประหยัด +แรงขึ้น)
ขอปรับปรุง/แก้ไขให้อุณหภูมิน้ำในระบบหล่อเย็นลดลงบ้างก็ยังดี
สำหรับ N42 หรือ N46 (N46 ผมไม่ค่อยแน่ใจ แต่ดูเหมือนจะอาการเดียวกัน) อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นก่อนเข้าหม้อน้ำ หรือที่ฝรั่งเรียกว่า engine temp หรือ coolant temp จะวัดได้จากหน้าปัดไมล์ (OBC)
ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับอุณหภูมิหล่อเย็น N42
(จากที่ผมได้รวบรวมจากหลาย ๆโพสต์ และสอบถามจากเพื่อนสมาชิก N42 ด้วยกัน)
1. อุณหภูมิหล่อเย็นก่อนเข้าหม้อน้ำ ประมาณ 85-110c
อุณหภูมิหล่อเย็นหลังออกจากหม้อน้ำ ปกติจะลดลงไปจากก่อนเข้าหม้อน้ำ ประมาณ 10-15 c
เช่น ก่อนเข้าหม้อน้ำ 100c ออกจากหม้อน้ำ 90c
ก่อนเข้าหม้อน้ำ 110c ออกจากหม้อน้ำ 100c
ข้อสังเกต
ก) อุณหภูมิสูงเกินร้อยจะต้องใช้น้ำยาหม้อน้ำนะครับ เป็นการเพิ่มจุดเดือดของน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงกระปุกพักน้ำระเบิด
ปกติน้ำเดือดที่ 100c จะกลายเป็นไป แต่ถ้าเราผสมน้ำหล่อเย็น จุดเดือดจะเพิ่มขึ้นอาจเป็น 115-125 c เป็นต้น
ข) อุณหภูมิสูงติดต่อกันนาน ๆ พวกยาง ซีล ต่างๆ ก็จะเสื่อมได้เร็วยิ่งขึ้น (เสียตังเร็วขึ้น)
2.วาล์วน้ำ (thermostat) เป็นอุปกรณ์ช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่กำหนดไว้
เช่น วาล์วน้ำ 105c หมายถึง วาล์วน้ำจะเริ่มเปิดเพื่อปล่อยให้น้ำไหลผ่านจากเครื่องยนต์ไปยังหม้อน้ำเพื่อระบายความร้อน หากความร้อนยังไม่ถึง 105c วาล์วน้ำนี้ก็ยังไม่เปิด ก็จะไหลวน (by-pass) เข้าไปหล่อเย็นเครื่องยนต์เลย จนอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆจนถึงอุณหภูมิวาล์วน้ำเปิด
ปกติแล้ว N42 จะมีวาล์วน้ำที่เปิดที่ 105c (สูงจัง) เมื่อเทียบกับ วีออส พี่โตต้าแค่ 82c
สาเหตุที่อุณหภูมิหล่อเย็นของระบบ N42 สูง (ความเห็นส่วนตัว)
1. ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจาก เมื่ออุณหภูมิสูง น้ำมันเครื่องจะมีค่าความหนืดลดลง แรงเสียดทานลดลง ประหยัดขึ้น
2. ลดมลพิษ
3. ลดการสึกหรอเครื่องยนต์
ส่วนตัวผมว่าก็ดีแต่ มันสูงไปหน่อยไหมเนี่ย ยิ่งเครื่องเทพซะด้วย กลัวพังเร็ว O0
เลยคิดว่าจะทำการปรับปรุงซะหน่อย เผื่อจะเวิร์ค
-
เริ่มเลย หลังจากที่ดู web หลาย ๆทีึ่
ได้ศึกษา 2 แบบ คือ
แบบที่ 1 หลอกเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ (coolant temperature sensor :CTS resistance trick)
ดูได้จากที่นี่คับ => http://www.angelfire.com/my/fan/CTS.html
แบบหลอกเซ็นเซอร์ ให้กล่องควบคุมคิดว่า อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำสูงไป
พัดลมก็จะทำงานมากขึ้น (มาไวขึ้นว่างั้น)
หลักการคือ เมื่อน้ำร้อนขึ้น ความต้านทานของเซ็นเซอร์จะลดลง จะใช้ช่วงอุณหภูมิที่เราต้องการแล้วคำนวณ สูตรจาก ค่าความต้านทานรวม แต่ดู ๆ แล้ว ในช่วงอุณหภูมิต่ำ ๆ ค่าจะผิดไปเยอะ
วิธีแก้ ตอนแรกจะใช้แผนวงจรจับเวลาต่อกับสวิทช์กุญแจ เมื่อบิดสวิทช์ on เริ่มจับเวลา ในช่วง 0-10 นาทีแรก จะไม่มีการหลอกเซ็นเซอร์ จนเมื่อถึง 10 นาทีผ่านไป (ร้อนได้ที่) ให้ค่าความต้านทานที่ต่อขนานทำงาน โดยจะใช้รีเลย์กับวงจรอิเล็กทรอนิคช่วย แต่ดูไปดูมา เหมือนจะโมมากไปหน่อย
ข้อเสียคือ พัดลมจะทำงานหนัก จึงเลิกวิธีนี้ (ไม่เอาดีก่า ทั้ง ๆที่ออกแบบไว้หมดแล้ว T T)
-
แบบที่ 2 อันนี้แหละว่าจะทำ ลงแรงเยอะหน่อย
ดู concept ที่นี่คับ => http://www.bimmerforums.com/forum/showthread.php?1461973-HowTo-gt-M62-thermostat-mod-(lower-engine-temp)
ดูหลักการทำงานของวาล์วน้ำ => https://youtu.be/Jz2Aqy4l4dI
(อันนี้เป็นของอัลติสนะครับ 82c ที่ผมจะเลือกใช้ ซื้อมาลองดูประมาณ 850บ รวมซีล)
ไปซื้อมาและ thermostat ของ altis คับ เปิดที่ 82c -> "thermostat_altis82c"
เทียบกับ thermostat ของ N42 เปิดที่ 105c -> "thermostat_N42"
(ไม่รู้ว่าเปิดเท่าไหร่กันแน่ ต้มจนเดือดสุด ๆเกิน 100c แล้วก็ยังไม่เปิด ->"check_thermostat_N42"
แสดงว่ากว่าวาล์วจะเปิดท่าจะแย่ อุณหภูมิเลยสูงแน่ ๆ เลี่ยงไม่ได้
บางคนใช้ thermostat เปิดที่ 95c แต่ผมหาไม่ได้ เคยโทรไปถามแล้ว เหมือนไม่อยากขาย
เขาบอกว่า thermostat 95 แต่ก็ไม่ได้เปิดที่ 95 นะ อ้าว แล้วมีของไหมคับ เดี๋ยวขอเช็คก่อน หายไปเลย
พอโทรไปถาม บอกไม่มี :'(
หน้าตาต่างกันเยอะคับ
ของ N42 จะใช้ปีกยึดกันขยับ
ของ altis จะใช้บ่ายึดกันขยับ
ต้องใช้ adaptor เหมือนของเมืองนอกแน่นอน (เหนื่อยแน่ O0)
ขอให้ได้เถอะ O:-)
-
concept วาดเสร็จ (ให้เขาออกแบบให้) =>ดูจากแบบนี้แล้ว ทำได้แน่ 90% ขึ้น :))
ต้องทำการแก้ไข 2 ส่วนคือ
1. thermostat 105c ตัดปีกออก =>cut_flange
2. thermostat housing ค้ำบ่า เนื่องจาก วาล์วน้ำตัวใหม่นี้ใหญ่กว่าเดิม ติดอยู่นิดหน่อย
=> thermo_housing_before , thermo_housing_after
-
นี่ของผมคับ (ก่อนเปลี่ยนวาล์วน้ำ 82c นะ)
อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นก่อนเข้าหม้อน้ำ =113 c =>temp_thermo105c
อุณหภูมินำ้หล่อเย็นหลังออกจากหม้อน้ำ =99.5 c =>temp_after_radiator (ดูช่องซ้ายสุด)
(อุณหภูมิน้ำหลังออกจากหม้อน้ำ ผมติดตัววัดอุณหภูมิเพิ่มคับตั้งแต่แรกที่ได้รับรถมา เพราะได้ยินชื่อเสียงของ N42 ในเรื่องความร้อนสูงและ อุณหภูมิสูงมาตลอด 9 เดือนที่อยู่ด้วยกัน ดูมันทุกวัน)
ศึกษาพฤติกรรมอยู่นานว่าวันไหนมันจะรักดีลดลงกะเขาบ้าง => คงเส้นคงวาดีมาก :ร้อนมวาก: 100 up
บางคนบอกจอดนิ่งๆ 90c ทำไมผมไม่เป็นหวา 100c ขึ้นตลอด มีปัญหาและ ::cry4::
นี่ขนาดเปลี่ยนอะไหล่กับเทพแห่งสายจี่ที่โด่งดังในอดีตเรื่องระบบน้ำแล้วนา เปลี่ยนวาล์วน้ำ ปั๊มน้ำ ท่อน้ำ ยาง หลายเส้น รวมถึงเปลี่ยนหม้อน้ำ มือ 1 ทั้งหมด แต่ของ oem :ไปไฝว้มา: (พัดลมไฟฟ้าไม่ได้เปลี่ยน เห็นว่ายังแรงอยู่)
-
กลับมาต่อคับ
หลังจากไปซุ่มทำ cnc มาได้มา 1 แผ่น => ดังรูป "upper_plt" รับ shape เป๊ะคับ :))
ลองประกอบ upper plt ที่ทำใหม่ประกอบใส่กับเทอร์โมตัวใหม่ 82c => รูป "assy_with_thermo82c" พอดีเป๊ะ
ถ้าเบียดมากเกินซีลของเทอร์โมจะขาดคับ หลวมก็ไม่ได้ (รั่วสิคับ) พิกัดงานสวมนิดเดียว (สวมอัดนิสๆ)
จากนั้น
ลองประกอบกับ เสื้อ thermo เก่าดู => ดังรูป "assy_upperplt_thermo82c" น่าจะดี
ฮึ ๆ น่าจะเวิร์ค :))
เหลือแผ่นล่าง ตัวปิด
-
รอชมต่อครับ ;)
-
ช่วยดันครับ... ::2thmb:: ::2thmb:: ::2thmb::
-
กลับมาต่อคับ
แผ่นปิดล่างเสร็จแล้วคับ => "testing leak1"
ประกอบไปด้วย
1. เสื้อวาล์วน้ำ + วาล์วน้ำ 82c (ตัวใหม่)
2. upper plt + lower plt
3. testing leak set เอาทดสอบว่าแผ่นที่ทำมารั่ว หรือไม่
หลังจากนั้นประกอบเพื่อทดสอบรั่วที่ 10 bar (ปกติเท่าที่อ่านดู ความดันหม้อน้ำประมาณ 1 bar นิด ๆ อันนี้ผิดถูกไม่แน่ใจ)
เอาแน่นอนเลย 10 เท่า (safety factor มหาศาล รั่วให้รู้ไป)
ทดสอบรั่วที่ 10 bar => "testing leak2 " , "testing leak3"
ไม่รั่วคับ เข็มนิ่ง จากนั้นทดลองประกอบกับ thermostat housing ดังรูป => "assy_82c_1","assy_82c_2"
พบปัญหาคือ น๊อตที่ยึดของ bmw เป็น M6x20 แต่เราเสริมทำให้หนาขึ้น 15 มม
เห็นสกรู M6x35 มีขายเมืองนอก แต่ติดต่อไปทาง bmw thailand ไม่มีของคับ หาสกรูไม่ได้ ยุ่งละซิ
แก้โดยใช้แหวนกันคลาย แบบเขี้ยวล๊อค 2 ด้าน ไม่คลายแน่นอน แพงหน่อย => "screw_antiLoose"
ลืมบอกไปนิด ไหน ๆ ทำทั้งที ไปซื้อซีลตัวใหม่เลยจะได้ใช้ลืมๆ มี โอริงอีก 2 ตัวที่เปลี่ยนคับ แพงด้วย
โอริง => "waterpump_thermostat_seal" #3, #5
อย่าลืม ตรวจสอบว่าแผ่นนี้ค้ำกับสกรูที่จะยึดกับเครื่องหรือไม่ (ติดนิดนึง แก้แล้ว)
สมบูรณ์คับ เรียบร้อย ที่เหลือ รอใส่ในรถสุดเลิฟ แล้วทดสอบกันอีกที ว่าอุณหภูมิเป็นเท่าไหร่
-
;) หลังจากติดตั้งแล้ว temp น้ำขาเข้า-ขาออกเป็นอย่างไรบ้างครับ
-
:) ประกอบติดตั้งไปแล้ว ดูว่าเจ้า N42 with thermostat 82c ผลเป็นไง มาดูกันคับ
1. ให้ช่างประกอบปกติคับ => ดังรูป "assyInCar1"
2. เนื่องจาก temp sensor ตรงตูดวาล์วน้ำตัวเก่า
ตัดออกจึงต้องใช้ temp sensor ตัวใหม่ ต่อแทนสกรูไล่ลมตัวบน => ดังรูป "temp_sensor_new"
3. ตรวจสอบ temp sensor เข้าหม้อน้ำ (ตัวเดิม) => ดังรูป "temp_sensor_bmw"
4. เติมน้ำ+ น้ำยา
5. เปิดฮีตเตอร์ ปรับไปอุณหภูมิสูงสุด + ไล่ลม
เรียบร้อย สตาร์ท ตรวจสอบน้ำรั่วซึม บริเวณวาล์วน้ำ ตัวใหม่กับเซ็นเซอร์ ตัวบน => OK ไม่รั่ว
ทำการตรวจสอบระบบ (เบื้องต้น)
1.ตรวจไฟโชว์บนหน้าปัด => ผ่าน (ไม่มี)
2.วอล์มเครื่องไว้เฉย ๆ เปิดหรือปิดแอร์ ได้ค่าพอๆกัน => อุณหภูมิขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 92c ไม่ขึ้นไปกว่านี้
3.ลองวิ่งความเร็วไม่สูงนัก ประมาณ 40-60 km/hr => อุณหภูมิสูงขึ้นอยู่ที่ 93c แล้วขึ้น ๆ ลง ๆ แตะที่ 93c
พอได้งี้ ก็สุดยอดแล้วคับ แปลงแค่วาล์วน้ำ 82c (แต่ยุ่งยากอยู่) จากที่ไม่เคยต่ำกว่า 100c ลงเหลือ 93c
เพราะตอนแรก ก็ยังคิด ๆว่า เอ๊ะ วาล์วน้ำ 82c เย็นไปไหม แต่อีกใจก็คิดว่า โตต้ายังใช้ และประกอบกับ
ทางเมืองนอกได้ทำการโมลักษณะนี้แล้วอุณหภูมิที่วัดได้สูงกว่าอุณหภูมิที่วาล์วน้ำเปิดประมาณ 5-7 c ดังนั้น
เลยคิดว่าไม่น่าเป็นปัญหา
ข้อสังเกต
1. หากไม่เปิดแอร์ พัดลมหม้อน้ำ จะเริ่มทำงานตอนอุณหภูมิประมาณ 90c
เหมือนทาง bmw ออกแบบไว้ ไม่ให้อุณหภูมิต่ำเกินไปหรือไม่ อันนี้ไม่แน่ใจ
2. ดูอุณหภูมิสะสมหลังจากดับเครื่อง เนื่องจากภายหลังการใช้งาน เกิดความร้อนสะสมในเครื่องยนต์
เมื่อดับเครื่อง พัดลมหยุด ทำให้ความร้อนสูงขึ้น
ตอนก่อนแก้มีครั้งนึง เคยเหยียบมิด 6พันรอบ (mode sport) ประมาณ 10 กม ดับเครื่อง ไปรับลูก
กลับมาประมาณ5-10 นาที เกย์ความร้อนค่อนไปทางขวาเลยทีเดียว สูง จริง ๆ
แต่ตอนนี้หลังแก้ไข มันมีช่วงอุณหภูมิเผื่อไว้เยอะ
ปัญหานี้สบายแล้ว
(ปกติ ความร้อนสะสมหลังดับเครื่องประมาณ 5-10 c)
ขอขอบคุณช่างที ไว้นะโอกาสนี้ ที่ทำให้รถ e46 คู่ใจนี้ อุณหภูมิระบบหล่อเย็นนั้นเย็นลงพอควรทีเดียว
ครั้งหน้า ทำจะทำรีวิว ทดสอบกับการวิ่งของจริงคับ ว่าจะเป็นไง :P
-
ต่อไปเลยละกันคับ N42 คันนี้ จริงๆ ผมติดตั้งเสร็จพักใหญ่และ (อาทิตย์กว่า) ลองวิ่งหลายรูปแบบ สรุปได้ดังนี้คับ
1. อุณหภูมิที่วัดที่หน้าปัด 19 , 7 นั้น ค่าที่อ่านได้จะอยู่ 92-100c
ถ้าช่วงไหนวิ่งเรื่อย ๆไม่เร่งๆเบรค ๆ บ่อย ๆ ไหลตามคันหน้า แบบความเร็วซัก 30 km/hr => จะได้ 92-94c ไม่เกินนี้
ถ้าช่วงไหนขึ้นทางชัน เร่ง ๆ หยุด ๆ อากาศร้อนจัด เคยได้สูงสุด 100c คับ
ถ้าช่วงไหนขับแบบทางไกล วิ่งซัก 80-100 km/hr => จะได้ 92-94c (92c ซะส่วนใหญ่) สาเหตุน่าจะมีลมจากภายนอกช่วย
ว่าง่ายๆ ถึง 100c น้อยครั้งคับ เมื่อเทียบกับของเดิม 102-112c ผมว่าน่าจะลดอุณหภูมิลงได้ประมาณ 10-20c
ข้อดีอีกอย่าง คือพัดลมไม่ทำงานหนัก
2. ช่วงอุณหภูมิเกิน 96c ไม่แน่ใจช่วงเท่าไหร่นะ แต่เอาเป็นว่าเกือบ 100c พัดลมจะพัดแรงขึ้นกว่าตอน 90c
รูปแบบที่ผมลองนะคับ ผมวิ่งจากบางแค ไป คลองถม
ขาไป ใช้เส้นถนนเทอดไท (วิ่งเรื่อยๆ) ผ่านบางยี่เรือ เข้าวงเวียนใหญ่ ประมาณนี้
=>ดูรูปแนบคับ Drive_1130 หมายถึง ขับรถ ตอน 11:30 น ลองดู profile ละกัน
เริ่มเดินทางประมาณ 11:05 น
ช่วงแรก ๆ อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึง 92c และนิ่งอยู่นาน เนื่องจากขับรถไม่เร่งมากนัก
ประมาณ 30 km/hr (เร่งไม่ได้ รถมันเยอะ ถนนเล็ก)
ช่วง 2 พอถึงแถวๆ วงเวียนใหญ่ 11:30 ช่วงนี้รถเริ่มติด เร่งๆ เบรค ๆ
ช่วง 3 ถึงคลองถม รถติด ขับรถขึ้นตึก อุณหภูมิสูงขึ้น แตะ100c สักพัก
ก็ลดลงมาเหลือ 95c
-
ต่อคับ ยาวไปป่าวหวา แต่ต้องตัดจบแล้ว เดี๋ยวจะเบื่อซะก่อน (ยาวจัด :-[ )
ขากลับ คลองถม ผ่านวงเวียนใหญ่ วิ่งเส้นกัลปพฤษ เอาแบบรถไม่ติด
เริ่มตอน 12:31
อุณหภูมิจะอยู่ที่ 94c
ขอบคุณคับ ที่ติดตามจนถึงตอนสุดท้าย ไง ถ้ามีไรคืบหน้าจะเพิ่มเติมทีหลัง
:P :P :P
ปล หากเห็นว่าเป็นประโยชน์กับเพื่อนสมาชิก ฝากกด like หน่อยนะคร้าบ :-X :-X :-X
-
;) ;) ;)
-
;) ;) ;)
-
เยี่ยมเลยครับ
คนไทย ถ้ากล้าคิด กล้าทำ แบบนี้เยอะ ประเทศชาติเราจะก้าวหน้าไปมาก ซึ่งมันช่วยต่อยอดนักคิด ให้มีการพัฒนาไปสู่การพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ ได้อีกมากมาย
น่าภูมิใจครับ คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ครับ :-X ;) ;)
-
ผมเคยคิดที่จะทำแต่ไม่กล้าครับ นับถือครับ สุดยอดของงาน diy วาล์วน้ำเลยครับ ;) ;) ;) ผมทำแค่ ลองตัดสปริง แต่ไม่ได้ผล สปริงเดิม แข็งมาก เทียบกับ โตโยต้า :-\
::2thmb:: ::2thmb:: ::2thmb:: ติดตามครับ
-
ขอบคุณคับ ""ชูสองนิ้ว::
เพิ่มเติมอีกนิด
ลองขับช่วงกลางคืน ขับรถเร็วประมาณ 80km/hr
อุณหภูมิที่ได้ 90-92c
แต่ถ้าเร่งๆหน่อยก็อยู่ที่ 92-94c
ดูอุณหภูมิน้ำออกจากหม้อน้ำอยู่ที่ 79c (ดูตัวซ้าย)สบายแล้ว ;D เมื่อเทียบกับก่อนแก้ไข 99c (เยอะมาก)
โดยเฉลี่ย อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นในระบบลดลงไป 15-20c
ขับมาได้เกือบเดือน สรุปว่าเวิร์คมาก ๆ
คราวหน้ามีเวลา จะรีวิวการแก้ไขเข็มความร้อน
ซึ่งของผมแก้ไปแล้วคือ ถ้าชี้ตรงกลางคือ 100-110c
จากปกติ 75-115c รอว่างๆ ก่อน ช่วงนี้ยุ่งๆ
ขอบคุณที่ติดตาม และกำลังใจทุกข้อความ
:-X :-X :-X
-
ขอบคุณคับ ""ชูสองนิ้ว::
เพิ่มเติมอีกนิด
ลองขับช่วงกลางคืน ขับรถเร็วประมาณ 80km/hr
อุณหภูมิที่ได้ 90-92c
แต่ถ้าเร่งๆหน่อยก็อยู่ที่ 92-94c
ดูอุณหภูมิน้ำออกจากหม้อน้ำอยู่ที่ 79c (ดูตัวซ้าย)สบายแล้ว ;D เมื่อเทียบกับก่อนแก้ไข 99c (เยอะมาก)
โดยเฉลี่ย อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นในระบบลดลงไป 15-20c
ขับมาได้เกือบเดือน สรุปว่าเวิร์คมาก ๆ
คราวหน้ามีเวลา จะรีวิวการแก้ไขเข็มความร้อน
ซึ่งของผมแก้ไปแล้วคือ ถ้าชี้ตรงกลางคือ 100-110c
จากปกติ 75-115c รอว่างๆ ก่อน ช่วงนี้ยุ่งๆ
ขอบคุณที่ติดตาม และกำลังใจทุกข้อความ
:-X :-X :-X
ยอดรวมทั้งหมด กลึง CNC ตามแบบงบประมาณเท่าไหร่ครับ น่าจะ WORK สนใจครับ
-
ผมมี cnc อยู่คับ ลดค่าใช้จ่ายไป
ที่ผมจ่ายไป
1,thermostat 82c+ซีล =850
2,โอริง bmw 2 ตัว =800
3,โอริง อีก 2 ตัว <100
4,น๊อต 3 ตัว +แหวนกันคลาย <100
5, thermocouple =200
6.วัสดุ แสตนเลส <1000
7,ค่าแรงช่าง =500
ประมาณนี้คับ ""ชูสองนิ้ว::
-
::2thmb::
ฝากซื้อ ชุดหนึ่ง ครับ
อยากเย็นบ้าง
-
ใครต้องการบ้าง แจ้ง line มาคับ อาจลงทุนหนักนิด แต่ระยะยาวคุ้ม
แล้วปัญหาความร้อนจะจบแน่นอน อุณหภูมิจะอยู่พอๆกับพวก 6 สูบ
(ไม่ได้ทำเป็นการค้านะคับ แค่อยากให้ประหยัดเงิน การซ่อมบำรุงในระยะยาว) :-[
-
line:naaadet ครับ :)
-
line:naaadet ครับ :)
ยอดเยี่ยมมากครับ
-
สุดยอดเลยครับ ;)
-
ขอด้วยคนคับ line:8piiik8 คับ
-
;) ::2thmb:: ::2thmb::
-
ขอให้ผมด้วยครับ งานพี่เนียนจริงๆ ไอดีไลน์ apy. ครับ
ขอบคุณครับ ;) ::) ;)
-
กระทู้คุณภาพ ::kisskiss::
-
ขอด้วยคนครับ ID line hanamegi ครับ
-
ตอนนี้ยังทันมั้ยครับ ID Line: sirasit.m
-
ขอโทดทีคับ ไม่ค่อยได้เข้ามาดู
add line ผมแทนละกันคับ หากสนใจ : wisit808
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ (อย่าว่าผมนา) :D
อัพเดตหน่อยละกัน จากที่ติดตั้งมาประมาณ 8 เดือน
1.อุณหภูมิน้ำหม้อน้ำอยู่ระหว่าง 92-100c
2.ไม่มีน้ำรั่วซึม
3. พัดลมทำงานเบาลง (อืมเหมือนจะดี พัดลมมีอายุการใช้งานนานขึ้น แต่ ๆ อาจมีข้อเสียแฝงคือ แอร์อาจเย็นลดลง
เพราะว่า N42 อุณหภูมิน้ำหม้อน้ำอยู่ระหว่าง 102-112c ทำให้พัดลมพัดแรงกว่าแบบของผม
ใกล้หน้าร้อนแล้วมีวันนึง ร้อนมาก ผมจอดตากแดดนาน เครื่องยนต์เย็น น้ำหม้อน้ำก็เย็น ทีนี้ แอร์อาจเย็นช้าลง
เพราะ พัดลมหมุนไม่แรง (อาจเป็นข้อเสียคับ จริงๆแล้วรถทั่วไปกว่าจะเย็นก็น่าจะนานอยู่) ขับ bm ทั้งที รถร้อน(เย็นช้า)มันก็ไงอยู่
จึงเกิดโปรเจคใหม่ (อีกแล้ว) ดังนี้คับ
1.ติด blower (ของตรงรุ่น e46 แต่ผมหาใน realoem ไม่เจอ) ดังรูป จะดูดความร้อนออกจากห้องโดยสาร ค่าใช้จ่ายประมาณ 2000
blower นี้จะทำหน้าที่ดูดความร้อนเมื่ออุณหภูมิในห้องโดยสารสูงกว่า 35c เมื่อสตาร์ทรถ
2.ติดตั้งพัดลมไฟฟ้า ญึ่ปุ่น 10" เป่าคอยร้อน ผลที่ได้จากการติดพัดลมตัวนี้ จะทำให้อุณหภูมิน้ำหม้อน้ำลดลงอีกประมาณ 2-3c คับ ตอนนี้ต่ำสุดของอุณหภูมิหม้อน้ำ 89c คับ
เคยเห็นบางท่านในนี้แหละ ติดพัดลมไฟฟ้า e46 2 ตัว ทั้งหน้าและหลัง จะได้อุณหภูมิหม้อน้ำแถว ๆ 88c ผิดถูกไม่แน่ใจ
(ใครไม่อยากทำแบบผมก็ติดพัดลมไฟฟ้าตรงรุ่น e46 2 ตัวไปเลย)
ค่าใช้จ่ายประมาณ 1500
3. ติดตั้งระบบสเปรย์น้ำ Water mist ไม่กล้าลงรูป กลัวโดนว่าว่าประหลาด (แต่ผมชอบมาก ๆ)
ผลที่ได้ แอร์เย็นเร็วมากๆ ไม่เกินนาที ลมเย็นมาแล้ว ตากแดดแรงไงก็ไม่กลัวแล้ว
ข้อเสียอาจจะมีก็ได้ เช่น แผงแอร์ผุ ซึ่งผมก็พยายามป้องกันคือ ฉีดบางช่วง เมื่อสตาร์ทรถ ตั้งอุณหภูมิในห้องโดยสารถ้าสูงกว่า 35c ให้ทำงาน
ให้ดูเหมือนอารมณ์ฝนตก ซักพักลมเป่าก็แห้งไปประมาณนี้ ไม่ใช่ฉีดตลอด อันนี้ผุแน่
note ; น้ำที่ใช้ RO คับ
ค่าใช้จ่ายประมาณ 5000
ปล รถผมอยากให้ตัวเองสบาย ผมก็โมให้ตอบโจทย์ปัญหาของตัวเองมากสุด ในวิถีทางที่เป็นไปได้ หากไม่ดีก็ถอดทิ้ง กลับมาใช้ระบบเดิมได้ บางคนอาจว่าไปแปลงรถ จะไม่ดีก็ได้
-
ขอโทดทีคับ ไม่ค่อยได้เข้ามาดู
add line ผมแทนละกันคับ หากสนใจ : wisit808
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ (อย่าว่าผมนา) :D
อัพเดตหน่อยละกัน จากที่ติดตั้งมาประมาณ 8 เดือน
1.อุณหภูมิน้ำหม้อน้ำอยู่ระหว่าง 92-100c
2.ไม่มีน้ำรั่วซึม
3. พัดลมทำงานเบาลง (อืมเหมือนจะดี พัดลมมีอายุการใช้งานนานขึ้น แต่ ๆ อาจมีข้อเสียแฝงคือ แอร์อาจเย็นลดลง
เพราะว่า N42 อุณหภูมิน้ำหม้อน้ำอยู่ระหว่าง 102-112c ทำให้พัดลมพัดแรงกว่าแบบของผม
ใกล้หน้าร้อนแล้วมีวันนึง ร้อนมาก ผมจอดตากแดดนาน เครื่องยนต์เย็น น้ำหม้อน้ำก็เย็น ทีนี้ แอร์อาจเย็นช้าลง
เพราะ พัดลมหมุนไม่แรง (อาจเป็นข้อเสียคับ จริงๆแล้วรถทั่วไปกว่าจะเย็นก็น่าจะนานอยู่) ขับ bm ทั้งที รถร้อน(เย็นช้า)มันก็ไงอยู่
จึงเกิดโปรเจคใหม่ (อีกแล้ว) ดังนี้คับ
1.ติด blower (ของตรงรุ่น e46 แต่ผมหาใน realoem ไม่เจอ) ดังรูป จะดูดความร้อนออกจากห้องโดยสาร ค่าใช้จ่ายประมาณ 2000
blower นี้จะทำหน้าที่ดูดความร้อนเมื่ออุณหภูมิในห้องโดยสารสูงกว่า 35c เมื่อสตาร์ทรถ
2.ติดตั้งพัดลมไฟฟ้า ญึ่ปุ่น 10" เป่าคอยร้อน ผลที่ได้จากการติดพัดลมตัวนี้ จะทำให้อุณหภูมิน้ำหม้อน้ำลดลงอีกประมาณ 2-3c คับ ตอนนี้ต่ำสุดของอุณหภูมิหม้อน้ำ 89c คับ
เคยเห็นบางท่านในนี้แหละ ติดพัดลมไฟฟ้า e46 2 ตัว ทั้งหน้าและหลัง จะได้อุณหภูมิหม้อน้ำแถว ๆ 88c ผิดถูกไม่แน่ใจ
(ใครไม่อยากทำแบบผมก็ติดพัดลมไฟฟ้าตรงรุ่น e46 2 ตัวไปเลย)
ค่าใช้จ่ายประมาณ 1500
3. ติดตั้งระบบสเปรย์น้ำ Water mist ไม่กล้าลงรูป กลัวโดนว่าว่าประหลาด (แต่ผมชอบมาก ๆ)
ผลที่ได้ แอร์เย็นเร็วมากๆ ไม่เกินนาที ลมเย็นมาแล้ว ตากแดดแรงไงก็ไม่กลัวแล้ว
ข้อเสียอาจจะมีก็ได้ เช่น แผงแอร์ผุ ซึ่งผมก็พยายามป้องกันคือ ฉีดบางช่วง เมื่อสตาร์ทรถ ตั้งอุณหภูมิในห้องโดยสารถ้าสูงกว่า 35c ให้ทำงาน
ให้ดูเหมือนอารมณ์ฝนตก ซักพักลมเป่าก็แห้งไปประมาณนี้ ไม่ใช่ฉีดตลอด อันนี้ผุแน่
note ; น้ำที่ใช้ RO คับ
ค่าใช้จ่ายประมาณ 5000
ปล รถผมอยากให้ตัวเองสบาย ผมก็โมให้ตอบโจทย์ปัญหาของตัวเองมากสุด ในวิถีทางที่เป็นไปได้ หากไม่ดีก็ถอดทิ้ง กลับมาใช้ระบบเดิมได้ บางคนอาจว่าไปแปลงรถ จะไม่ดีก็ได้
Blower ตัวนี้ การทำงานจริงๆ คือการดูดอากาศเย็นจากห้องโดยสาร(บริเวณที่พักเท้าคนนั่งข้างคนขับ)เป่าไปยังห้องเครื่องบริเวณกล่องเก็บกล่องเครื่องและกล่องเกียร์เมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 35c เพื่อลดความร้อนให้กับกล่องอิเล็คทรอนิคครับ (มีเฉพาะบางรุ่น ที่แน่ๆ คือในรุ่น 330i จะมีครับ)
ที่แน่ใจว่าเป็นการลดอุณหภูมิเพราะ Thermostat switch มันจะทำงานที่ 35c+ ครับ
-
สุดยอดครับ รถผมนี่113เลยครับอุณหภูมิ
-
;) ;) ;)
-
ช่วยแนะนำอู่ที่รับติดตั้งให้หน่อยได้มั้ยครับ
-
work ครับ ไม่มีรั่ว
-
ผมเพิ่งได้รถมาได้ 2 ปี อยากแก้ไขเรื่องความร้อนจังครับ ยังรับทำมั้ยครับอุปกรณ์นี้