BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => ถาม-ตอบ ปัญหา => ข้อความที่เริ่มโดย: kosit_w ที่ มีนาคม 01, 2012, 16:22:18
-
ยาแก้ตัวร้อนสำหรับ เพื่อนๆ E46 และเครื่องยนต์ทุกชนิดในโลกใบนี้
เคยเจอกันไหมความร้อนขึ้นสูง ถามว่าความร้อนขึ้นสูงแล้วเห็นตอนไหนว่าสูง
1.ตอบ : เห็นก่อนที่เกจน์วัดอุณหภูมิ
2.ตอบ : เห็นตอนมีไอน้ำพุ่งขึ้นที่ฝากระโปรงรถ
3.ตอบ : เห็นตอนเครื่องดับคาเท้าเลย
ถ้าท่านตอบข้อ 1. ท่านไม่ต้องอ่านต่อก็ได้
แต่ถามท่านว่าตาของท่านอยู่ที่เกจฯวัดอุณหภูมิตลอดหรือไม่ ผมตอบแทนท่านเลยก็ได้ว่าไม่มีใครหรอกที่ตาจะอยู่ที่เกจน์วัดอุณหภูมิตลอดเวลา เพราะท่านต้องมองถนน, มองรถคันหน้า, มองคนข้ามถนน, มองสาวๆข้างทาง
ข้อดีของเครื่องพวกนี้คือ โชว์อุณหภูมิเป็นตัวเลข(ดิจิตอล) และถ้าอุณหภูมิเกินที่ตั้งไว้ มันจะส่งเสียงร้องเตือนให้รู้ว่าอุณหภูมิเกินแล้วนะ
จากประสบการณ์ ความร้อนเคยขึ้น
เจอมากับตัวเอง ผมได้ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ไว้แล้ว ขับไปๆ รถติดๆ มีเสียงเตือนร้องขึ้นมา ก็เลยเหลือบสายตาไปมอง ตัวเลขดิจิตอล บอกว่า 100 องศา หันไปมองเข็มหน้าปัดยังปกติ อยู่ที่ครึ่งนึงพอดีเหมือนเคย ใจแข็งทนฟังมันร้องไป ตามองเข็มความร้อนที่หน้าปัดตลอด ตัวเลขดิจิตอลค่อยๆขึ้น จาก 100 เป็น 101,102,103,104,105,106,107 องศา ท่านเชื่อหรือไม่ว่า 107องศาเซลเซียส เข็มความร้อนที่หน้าปัดเริ่มกระดิกมานิดนึง เอาละหว่ากรู พอดีรถเริ่มไหล อุณหภูมิลดลงเข็มก็ลง พอรถเริ่มทำความเร็วได้อุณหภูมิ ลงมาที่ 99 องศา หลังจากนั้นก้เอาเข้าอู่ เช็คดู ฟรีปั้ม (พัดลมหน้าเครื่อง 6 สูบ) ปรากฏว่า ไม่มีความหนืดเลย พัดลมเลยระบายความร้อนไม่ทัน แล้วก็เปลี่ยน วาล์วน้ำซะด้วยเลย
เชื่อหรือไม่ว่าหลังจากเปลี่ยนฟรีปั้มกับวาล์วน้ำแล้ว อุณหภูมิที่วัดได้ อยู่ที 82-88 องศา ตลอดไม่เคยเกินจากนี้
ปล.ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ยี่ห้อใดๆทั้งสิน ผมก็ซื้อเค้ามาใช้เหมือนกัน ราคาปกติเท่าคนอื่น ไม่มีส่วนลด ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ผมซื้อทางไปรษณีย์ แล้วมาติดตั้งเอง
ตามนี้ครับ
http://www.ttgastech.com/
http://enginetempsensor.freetzi.com/
http://www.gasthai.com/boardsale/Question.asp?ID=11698
มีหลายยี่ห้อ หลายผู้ผลิต เลือกได้ตามอัธยาศัย ส่วนตัวผมใช้ ของ ttgastech ราคา1200บาท
วิธีติดตั้ง ตามนี้ครับ
1.ไฟบวกต่อจากหลังสวิทซ์กุญแจ กับกราวด์
2. หาจุดติดตั้ง จุดที่ดีที่สุดคือ บริเวณเสื้อสูบ หารูน๊อตที่ว่างๆอยู่แล้วเอาหางปลาซึ่งมีเซนเซอร์วัดอุณหภูมิติดอยู่ ยึดน๊อดเลยครับเป็นอันเสร็จสิ้น
3.ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับระบบใดๆของรถยนต์ทั้งสิ้น เอามาแค่ไฟที่ผ่านสวิทย์มาแล้วแค่นั้นเอง
ถามว่าทำไมต้องติด
ตอบ : ไม่ติดก็ได้ ไม่เป็นไรเพราะที่หน้าปัดก็มีแล้ว
ถามว่าติดแล้วได้ประโยชน์อะไร
ตอบ : ประโยชน์ คือก่อนเครื่องจะร้อนจัดกล่องนี้มันจะร้องเตือนเราก่อนให้เข้าข้างทางและหาสาเหตูก่อนเครื่องจะร้อนจัด (สามารถตั้งให้ร้องเตือนที่กี่องศาก็ได้)
ถามว่าอันตรายกับระบบไฟฟ้ามั้ย
ตอบ : ไม่อันตรายเพราะไม่ได้พ่วงอะไรเลย แค่สายไฟที่ผ่านสวิทย์แล้วเส้นเดียว ซึ่งเอาจากไหนก็ได้ จากวิทยุก็ได้
^^^^^^^ใช้แล้วใช้ดีจึงบอกต่อครับ^^^^^^^
-
อ่านอุณหภูมิเป็นตัวเลข (ดิจิตอล) ตอนนี้ดับเครื่องไปประมาณ 2 ชม. อุณหภูมิยังอยู่ที่ 56 องศา
ผมติดไว้ในเก๊ะข้างเข่าขวา เพราะไม่อยากมอง เอาแอบไว้ในเก๊ะ นานๆหยิบออกมาดูที ถ้าความร้อนเกินมันจะร้องเอง
-
ผมเลือกของ ttgastech ราคา1200บาท
เพราะขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก รับประกัน 5 ปี
-
จุดที่ผมเลือกติดตั้ง เพราะมุดหาจุดอื่นไม่ได้แล้ว มันแน่นเหลือเกิน แต่จุดนี้ก็ใช้ได้นะ
-
อีกรูป
-
จุดที่เอาสายออกมาคือจุดนี้ครับ หลัง หม้อลมเบรคจะมีชุดสายไฟออกมาแล้วมียางปิดอยู่ ผมเอาไม้แขวนเสื้อดัดให้ตรง แล้วแทงนำเข้าไปเลยครับ แล้วเอาสายจากตัวเซ็นเซอร์พันผ้าเทป ยัดตามเข้าไปเรียบร้อย
ส่วนสายไฟที่ผ่านสวิทย์ มีอยู่ใต้พวงมาลัยครับ เส้นไหนจำไม่ได้แล้วลองหาดู ส่วนกราวน์ก็เอาลงตัวถังรถแถวๆนั้น
-
เซ็นเซอร์หน้าตาแบบนี้ครับ
หางปลาไว้ยึดติดกับเหล็ก บริเวณสื้อสูบ
-
ขอบคุณครับ มีประโยชน์มากทีเดียว
เดียวไปหามาติดบ้างดีกว่า
-
ติดเถอะคุ้ม 1200 บาท กับการเสี่ยงต่อเครื่องฮีทโดยไม่รู้ตัว
แต่ไม่ใช่ติดแล้วเครื่องจะไม่ร้อน จะไม่ฮีทนะครับ
แต่ถ้ามันร้อนเกิน ก่อนจะฮีท มันจะเตือนเราก่อน ให้เราจอดก่อนจะพัง
แล้วไปหาปัญหาให้เจอ
ใช้แล้ว ใช้ดีจึงบอกต่อ ใช้มาหลายปีแล้ว ทุกคันที่บ้านใช้หมด ถึงแม้วันใดซื้อป้ายแดงอีกซักคันก็จะติดอีก
-
อยากเห็นภาพที่ติดตั้งตัวบอกอุณหภูมิใน E46 จังเลยครับ ว่าเอาไปวางไว้ตรงไหนของคอนโซล
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
-
อยากเห็นภาพที่ติดตั้งตัวบอกอุณหภูมิใน E46 จังเลยครับ ว่าเอาไปวางไว้ตรงไหนของคอนโซล
ตอบ : ลองนึกภาพนะว่าในคอนโทรลด้านขวาใต้พวงมาลัย ผมเอาวางไว้เฉยๆ สายยาวหน่อย หยิบขึ้นมาดูได้ ดูเสร็จเอาเก็บไว้ในนั้น ไม่อยากเอามาติดข้างบนให้เกะกะสายตา (แต่ต้องเจาะรูนิดนึงนะเอาสายไฟเข้า)
-
ใครใช้แล้ว ใช้ดีช่วยบอกต่อๆกันหน่อย
ส่วนใครใช้แล้ว ไม่ได้ผลหรือเกิดปัญหาไร
ช่วยคอมเม้นหน่อย ส่วนตัวผมใช้แล้วมีแต่ข้อดียังไม่เจอข้อเสีย
-
สั่งมาใช้แล้วเมื่อวานพอดีได้คุยกับพี่เขาเรื่องพัดลมเสีย มันเสียที่กล่องควบคุม speed
ตรงตูดพัดลม พี่เขาเลยจะส่งตัวควบคุม speed มาให้ลองใช้ดูถ้าใช้ได้ดียังไงจะมาบอก
ต่อ (เสียดายพัดลมเสียจุดเดียวเปลียนทั้งตัว)
-
ใครใช้แล้ว ใช้ดีช่วยบอกต่อๆกันหน่อย
ส่วนใครใช้แล้ว ไม่ได้ผลหรือเกิดปัญหาไร
ช่วยคอมเม้นหน่อย ส่วนตัวผมใช้แล้วมีแต่ข้อดียังไม่เจอข้อเสีย
พี่ใช้แล้วพี่ต่อ sensor ตัวแรกตรงท่อน้ำพี่ต่อตรงจุดไหน
แล้ว sensor หางปลาพี่แปะไว้ตรงไหน ช่วยเล่าสุ๋กันฟังครับ
-
ติด water temp จะเหมือนกันมั้ยอะครับ ถ้าเกินก็ปี๊ดดดดดด ดังสนั่นลั่นรถ แต่ความจิตจะเกิดทันทีเพราะขับไปก็มองอุณหภูมิไป เสียวไปทุกครั้ง แต่สวยดี 55
-
ตอบคุณ : e46m43
ของผม เครื่อง 6 สูบ ติดตรงหน้าเครื่องเลยครับ (ตามรูป) ถ้า4สูบ ลองมุดๆดูว่ามีรูน๊อตเหลือซักรูมั้ยถ้ามีก็ใส่เลย
ผมเลือกใช้ตัวหางปลาอันเดียวครับ (ส่วนตัวคิดว่าหางปลาตัวเดียวก็เกินพอ เพราะระบบเดิมของรถก็ยังอยู่ครบ เราแค่เสริมให้มันร้องเตือนเฉยๆ)
-
ตอบคุณ : BMWRed
ให้มันร้องปี๊ดแล้ว ต้องมองเข็มน่ะดีแล้ว ดีกว่าไม่ได้มองเข็มเลยรู้ตัวอีกที เครื่องดับซะแระ
-
ของผมก็ติดไปแล้วหลังจากน้ำมันเครื่องเต็มหม้อน้ำ
-
ผมกำลังติดแต่ติดตรงที่ไม่รู้ว่าสายสวิทช์กุญแจ ใต้พวงมาลัยสีอะไรช่วยบอกหน่อยคับ ทุกอย่างต่อเสร็จแล้ว
-
คุณ : nara รุ่นที่ติดนี่ ถ้าน้ำมันเครื่องเข้าไปในหม้อน้ำมันเตือนมั้ยครับ หมายถึง แค่มีน้ำมันรั่วเข้าไปแต่ความร้อนยังไม่ขึ้นนะครับ (แต่เท่าที่รู้รุ่นที่คุณติดน่ะ แค่น้ำพร่องมันก็เตือนแล้วนะไม่ต้องรอให้ร้อน)
คุณ : e46m43 เดี๋ยวผมจะไปรื้อดูก่อนนะเดี๋ยวมาตอบให้ (ของผมใช้สายเส้นเดียวกับที่อู่ติดแก๊สเอามาใช้ครับ)
-
คุณ : nara รุ่นที่ติดนี่ ถ้าน้ำมันเครื่องเข้าไปในหม้อน้ำมันเตือนมั้ยครับ หมายถึง แค่มีน้ำมันรั่วเข้าไปแต่ความร้อนยังไม่ขึ้นนะครับ (แต่เท่าที่รู้รุ่นที่คุณติดน่ะ แค่น้ำพร่องมันก็เตือนแล้วนะไม่ต้องรอให้ร้อน)
คุณ : e46m43 เดี๋ยวผมจะไปรื้อดูก่อนนะเดี๋ยวมาตอบให้ (ของผมใช้สายเส้นเดียวกับที่อู่ติดแก๊สเอามาใช้ครับ)
ขอบคุณคับ
-
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมเอาไว้ดูความร้อนของน้ำกับเครื่อยนต์ ว่ามันสัมพันธ์กันไหม และดูไฟด้วย
-
มาแล้วครับสายไฟที่ผ่านสวิทช์กุญแจ ใต้พวงมาลัย
เส้นสีเขียวครับ เส้นใหญ่เลย ไม่ต้องตัดนะ ปอกสายแล้วเอาสายไฟพันได้เลย
ถ้าให้ดีซื้อกล่องฟิวมาใส่หน่อยก็ดีนะครับ
-
ของผมติดไว้ในนี้ครับ
-
สายยาวหน่อย
-
ขอบคุณอย่างแรงคับ
-
ของผมติดไว้ในนี้ครับ
ขอถามหน่อยคับว่า ใช้โคยรวมๆวัดน้ำร้อนท่อบนใด้เท่าไรคับ
แล้วที่ตัวเครื่องวัดได้เท่าไรครับ
-
ขอท้าวความนิดนึงครับ
ได้รถมือสองมาคันนึง ประมาณปีที่แล้ว
ก็จัดการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ (จุดที่ติด ณ.ปัจจุบันนี่แหละ)
วัดอุณหภูมิ ตอนวิ่ง ได้ ประมาณ 92-99 องศาเซลเซียส
แต่ถ้าวิ่งมาแล้วจอดแป๊บนึง อุณภูมิ ขึ้นมาที่ ประมาณ 103-104 องศา (เข็มที่หน้าปัดปรกติ)
แต่พอรถวิ่งไปอุณหภูมิก็ลงมาที่ 92- 99 (ตอนนั้นคิดว่ามันปรกติ ยังไม่รู้ว่ามันเริ่มผิดปรกติแล้ว)
ใช้ไปเกือบปี จนกระทั่ง อยู่มาวันหนึ่ง รถติดมาก อุณหภูมิ ขึ้นไปถึง 107 (เข็มที่หน้าปัดเริ่มกระดิกนิดนึง)
ร้องลั่นรถตั้งแต่ 100 องศาแล้วเพราะตั้งเตือนไว้ที่ 100
แต่ถ้ารถไหลไปได้ อุณหภูมิก็ลง มาที่มันเคยเป็น คือ ไม่เกิน 99
เลยเริ่มคิดว่ารถเราน่าจะผิดปรกติแล้วเพราะเข็มความร้อนเริ่มกระดิก (ทีแรกนึกว่า ความร้อนสะสมให้ห้องเครื่องรถยุโรปมันสูงแบบนี้ )
ก็เลยเริ่มหาสาเหตุ ด้วยความสงสัย ก็เลยคิดว่า ไม่วาล์วน้ำก็ฟรีปั๊มพัดลมหม้อน้ำ (ของผม 323 เครื่อง6สูบ)
ไปที่อู่ลองหมุนพัดลมของคันอื่นดู(รถคนอื่นที่เอามาซ่อม)
ปรากฏว่า เฮ้ยทำไม ฟรีปั้มเรามันไม่ค่อยหนืดเหมือนชาวบ้านเค้าหว่า
สรุปตัดสินใจเปลี่ยน ฟรีปั๊ม สามพันกว่าบาท
ไหนๆก็ถอดแล้ว เปลี่ยนวาล์วน้ำซะด้วยเลย ราคาจำไม่ได้แระ
เชื่อหรือไม่ว่าหลังจากเปลี่ยนฟรีปั้มพัดลม กับ วาล์วน้ำ อุณหภูมิที่โชว์ ไม่เคยเกิน 90 เลย (อยู่ประมาณ 82-88 องศา)
ไม่ว่าอากาศจะร้อนขนาดไหน รถจะติดขนาดไหน
สรุปว่า : เครื่องวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ ไม่ได้ช่วยให้เครื่องเย็นลง แต่มันช่วยเตือนให้เรารู้ว่าเครื่องคุณเริ่มผิดปรกติแล้วนะ ให้ไปหาสาเหตุให้เจอ
ที่คุณถามว่าโดยรวมวัดอุณหภูมิได้เท่าไหร่ : วัดได้ประมาณ 82- 88 องศาเซลเซียสครับ
-
ขอท้าวความนิดนึงครับ
ได้รถมือสองมาคันนึง ประมาณปีที่แล้ว
ก็จัดการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ (จุดที่ติด ณ.ปัจจุบันนี่แหละ)
วัดอุณหภูมิ ตอนวิ่ง ได้ ประมาณ 92-99 องศาเซลเซียส
แต่ถ้าวิ่งมาแล้วจอดแป๊บนึง อุณภูมิ ขึ้นมาที่ ประมาณ 103-104 องศา (เข็มที่หน้าปัดปรกติ)
แต่พอรถวิ่งไปอุณหภูมิก็ลงมาที่ 92- 99 (ตอนนั้นคิดว่ามันปรกติ ยังไม่รู้ว่ามันเริ่มผิดปรกติแล้ว)
ใช้ไปเกือบปี จนกระทั่ง อยู่มาวันหนึ่ง รถติดมาก อุณหภูมิ ขึ้นไปถึง 107 (เข็มที่หน้าปัดเริ่มกระดิกนิดนึง)
ร้องลั่นรถตั้งแต่ 100 องศาแล้วเพราะตั้งเตือนไว้ที่ 100
แต่ถ้ารถไหลไปได้ อุณหภูมิก็ลง มาที่มันเคยเป็น คือ ไม่เกิน 99
เลยเริ่มคิดว่ารถเราน่าจะผิดปรกติแล้วเพราะเข็มความร้อนเริ่มกระดิก (ทีแรกนึกว่า ความร้อนสะสมให้ห้องเครื่องรถยุโรปมันสูงแบบนี้ )
ก็เลยเริ่มหาสาเหตุ ด้วยความสงสัย ก็เลยคิดว่า ไม่วาล์วน้ำก็ฟรีปั๊มพัดลมหม้อน้ำ (ของผม 323 เครื่อง6สูบ)
ไปที่อู่ลองหมุนพัดลมของคันอื่นดู(รถคนอื่นที่เอามาซ่อม)
ปรากฏว่า เฮ้ยทำไม ฟรีปั้มเรามันไม่ค่อยหนืดเหมือนชาวบ้านเค้าหว่า
สรุปตัดสินใจเปลี่ยน ฟรีปั๊ม สามพันกว่าบาท
ไหนๆก็ถอดแล้ว เปลี่ยนวาล์วน้ำซะด้วยเลย ราคาจำไม่ได้แระ
เชื่อหรือไม่ว่าหลังจากเปลี่ยนฟรีปั้มพัดลม กับ วาล์วน้ำ อุณหภูมิที่โชว์ ไม่เคยเกิน 90 เลย (อยู่ประมาณ 82-88 องศา)
ไม่ว่าอากาศจะร้อนขนาดไหน รถจะติดขนาดไหน
สรุปว่า : เครื่องวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ ไม่ได้ช่วยให้เครื่องเย็นลง แต่มันช่วยเตือนให้เรารู้ว่าเครื่องคุณเริ่มผิดปรกติแล้วนะ ให้ไปหาสาเหตุให้เจอ
ที่คุณถามว่าโดยรวมวัดอุณหภูมิได้เท่าไหร่ : วัดได้ประมาณ 82- 88 องศาเซลเซียสครับ
ขอบคุณคับสำหรับข้อมูล
-
up-ข้อมูลดีๆ อยากให้ใช้กัน
-
up ครับเห็นมีมือใหม่เข้ามาแยอะ เผื่อเป็นประโยชน์
-
ผมเอา water temp gauge มาติดได้ไหมครับ
แล้วผมจะหา sensor หางปลาได้ที่ไหน ขอบคุณครับ
-
ต้องขอภัย ที่ผมไม่รู้จัก water temp gauge มันคืออะไรครับ
มันคือ เกจ ตัวกลมๆที่วัยรุ่นชอบติดกันหรือปล่าว ถ้าใช่ แล้วเค้าเอาสัญญาณมาจากไหน ก็คงต้องเป็นสัณญาณที่เดียวกัน
แต่ เครื่องวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ ที่ผมแนะนำนี่ จุดประสงค์ไม่ได้ติดให้สวยงาม ผมติดซ่อนไว้ในเก๊ะด้วยซ้ำ
แต่ประโยชน์คือ ถ้าอุณหภูมิ เกินที่ตั้งไว้ มันจะร้องเตือน และสามารถเอาสัณญาณไปคอนโทรล รีเลย์ ควบคุมอุปกรณ์ตัวอื่นได้อีกถ้าต้องการ
และสิ่งที่ได้เพิ่มมาอีกอย่าง ถ้าไฟแบตต่ำกว่า 11 โวทล์ ก็จะร้องเตือน หรือสูงกว่า 14 โวทล์ก็จะร้องเตือนเช่นกัน
จริงๆแล้วมันไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย แต่มันจะช่วยเตือนให้เรารู้ตัวก่อนเครื่องจะฮีท ให้เรานำรถเข้าข้างทาง แล้วเรียกรถยกมายกกลับบ้าน แทนที่เครื่องจะฮีท ดับคาเท้า
-
ต้องขอภัย ที่ผมไม่รู้จัก water temp gauge มันคืออะไรครับ
มันคือ เกจ ตัวกลมๆที่วัยรุ่นชอบติดกันหรือปล่าว ถ้าใช่ แล้วเค้าเอาสัญญาณมาจากไหน ก็คงต้องเป็นสัณญาณที่เดียวกัน
แต่ เครื่องวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ ที่ผมแนะนำนี่ จุดประสงค์ไม่ได้ติดให้สวยงาม ผมติดซ่อนไว้ในเก๊ะด้วยซ้ำ
แต่ประโยชน์คือ ถ้าอุณหภูมิ เกินที่ตั้งไว้ มันจะร้องเตือน และสามารถเอาสัณญาณไปคอนโทรล รีเลย์ ควบคุมอุปกรณ์ตัวอื่นได้อีกถ้าต้องการ
และสิ่งที่ได้เพิ่มมาอีกอย่าง ถ้าไฟแบตต่ำกว่า 11 โวทล์ ก็จะร้องเตือน หรือสูงกว่า 14 โวทล์ก็จะร้องเตือนเช่นกัน
จริงๆแล้วมันไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย แต่มันจะช่วยเตือนให้เรารู้ตัวก่อนเครื่องจะฮีท ให้เรานำรถเข้าข้างทาง แล้วเรียกรถยกมายกกลับบ้าน แทนที่เครื่องจะฮีท ดับคาเท้า
ต้องขออรบกวนอีกครั้งครับ water temp gauge มันคือ gauge กลม ๆ ที่ตามที่คุณ kosit_w กล่าวมาครับ
sensor มันจะทำงานคล้าย ๆ กับ ตัววัดอุณภูิมทั่วไป ผมเลยคิดว่าจะเอามาดัดแปลงใส่น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
เพราะไม่อยากยุ่งกับระบบหล่อเย็นเดียวจะงานเข้า ยังไงขอบคุณมากครับ
-
แต่ที่ผมแนะนำนี่ ไม่ได้ยุ่งกับระบบหล่อเย็นของรถเลยนะครับ
ระบบหล่อเย็นของรถทุกอย่างทำงานปรกติ ไม่ตัดไม่ต่อไม่เสริมใดๆทั้งสิ้น
ที่เพิ่มเข้าไปแค่เซ็นเซอร์หางปลาตัวเดียวที่เอาไปยึดน๊อตกับตรงไหนก็ได้ (แนะนำใกล้ๆเสื้อสูบ)
แล้วก็เอาไฟ+12โวทย์ ที่ผ่านสวิทย์กุญแจแล้ว เค้าเรียกไฟ ACC (เอาจากสายไฟที่เข้าวิทยุก็ได้)
ไม่ได้ตัดต่อท่อน้ำ ไม่ได้ตัดต่อระบบหล่อเย็น ทั้งสองระบบต่างคนต่างทำงาน ไปพร้อมๆกัน
ระบบหล่อเย็นของรถเดิม มันไม่มีเสียงเตือนตอนมันใกล้จะฮีท
แต่เครื่องวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ ที่ติดเพิ่ม มันจะร้องเตือนเมื่อ อุณหภูมิถึงค่าที่เราตั้ง ตั้งได้ตั้งแต่ 50 ถึง 120 องศาเลย
วิธีทดสอบว่ายังทำงานมั้ยก็ ตั้งซัก 50 องศาลองดู พออุณหถูมิถึงมันก็จะร้องเตือน
ตอนใช้งานปรกติแนะนำให้ตั้ง 95 องศา
-
ขอบคุณครับพี่สำหรับข้อมูลและเครื่องเตือนดีๆแบบนี้ >:D >:D >:D ถ้ามีตังจะต้องมาหาใช้บ้างซะละ คิคิ