BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => พูดคุย สนทนาทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: ยิ้มบางแสน ที่ มกราคม 08, 2013, 20:31:01
-
น้องที่ทำงานไปค้ำประกันรถมอไซต์ให้เพื่อน แล้วรถโดนยึด บริษัทที่ยึดรถเอาไปขายทอดตลาด แล้วกลับมาแจ้งน้องผมว่าขายแล้วไม่หมดหนี้ต้องให้น้องผมจ่ายเงินเพิ่มอีก 20000 บาท เพื่อนคนที่ซื้อรถมันก็ยังเดินเล่นอยู่ในหมู่บ้าน แต่บริษัทอ้างว่าคนซื้อไม่ยอมจ่าย จะมาตามเอากับคนค้ำซะงั้น คนค้ำคือน้องผมจะทำไงได้บ้างครับ
-
ตามกฏหมาย ผู้ซื้อเป็นจำเลยที่ 1 ผู้ค้ำเป็นจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชอบครับ ทางที่ดีต้องให้น้องคุณไปกระตุ้นผู้ซื้อด้วย ..... ซะที ไม่งั้นก็ต้องโดนฟ้องทั้งคู่รับผิดชอบร่วมกัน ขั้นต่อไปก็ค่อยว่ากันใหม่นะครับ O0 O0 O0
-
ถ้าเค้าตามคนกู้ไม่ได้ คนค้ำก็มีหน้าที่ตามเช็ดแบบนี้ล่ะครับ
ถ้าไม่จ่ายหรือนิ่งก็จะติดแบล็คลิสต์นะครับ
-
บอกให้ไฟแนนท์ไปฟ้องคนซื้อให้จบก่อน แบบว่าคนซื้อไม่จ่ายก็ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย หลังจากจบกับคนซื้อแล้วค่อยมาคุยกับคนค้ำ แต่ถ้าอยากจะเอาจากคนค้ำเลยก็ให้ประกันไปฆ่าคนซื้อให้ตายก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน >:(
-
บอกให้ประกันไปฟ้องคนซื้อให้จบก่อน แบบว่าคนซื้อไม่จ่ายก็ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย หลังจากจบกับคนซื้อแล้วค่อยมาคุยกับคนค้ำ แต่ถ้าอยากจะเอาจากคนค้ำเลยก็ให้ประกันไปฆ่าคนซื้อให้ตายก่อน แล้วค่อยมาคุยกัน >:(
น้องพี่ยิ้มยังไม่เป็นอะไรหรอกครับ ถ้าตราบใดที่ผู้ซื้อยังมีชีวิตอยู่และสามารถตามตัวได้ตัวเป็นๆ แต่ถ้าหายวั๊บไปล่ะก็ยังไงก็ต้องยอมครับ
-
คุณยิ้มต้องพยายามเลี้ยงดูคนซื้อให้ดีๆอย่าให้หายไปไหนนะ
-
ต้องฟ้องคนซื้อให้จบก่อน เดี๋ยวศาลหาวิธีเอาเงินมาให้ได้ ถ้าศาลไม่สามารถหาวิธีเอาเงินมาให้ได้ ทีนี้ คนค้ำเสร็จ O:-)
-
ไฟแน้นไม่ตามคนซื้อหรอครับ ส่วนใหญ่จะไปจี้กับคนคำ้มากกว่าครับ C:-)
-
กรณีอย่างนี้ เขาเรียกลูกหนี้ร่วม เจ้าหนี้สามารถที่จะเลือกบังคับกับลูกหนี้คนไหนก็ได้
ที่มีความสามารถชำระหนี้ หรือมีทรัพย์สินให้ยึด โดยไม่จำเป็นต้องไปดำเนินการกับคนซื้อก่อน
แต่หากคนค้ำต้องเสียหาย หรือถูกยึดทรัพย์ ก็สามารถไปฟ้องร้องบังคับเอาคืนกับคนซื้อได้ครับ
-
กรณีอย่างนี้ เขาเรียกลูกหนี้ร่วม เจ้าหนี้สามารถที่จะเลือกบังคับกับลูกหนี้คนไหนก็ได้
ที่มีความสามารถชำระหนี้ หรือมีทรัพย์สินให้ยึด โดยไม่จำเป็นต้องไปดำเนินการกับคนซื้อก่อน
แต่หากคนค้ำต้องเสียหาย หรือถูกยึดทรัพย์ ก็สามารถไปฟ้องร้องบังคับเอาคืนกับคนซื้อได้ครับ
พี่ทนายมาคลายทุกข็แล้ว ;) ;)
-
สองหมื่นถือว่าฟาดเคราะห์ครับ ต่อรองให้ถูกสุดแล้วจ่ายเลย สำสัญญาว่าจบนะไม่มาฟ้องเราเพิ่มทีหลัง ถ้าเจ้าหนี้โอเคก็จ่ายไป จบง่ายกว่า ทำใจเถอะค้ำเค้าน่ะ เรามองวิกฤตให้เป็นโอกาสว่าต่อไปเราจะไม่โดนอีก เพราะพอมีใครให้เราค้ำอะไรอีก เราก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟังแล้วเราบอกเค้าว่า ขอเถอะพี่โดนมาแยอะเจ็บมาแยอะ ก็ไม่เสียน้ำใจกัน ปฏิเสธก็ง่าย ไม่ต้องกังวลว่าเค้าจะไม่พอใจมั้ยที่เราปฏิเสธ
ยังดีที่แค่ 20000 ที่ทำงานผมโดนกันเป็นล้านครับ
เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ธ.กรุงไทยปล่อยกู้เอนกประสงค์ให้สิทธิ์ กู้ 1,500,000 ก็จับมือกันไปกู้ผลัดกันค้ำ ผ่านไป 6 เดือนพวก เริ่มไม่มาทำงาน ตอนนี้หายหัวไปสองเดือนแล้ว คนค้ำเครียดมาก เพราะกู้ไปคนละล้าน ดีที่กู้ได้แค่นั้น ยังไม่รู้ออกหัวออกก้อย
เพื่อนคนที่ค้ำเค้ามาปรึกษา ว่าทำไงดี ก็ได้แต่ปลอบใจและแนะนำไปว่า ให้ไปหาที่บ้าน โทรหาให้เจอ หรือ sms หรือจดหมายไปบอกเค้าว่า ให้กลับมาคุยกัน เพราะถ้าหายไปเฉยๆ สวัสดิการที่จะได้หลังจากโดนไล่ออกมันไม่พอใช้หนี้นะ ( แต่ถ้าเสียชีวิต เงินพอใช้หนี้แน่นอนเพราะ บริษัท ทำประกันไว้ให้แยอะอยู่ )
-
ตายแล้ว ผมดันไปค้ำให้พวกข้าราชการคนละ 1-2 ล้าน แล้วถ้าเขาลาออกจากงานผมไม่แย่หรือเนี่ย
ค้ำตั้ง 3 สัญญา รวมกว่า 3 ล้าน
-
ตายแล้ว ผมดันไปค้ำให้พวกข้าราชการคนละ 1-2 ล้าน แล้วถ้าเขาลาออกจากงานผมไม่แย่หรือเนี่ย
ค้ำตั้ง 3 สัญญา รวมกว่า 3 ล้าน
ถ้าเค้ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินคงไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าเค้าติดหนี้พนันบอลก็จบครับ
ที่ทำงานผมโดนกันหลายคนแล้ว ในสี่ห้าปีที่ผ่านมา มีหนีไปเลย 3 คนเพราะเสียพนันบอล อีก 1คนโดนจับค้ายาบ้าตอนนี้อยู่ในคุก แต่คนที่ค้ำประกันตอนนี้ยังผ่อนจ่ายรายเดือนอยู่หลายๆคน เห็นแล้วแหยงเลย ทำโอทีเกือบตายเอาเงินไว้ซื้อข้าวกิน ส่วนเงินเดือนโดนหักเกือบหมด กับหนี้ที่ไม่ได้ก่อ
-
ผมว่านะเป็นเพื่อนกัน แล้วยังเดินเล่นในหมู่บ้าน เรียกมันมาเคลียร์เลยครับ ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็จัดหนักไปสักชุด หรือไม่ก็ไม่ต้องคุยเพราะดูสถานการณ์เหมือนจะเคยคุยกันแล้วให้เพื่อนชวนไปกินเหล้ามอมให้เมาแล้วจัดหนักๆไปเลย :))
หรือไม่ก็จ้างพวกนักทวงนี้มาจัดการก็ได้มั๊งครับ เราจะได้ไม่ซวยด้วย ^-^
-
ตายแล้ว ผมดันไปค้ำให้พวกข้าราชการคนละ 1-2 ล้าน แล้วถ้าเขาลาออกจากงานผมไม่แย่หรือเนี่ย
ค้ำตั้ง 3 สัญญา รวมกว่า 3 ล้าน
ผมเคยค้ำประกัน ให้เพื่อนเข้าทำงาน ราว 10 ปีแล้ว ทุกวันนี้หาตัวไม่ได้ ว่าอยู่ไหน มีความระแวงมาถึงทุกวันนี้
อย่าค้ำประกันใครครับ :-*
-
เรื่องไปค้ำประกัน ผมโดนมากับตัวแล้วครับ
มีทางเดียวครับ ถ้าไม่อยากติด แบล๊คลิส ทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้ แนะนำ เข้าไปเคลีย์ส่วนที่เหลือครับ
ถ้าขึ้นศาลแล้ว ผลสรุปก็ต้องจ่ายอยู่ดี ครับ
กรณีผมไปเซ็นต์ค้ำให้ญาติกัน เป็นรถกระบะ nv เมื่อประมาณ 7-8 ปีก่อน ญาติผมเข้าชำระไป2 ปี เหลือค้างอีก 2 ปี รวมค่าเสียหาย ค่าเสียเวลาทวงถาม โดนเข้าไป 80,000 กว่าบาท จำเลยที่1 ลอยตัวหายเงียบเข้ากรีบเมฆ เหลือแต่ผมที่มีที่อยู่ ที่ตามได้ เค้าก็จะตามแต่คนค้ำครับ เพราะคนตามมีหน้าที่ตาม อย่างเดียว เค้าไม่สนหรอกครับ คนไหนจำเลยที่1 คนไหนที่ 2
ทางที่ดีควรลองไปคุยกับจำเลยที่1 ให้ชำระ จ่ายไหวเท่าไร่ แล้วไปตกลงกับทางไฟแนนซ์ จะผ่อนชำระ หรือ ลดลงได้อีกมั้ย
ของผม ยื้อไปยื้อมา สุดท้ายก็ต้องจ่าย ผมเลยขอคุยว่าจะจ่ายให้ครึ่งเดียวได้มั้ย ผ่อนเป็นเดือนๆ สุดท้ายทางไฟแนนซ์ ยอมรับที่ 40,000 แต่ต้องจ่าย
งวดเดียวเลย เป็นอันจบครับ และให้ทางนั้น ทำหนังสือยืนยัน ว่าเราได้ชำระหนี้แล้วครับ
จำฝั่งใจเลยครับ ไม่ว่าใคร ต่อไปไม่ค้ำประกันอีกแล้ว ญาติกันแท้ๆ(น้องแม่แท้ๆ) ยังทำกับหลานได้เลย
อย่าไปค้ำใครเป็นดีที่สุดครับ เพราะคนค้ำคือคนสุดท้าย คุณหันหลังไปก็จะไม่มีใครมาต่อท้ายคุณแล้ว ไม่เหมือนผู่ซื้อที่อยู่หน้าเรา
ปากหนักใจแข็งเข้าไว้ เป็นดีที่สุด