BMW E46 Thailand

พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => ถาม-ตอบ ปัญหา => ข้อความที่เริ่มโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 14, 2012, 22:32:05

หัวข้อ: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 14, 2012, 22:32:05
รบกวนหน่อยนะครับ คือ ผมอยากทราบว่าน้ำมันเครื่อง 30 กับ 40 แตกต่างกันอย่างไรในทางเทคนิคครับ

พอดีผมเดิมใช้ น้ำมันเครื่่อง ของศูนย์บริการเบอร์ 30 อยู่น่ะครับ อยากจะเปลี่ยนค่ายบ้าง ไปอ่านสเป็คของน้ำมันที่ดูๆไว้ มีอยู่ท่อนนึงเขาพูดถึงว่า เหมาะกับเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับความหนืดต่ำ

เลยอยากทราบไว้น่ะครับ จะได้เลือกถูก  :-X
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ยิ้มบางแสน ที่ พฤศจิกายน 14, 2012, 22:43:34
ตอนแรกผมก็ใช้น้ำมันเกรดศูนย์นะครับ คาสตรอล 0w-30 แต่คิดเองว่ารถเก่าแล้ว ต้องใช้น้ำมันหนืดๆ ขึ้นบ้าง ทุกวันนี้เลยใช้ 5w-50 มาตลอด เปลี่ยนไป 3 ครั้งแล้วยัไม่พบปัญหาใดๆ ส่วนเรื่องทางเทคนิคผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แหะๆ
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 14, 2012, 23:02:07
ขอบคุณครับ คุณยิ้ม ช่วงนี้เป็นอย่างไงบ้างครับ ดีขึ้นบ้างหรือยังครับ
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ยิ้มบางแสน ที่ พฤศจิกายน 14, 2012, 23:21:10
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ขอบคุณครับ คุณยิ้ม ช่วงนี้เป็นอย่างไงบ้างครับ ดีขึ้นบ้างหรือยังครับ

ดีขึ้นพอสมควรครับ ยังมีอาการเสมหะมีสีเลือดนิดหน่อย ส่วนหลังก็หายปวดไปพอสมควรแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับผม  :-X
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: T.Tankittiphob ที่ พฤศจิกายน 14, 2012, 23:42:37
ผมได้castrol 10w-60มาน่าใช้มั้ยครับ
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 14, 2012, 23:48:24
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ผมได้castrol 10w-60มาน่าใช้มั้ยครับ

ของผมจะเอา 30 หรือ 40 ดียังปวดหัวอยู่เลยครับ ที่สนใจอยู่เป็นตัวนี้ครับ
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: T.Tankittiphob ที่ พฤศจิกายน 14, 2012, 23:52:17
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ผมได้castrol 10w-60มาน่าใช้มั้ยครับ

ของผมจะเอา 30 หรือ 40 ดียังปวดหัวอยู่เลยครับ
บังเอิญเจอครับ รบกวนพี่ต้อมพิจารณาครับ
www.thaicrazycar.com/664/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88 (http://www.thaicrazycar.com/664/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88)
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 14, 2012, 23:54:05
อันนี้แพ็คเกจของเมืองนอกครับ
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 14, 2012, 23:58:11
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ผมได้castrol 10w-60มาน่าใช้มั้ยครับ

ของผมจะเอา 30 หรือ 40 ดียังปวดหัวอยู่เลยครับ
บังเอิญเจอครับ รบกวนพี่ต้อมพิจารณาครับ
www.thaicrazycar.com/664/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88 (http://www.thaicrazycar.com/664/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88)

ขอบคุณมากๆเลยครับ

แต่ที่ผมสงสัยอยู่ตรงที่ศูนย์ใช้เบอร์ 30 กับของ motul ที่เป็นเบอร์ 30 ก็บอกว่าเหมาะสมกับเครื่องที่ถูกออกแบบมาสำหรับเครื่องที่ต้องการความหนืดต่ำนะครับ เลยทำให้สับสนว่าสเป็คที่เขาต้องการจริงๆคือ แค่เบอร์ 30 หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Fortis ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 00:11:28
ข้อมูลแสดงน้ำมันเครื่องที่ใช้กับเครื่อง m52/m54 ครับ

(http://www.bimmerfest.com/forums/attachment.php?attachmentid=191992&d=1246677998)

สังเกตจะมี เกรด 30 เป็นหลักครับ
ที่มา

http://www.bimmerfest.com/wiki/index.php?title=BMW_E46 (http://www.bimmerfest.com/wiki/index.php?title=BMW_E46)

http://www.bimmerfest.com/forums/attachment.php?attachmentid=198114&d=1250989272 (http://www.bimmerfest.com/forums/attachment.php?attachmentid=198114&d=1250989272)

ผมว่าจะ 30 หรือ 40 ก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: AeRiaLSpiRiTuaL ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 00:38:44
0w-40 หมายความว่า



0 น้ำมันจะเหนียวสุดที่อุณหภูมิ 0องศา W= Winter ส่วน 40 หมายถึงว่า ค่าความหนืดเมื่อน้ำมันถึง 100องศา

ง่ายๆก็คือว่า น้ำมันตัวนี้ จะเหนียวสุดที่ 0 องศาและเมื่อเดือดความหนืดจะเป็น 40

5w-30ถ้าเทียบแล้วก็คือ ที่ 5 องศาน้ำมันจะหนืดตัวที่สุดและเหลวสุดที่ 100องศา ด้วยค่าความหนืดที่ 30
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Jeeranapong B. ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 00:40:49
ขออธิบายตามที่รู้มาแล้วกันครับพี่ 0W-40 มันมีความหมายอย่างไร

W ย่อมาจาก Winter (หรือ ฤดูหนาว นั่นเอง) ซึ่งสำหรับน้ำมันเครื่องแล้วหมายถึง ความต้านทานการเป็นไข
ซึ่งวัดตั้งแต่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 c จนถึง - 30 c โดยตัวเลขข้างหน้าตัว W จะหมายถึงค่าที่น้ำมันเครื่องจะสามารถคงความข้นใสไว้ได้ ตามนี้
0W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ต่ำกว่า – 30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
5W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
10W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 20 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
15W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 10 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
20W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง 0 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
ซึ่งเมืองไทยคงไม่อากาศหนาวติดลบขนาดนั้นอยู่แล้ว ผมคิดเอาเองว่าเบอร์อะไรก็ได้สำหรับตัวเลขชุดหน้า

ตัวเลขชุดหลังนี้คือความหนืด viscosity
การวัดค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องจะวัดที่อุณหภูมิ 100 c ได้ออกมาเป็นค่าความหนืดซึ่งแทนค่าด้วยตัวเลข ซึ่งมีค่ามาตรฐานเหมือนกันทั่วโลกทุกสถาบัน
ซึ่งจะมีค่าตั้งแต่ 0 - 60 .... เลขมาก หนืดมาก , เลขน้อย หนืดน้อย

ส่วนรถที่เหมาะกับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ก็จะเป็นพวกรถใหม่ๆครับผ่านการใช้งานไม่มากครับ ถ้าเก่าขึ้นก็ควรใช้ความหนืดสูงขึ้นตามไปด้วย  :-*
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: otto ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 01:39:10
 ;)
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ขออธิบายตามที่รู้มาแล้วกันครับพี่ 0W-40 มันมีความหมายอย่างไร

W ย่อมาจาก Winter (หรือ ฤดูหนาว นั่นเอง) ซึ่งสำหรับน้ำมันเครื่องแล้วหมายถึง ความต้านทานการเป็นไข
ซึ่งวัดตั้งแต่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 c จนถึง - 30 c โดยตัวเลขข้างหน้าตัว W จะหมายถึงค่าที่น้ำมันเครื่องจะสามารถคงความข้นใสไว้ได้ ตามนี้
0W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ต่ำกว่า – 30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
5W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
10W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 20 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
15W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 10 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
20W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง 0 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
ซึ่งเมืองไทยคงไม่อากาศหนาวติดลบขนาดนั้นอยู่แล้ว ผมคิดเอาเองว่าเบอร์อะไรก็ได้สำหรับตัวเลขชุดหน้า

ตัวเลขชุดหลังนี้คือความหนืด viscosity
การวัดค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องจะวัดที่อุณหภูมิ 100 c ได้ออกมาเป็นค่าความหนืดซึ่งแทนค่าด้วยตัวเลข ซึ่งมีค่ามาตรฐานเหมือนกันทั่วโลกทุกสถาบัน
ซึ่งจะมีค่าตั้งแต่ 0 - 60 .... เลขมาก หนืดมาก , เลขน้อย หนืดน้อย

ส่วนรถที่เหมาะกับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ก็จะเป็นพวกรถใหม่ๆครับผ่านการใช้งานไม่มากครับ ถ้าเก่าขึ้นก็ควรใช้ความหนืดสูงขึ้นตามไปด้วย  :-*
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: T.Tankittiphob ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 05:47:47
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ขออธิบายตามที่รู้มาแล้วกันครับพี่ 0W-40 มันมีความหมายอย่างไร

W ย่อมาจาก Winter (หรือ ฤดูหนาว นั่นเอง) ซึ่งสำหรับน้ำมันเครื่องแล้วหมายถึง ความต้านทานการเป็นไข
ซึ่งวัดตั้งแต่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 c จนถึง - 30 c โดยตัวเลขข้างหน้าตัว W จะหมายถึงค่าที่น้ำมันเครื่องจะสามารถคงความข้นใสไว้ได้ ตามนี้
0W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ต่ำกว่า – 30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
5W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
10W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 20 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
15W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 10 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
20W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง 0 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
ซึ่งเมืองไทยคงไม่อากาศหนาวติดลบขนาดนั้นอยู่แล้ว ผมคิดเอาเองว่าเบอร์อะไรก็ได้สำหรับตัวเลขชุดหน้า

ตัวเลขชุดหลังนี้คือความหนืด viscosity
การวัดค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องจะวัดที่อุณหภูมิ 100 c ได้ออกมาเป็นค่าความหนืดซึ่งแทนค่าด้วยตัวเลข ซึ่งมีค่ามาตรฐานเหมือนกันทั่วโลกทุกสถาบัน
ซึ่งจะมีค่าตั้งแต่ 0 - 60 .... เลขมาก หนืดมาก , เลขน้อย หนืดน้อย

ส่วนรถที่เหมาะกับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ก็จะเป็นพวกรถใหม่ๆครับผ่านการใช้งานไม่มากครับ ถ้าเก่าขึ้นก็ควรใช้ความหนืดสูงขึ้นตามไปด้วย  :-*
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 08:14:16
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ข้อมูลแสดงน้ำมันเครื่องที่ใช้กับเครื่อง m52/m54 ครับ

(http://www.bimmerfest.com/forums/attachment.php?attachmentid=191992&d=1246677998)

สังเกตจะมี เกรด 30 เป็นหลักครับ
ที่มา

http://www.bimmerfest.com/wiki/index.php?title=BMW_E46 (http://www.bimmerfest.com/wiki/index.php?title=BMW_E46)

http://www.bimmerfest.com/forums/attachment.php?attachmentid=198114&d=1250989272 (http://www.bimmerfest.com/forums/attachment.php?attachmentid=198114&d=1250989272)

ผมว่าจะ 30 หรือ 40 ก็ได้ครับ

ขอบคุณมากครับ คุณเรย์

และขอขอบคุณทุกๆท่านมากเลยครับ

ตอนนี้ปวดหัวเลยครับ เลือกไม่ถูก ตอนขับรุ่นนี้แรกๆ ที่ศูนย์บอกเปลี่ยนระยะ 25000 ก็เปลี่ยนแบบนั้นมาตลอด พอมารอบหลังๆกลับบอกว่า ตอนนี้สเป็คน้ำมันตัวนี้ทาง BMW ให้กลับมาเปลี่ยนที่ 15000 โล

แล้วตัวน้ำมันก็เปลี่ยนไปจากเดิมเป็น SLX ก็มาเป็น EDGE เลยชักไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไรแล้ว สเป็คมันกลับไปกลับมา ประกอบกับรถผมตอนนี้มีทำมาบ้างเล็กน้อย เลยว่าจะลองของใหม่ๆดูบ้างครับ
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: oon_resist ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 09:58:26
เอาแบบลูกทุ่งครับพี่ต้อม ถ้าพี่ต้อมเติม 30 พี่ต้อมจะได้ความลื่นไหลของเครื่องยนต์ กดคันเร่งแล้วรู้สึกเครื่องมันลื่นดี เพราะความหนืดมันน้อย เครื่องยนต์ไม่ต้องใช้แรงเอาชนะความหนืดของน้ำมันเครื่องมาก แต่อาจจะเจอปัญหาว่าน้ำมันเครื่องหายไปบ้างระหว่างใช้งาน

แต่ถ้าพี่ต้อมเติม 40 เวลากดคันเร่งก็จะได้ความรู้สึกว่าเครื่องมันแน่นขึ้น แต่ความรู้สึกเหมือนมันไม่ค่อยลื่นนิดๆ แต่ความจริงก็ไม่ต่างมากเพราะเครื่องยนต์ที่เกินแสนโลแล้ว จะมีระยะ clearance ที่มากกว่าเครื่องใหม่ๆ

อีกประเด็นคือ การรักษาคุณสมบัติความหนืดของน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องดีๆ จะคงสภาพความหนืดได้ตามสเปก แต่ถ้าเจอของปลอมหรือของไม่มีคุณภาพ ความหนืดเปลียน ไม่คงสภาพความหนืดเครื่องยนต์ก็น๊อค เพราะปั้มน้ำมันเครื่อง ปั๊มไม่ได้เพราะน้ำมันเครื่องเหลวเกินไปครับ  O0 O0 O0
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: itongx ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 10:38:55
ผมใช้ 40-50 มาตลอดครับรถเก่าแล้ววิ่งมาแสนกว่าโลเอาหนืดไว้ดีกว่ารักษาเครื่องครับ อีกอย่างเอา BMW LL01 approved ไว้สบายใจครับส่วนระยะเปลื่อนน้ำมันเครื่องผมเปลี่ยนราวๆ 12000 - 15000 ตามสดวกตัวเองครับระยะนี้น้ำมันเครืองเริ่มเปลี่ยนสีแล้วครับนานกว่านี้ดำปี๋ ปล่อยถึง 25000 ผมว่ามันจะเริ่มเป็นโคลนติดตามชิ้นส่วนครับสังเกตุตอนเปิดผ่าวาวดูครับมีเศษน้ำมันเครื่องดำๆ ติดกระจาย  :))
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: คนขายเนื้อ ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 11:20:01
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ขออธิบายตามที่รู้มาแล้วกันครับพี่ 0W-40 มันมีความหมายอย่างไร

W ย่อมาจาก Winter (หรือ ฤดูหนาว นั่นเอง) ซึ่งสำหรับน้ำมันเครื่องแล้วหมายถึง ความต้านทานการเป็นไข
ซึ่งวัดตั้งแต่อุณหภูมิต่ำกว่า 20 c จนถึง - 30 c โดยตัวเลขข้างหน้าตัว W จะหมายถึงค่าที่น้ำมันเครื่องจะสามารถคงความข้นใสไว้ได้ ตามนี้
0W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ต่ำกว่า – 30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
5W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
10W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 20 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
15W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง – 10 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
20W= สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง 0 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข
ซึ่งเมืองไทยคงไม่อากาศหนาวติดลบขนาดนั้นอยู่แล้ว ผมคิดเอาเองว่าเบอร์อะไรก็ได้สำหรับตัวเลขชุดหน้า

ตัวเลขชุดหลังนี้คือความหนืด viscosity
การวัดค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องจะวัดที่อุณหภูมิ 100 c ได้ออกมาเป็นค่าความหนืดซึ่งแทนค่าด้วยตัวเลข ซึ่งมีค่ามาตรฐานเหมือนกันทั่วโลกทุกสถาบัน
ซึ่งจะมีค่าตั้งแต่ 0 - 60 .... เลขมาก หนืดมาก , เลขน้อย หนืดน้อย

ส่วนรถที่เหมาะกับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ก็จะเป็นพวกรถใหม่ๆครับผ่านการใช้งานไม่มากครับ ถ้าเก่าขึ้นก็ควรใช้ความหนืดสูงขึ้นตามไปด้วย  :-*
;) ;) ;) ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 11:30:31
คราวนี้น้ำมันเครื่องตัวที่ดูไว้ เขาเขียนว่า เหนือกว่าทุกมาตราฐานที่มี นะสิครับ มึนเลย
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: OaTt ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 11:30:51
ของผม 0w-40 Fully synthetic ปตท. เปลี่ยนทุก 10000 กม.ครับ
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 11:40:54
กระป๋องของบ้านเรา ไหมไม่สวยแบบเขาเนอะ

Mobil 1 vs. Motul 300V '95 Camaro LT1 (http://www.youtube.com/watch?v=3cChm-dqZts#)
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: itongx ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 11:42:17
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
คราวนี้น้ำมันเครื่องตัวที่ดูไว้ เขาเขียนว่า เหนือกว่าทุกมาตราฐานที่มี นะสิครับ มึนเลย

พี่จะเล่น motul ก็เล่นเลยครับพวกนี้ racing grade ฟิมน้ำมันจะแข็งแรงเป็นพิเศษอยู่แล้ว ส่วนตัวผมก็ลองเปลี่ยนไปเรื่อย redline , eneos , mobile1 , sunocco แต่เห็นบางที่เค้าก็บอกว่าใช้พวก ester base มันจะต้องเปลี่ยนเร็วกกว่าปกติ (แต่ผมก็เปลี่ยนทุกๆ 12000 เหมือนเดิม เพราะมันแพง ^_^)
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: oon_resist ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 11:43:54
แจ่มเลย Motul  ;) ;) ;)
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Jeeranapong B. ที่ พฤศจิกายน 15, 2012, 15:38:06
อยากลองใช้ก็จัดเลยครับ ถ้าไม่ชอบก็ค่อยเปลี่ยนออก  ^-^
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 16, 2012, 01:40:51
ตอนนี้คงไม่ไหวละครับ คุยไปคุยมากลายเป็นลิตรละ 1400 แถมมีแต่กระป๋อง 2 ลิตรอีก ของผมถ้าใช้ต้องซื้อ 4 กระป๋อง...  :-\
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: itongx ที่ พฤศจิกายน 16, 2012, 10:04:45
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ตอนนี้คงไม่ไหวละครับ คุยไปคุยมากลายเป็นลิตรละ 1400 แถมมีแต่กระป๋อง 2 ลิตรอีก ของผมถ้าใช้ต้องซื้อ 4 กระป๋อง...  :-\

พี่ต้อมไม่ลองเล่น redline หรือ sustina ดูหละครับถูกกว่ากันนิดหน่อยแต่ก็ดีไม่แพ้กันเลยนะครับ  :-* :-*
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: chaky ที่ พฤศจิกายน 16, 2012, 13:28:08
ลองทางเลือกนี้ดูครับ  castral Titanium 0w-40 แกลลอนละ 1800 4ลิตร ใช้สองแกลลอนก็ 3,600บาท
ถ้าเอาแบบ 4+1ลิตร อยู่ที่ 2,200 บาท ราคาเบาๆ 
ถ้ากลัวว่าใช้ไปนานๆคุณถาพจะด้อยลง ก็เปลี่ยนที่ 10,000 กม. ก็ได้ครับ

เพราะราคาไม่แรง เปลี่ยนบ่อยๆ ก็ยังสบายกระเป๋าอยู่ครับ
แถมได้น้ำมันใหม่ตลอดเวลาด้วยครับ

เทียบกับที่ พี่ต้อมจะเปลี่ยน 2ลิตร 1,400บาท ใช้ 4ขวด 5600บาท
เปลี่ยน Titanium ถูกกว่าตั้ง 2,000 เลยนะครับ
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: yo-e46 ที่ พฤศจิกายน 16, 2012, 13:40:40
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ลองทางเลือกนี้ดูครับ  castral Titanium 0w-40 แกลลอนละ 1800 4ลิตร ใช้สองแกลลอนก็ 3,600บาท
ถ้าเอาแบบ 4+1ลิตร อยู่ที่ 2,200 บาท ราคาเบาๆ 
ถ้ากลัวว่าใช้ไปนานๆคุณถาพจะด้อยลง ก็เปลี่ยนที่ 10,000 กม. ก็ได้ครับ

เพราะราคาไม่แรง เปลี่ยนบ่อยๆ ก็ยังสบายกระเป๋าอยู่ครับ
แถมได้น้ำมันใหม่ตลอดเวลาด้วยครับ

เทียบกับที่ พี่ต้อมจะเปลี่ยน 2ลิตร 1,400บาท ใช้ 4ขวด 5600บาท
เปลี่ยน Titanium ถูกกว่าตั้ง 2,000 เลยนะครับ
ไม่ใช่ 2 ลิตร 1400 นะคับพี่ชัคกี้ ลิตรละ 1400 และไม่มีขายแบบลิตรต่อลิตรคับมีแต่ขายครั้งละ 2 ลิตรอย่างน้อยๆ เพราะไม่มีกระป๋องแบบ 1 ลิตรขายครับ ตกเริ่มต้นที่ 2 ลิตรแรก 2800 คับ ผมไม่ไหวแบบนี้แต่ถ้ารวยเมื่อไหร่จะขอลองซักทีแน่ๆคับ ::)
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ พฤศจิกายน 16, 2012, 14:13:57
ราคาสูงไป ไม่จำเป็นสำหรับการขับปกติครับ ผมไม่จ่าย  O0
หัวข้อ: Re: น้ำมันเครื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 16, 2012, 15:52:15
คือ ตอนแรกผมเทียบกับน้ำมันศูนย์ ลิตรละ 850 ถามตอนแรกว่า 1200 ลดเหลือ 1080 ก็คิดว่าน่าลอง 6.5 ลิตร ก็เพิ่มประมาณ พันกว่าบาท ก็น่าลองครับพี่
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ราคาสูงไป ไม่จำเป็นสำหรับการขับปกติครับ ผมไม่จ่าย  O0

คือ ตอนแรกผมเทียบกับน้ำมันศูนย์ ลิตรละ 850 ถามตอนแรกว่า 1200 ลดเหลือ 1080 ก็คิดว่าน่าลอง 7 ลิตร ก็เพิ่มประมาณ พันกว่าบาท ก็น่าลองครับพี่

พอจะเอาเข้าจริง ผมฟังผิดหรือเขาบอกผิดก็ไม่รู้ กลายเป็นลิตรละ 1400 ขายแบบเป็นกระป๋อง 2 ลิตรอีกครับ