BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => DIY & FAQs => ข้อความที่เริ่มโดย: min ที่ ธันวาคม 13, 2012, 00:51:02
-
รูปร่างหน้าตา และความแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ? ขอบพระคุณครับ
-
เครื่องยนต์ N42 กับ N46 โดยรูปร่างภายนอกเหมือนกันทุกอย่าง
สังเกตุ ตัวเลขเล็กๆ เหนือ sensor หน้าเครื่อง จะมีบอกว่า N42 หรือ N46
N46 เป็นเครื่องยนต์ที่พัฒนาต่อมาจาก N42 มีหลายจุดที่ออกแบบใหม๋(โดยคร่าวๆ)
ที่เสื้อสูบ ทำช่องเดินของน้ำมันเครื่องใหม่(น่าจะแก้ปัญหาที่ทำให้เกิดควันขาว น้ำมันเครื่องหาย)
ฝาสูบ ออกแบบ พวกช่องทางเดินน้ำมันเครื่องใหม่
ออกแบบ น๊อตยึดฝาสูบใหม่ ของเดิม ยืดง่าย เปิดฝาสูบที่ ต้องเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง
ออกแบบ ปะเก็นฝา ซีลต่างๆ ที่ทำให้น้ำมันเครื่องซึมได้
คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ครับ
เครื่อง N42 กับ N46 สามารถใช้แทนกันได้ 100 % คือเครื่องเปล่า(ชอร์ตบ๊อก)
โดยใช้ เซนเซอร์ และอุปกรณ์ของเดิม ย้ายมาแทนกันหมด
ส่วนที่แตกต่างกัน ของกล่อง ควบคุมนั้น N46 ได้รวมกล่องควบคุมวาล์วโทรนิค มารวมไว้ในกล่อง ECU ที่เดียว
นอกนั้นก็จะคล้ายๆกันครับ
(http://upicy.com/image-6100_50C8E59D.jpg) (http://upicy.com/share-6100_50C8E59D.html)
-
ถ้าดูจากภายนอกเครื่อง เฉพาะ E46 ให้มองไปทางขวาของเครื่อง(หันหน้าเข้ารถ จะคือทางซ้าย) จะเห็นกระปุกโลหะอลูมิเนียม กลม ๆ ทรงกระบอกมีหัวแบน ถ้าเป็น N46 จะไม่มีครับ และก็ไม่มีแอร์ปั๊มที่ด้านหน้าขวาของเครือ่งด้วย (หันหน้าเข้ารถ อยู่ซ้ายมือหลังพัดลม)
ถ้ามุดไปใต้ท้องเครื่องN46จะเห็นว่า ตำแหน่ง Catalytic converter จะชิดมากับเครื่องไม่ห่างไปกลางรถเหมือน N42
นอกนั้นความแตกต่างยากที่จะดูจากภายนอก เพราะที่เปลี่ยนภายในเยอะกว่า
รวม ๆความแตกต่างสำคัญ มีดังนี้
1. Chain Guide จากพลาสติกเป็นโลหะ
2. Chain Tensioner มีขนาด รูปร่าง และวัสดุเปลี่ยนไป
3. กล่อง ECU (DME) ของ N46 คุมทั้ง เครื่องและชุดวาล์วโทรนิคเลย ไม่แยกเหมือน N42
4. วัสดุSeal ตำแหน่งต่าง ๆ เปลี่ยนไป ใน N46 จะทนน้ำมันครื่องเกรดต่ำ ๆ อย่าง Castrol ได้ดีกว่า
5. วัสดุของสกรูเปลี่ยนในหลาย ๆตำแหน่ง
6. ไม่มี Secondary air system (ย้ำว่าเฉพาะ E46 ในไทยเท่านั้นครับ ถ้าเอาเครื่องต่างประเทศมาลงกรุณาดูให้ดีก่อนว่าเอาตัวไหนมา )
ถ้ามองแค่ห้องเครื่อง เอาภาพไปดูจับผิดกันเองครับ
รูปอีกรูปจาก Realoem คือชิ้นส่วนที่หายไปใน N46 ครับ ทั้งหมดนั่นจะไม่มีแล้ว
-
ขอเพิ่มนิดนึงครับ....
e46 N42 บางคันก็ไม่มี Secondary air system ครับ
รุ่นนี้ จะใช้ O2 sensor 2 ตัว และกล่อง ECU จะมีระหัสตัวเลข 007
ส่วน e46 N42 รุ่นที่มี Secondary air system จะมี
O2 sensor 4 ตัว และกล่อง ECU จะมีระหัสตัวเลข 005
รถผมคันใหม่ ก็ไม่มีSecondary air system ครับ
-
แสดงว่าเป็น N42
(http://upicy.com/image-E3CE_50C94FAF.jpg) (http://upicy.com/share-E3CE_50C94FAF.html)
คันผมไม่มี Secondary air system
(http://upicy.com/image-041B_50C94FAF.jpg) (http://upicy.com/share-041B_50C94FAF.html)
-
พี่สมชายครับ ขอเรียนสอบถาม รถคันนี้วิ่งมาเยอะไหมครับ ปีอะไร เป็น SE ไหมครับ :-X
-
สวัสดีครับคุณ Krisada511
รถคันนี้ ปี 2004 รุ่นธรรมดา วิ่งมา 175,000 กม. ครับ
รถยังไม่ได้ล้างครับ
-
แสดงว่าเป็น N42
(http://upicy.com/image-E3CE_50C94FAF.jpg) (http://upicy.com/share-E3CE_50C94FAF.html)
คันผมไม่มี Secondary air system
(http://upicy.com/image-041B_50C94FAF.jpg) (http://upicy.com/share-041B_50C94FAF.html)
เป็นเครื่องเดิมกับรถรึเปล่าครับ ? มันเหมือนพวกหัวตัด หรือ รถนำเข้าเลย ปี 2004 แบบนี้มีน้อยคันมากนะครับ เพิ่งเคยเห็นตัวเป็น ๆ เคยแต่อ่านเจอในสเปคนอก
-
สวัสดีครับ
คันนี้เดิมๆครับ ผมเห็นมาหลายคันแล้วครับ
แต่มีน้อยกว่ารุ่นที่มี Secondary air pump ครับ
รุ่นที่เป็นหัวตัด ส่วนมาก ภายในจะเป็นสีดำ เช่น ผ้าบุหลังคา ฯลฯ ครับ
-
อ้อ ผมเห็น VIN รถและเลขเครื่องแล้ว
จริง ๆ รถคันนี้มี ที่ดักไอเสีย แต่ถูกตัดออกไปเองครับ
จะตัดไปด้วยใครผมก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ มันมีครับ ถ้าBlock ใหม่ ปี 2004 จริง ๆ จะไม่มีรูนั่นแล้ว
-
อ้อ ผมเห็น VIN รถและเลขเครื่องแล้ว
จริง ๆ รถคันนี้มี ที่ดักไอเสีย แต่ถูกตัดออกไปเองครับ
จะตัดไปด้วยใครผมก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ มันมีครับ ถ้าBlock ใหม่ ปี 2004 จริง ๆ จะไม่มีรูนั่นแล้ว
ผมสอบถาม อ.นิพนธ์แล้ว แกอธิบายดังนี้ครับ
รถรุ่นนี้ ไม่มี Secondary Air Pump และใช้ O2 sensor 2 ตัว และต้องกล่อง ECU ระหัส 007
ทั้งหมดทำมาจากโรงงาน BMW ครับ ในเมืองไทยมีหลายคันครับ
-
อ้อ ผมเห็น VIN รถและเลขเครื่องแล้ว
จริง ๆ รถคันนี้มี ที่ดักไอเสีย แต่ถูกตัดออกไปเองครับ
จะตัดไปด้วยใครผมก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ มันมีครับ ถ้าBlock ใหม่ ปี 2004 จริง ๆ จะไม่มีรูนั่นแล้ว
ผมสอบถาม อ.นิพนธ์แล้ว แกอธิบายดังนี้ครับ
รถรุ่นนี้ ไม่มี Secondary Air Pump และใช้ O2 sensor 2 ตัว และต้องกล่อง ECU ระหัส 007
ทั้งหมดทำมาจากโรงงาน BMW ครับ ในเมืองไทยมีหลายคันครับ
อ๋อครับ เป็นไปได้ครับ เพราะถ้าเอาจริง ๆ ตามเสปคเครื่อง 2002 มันมีครับ และของคุณ Somchai ตัวนี้ก็คือปี 2002 ไม่ใช่ 2004 เมืองไทยถูกตัดออกไปด้วย BMW ไม่ได้ใช้ให้มันผ่าน EURO 4 ตอนอากาศเย็นครับ แค่โปรแกรมกล่องนิดเดียว
ถ้าเป็นBLOCK ที่ผลิต 2004 ไม่มีรูนั่นแล้ว
-
(http://www.e46thailand.com/index.php?action=dlattach;topic=7804.0;attach=8615;image)
จากรูปนี้รูปบนคือ N46 ใช่ไหมครับ พอดีเมื่อกี้เลยไปเปิดรถตัวเองดูมันเหมือนรูปบนเลย ( แอบเข้าใจว่าใช้ N42 อยู่นานแล้ว ) :-\
-
สงสัยวิธีผมคงใช้ดูไม่ได้แล้ว เพราะรถประกอบไทย ถอดออกหมด ดูรหัสบนเครื่องน่าจะตรงประเด็นกว่าครับ หรือไม่ก็รื้อดูชุดไทมมิ่ง
-
ท่าN46เลขตัวถ้งจะขึ้นด้วยJR
มีใครวนใจมั่ย ผมกำลังจะขาย e46 n46 คันที่ใช้อยู่
-
ได้รับความรู้มากโขอยู่ แต่ก็ขอสงสัยต่อว่า...N42 กับ N46 ตัวไหนน่าใช้กว่ากัน ในทุก ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการดูแลบำรุงรักษา สมรรถภาพต่าง ๆ พอจะช่วยอนุเคราะห์เพิ่มได้มั๋ยครับ? ขอบพระคุณครับ
-
มีใครเคยเปลี่ยนเครื่องจาก N42 เป็น N46 (ชอร์ตบ๊อก) บ้างครับ อยากได้ความรู้อยากเปลี่ยนครับ
-
สวัสดีครับ ผมลงเครื่อง(ช๊อตบล็อต) N46 มา พอดีจะแจ้งเปลี่ยนเลขเครื่องกับขนส่ง แต่สงสัยว่าเลขเครื่องจะดูได้จากตรงไหนครับ (รู้ว่ามันดูยาก...) O0
-
สวัสดีครับ ผมลงเครื่อง(ช๊อตบล็อต) N46 มา พอดีจะแจ้งเปลี่ยนเลขเครื่องกับขนส่ง แต่สงสัยว่าเลขเครื่องจะดูได้จากตรงไหนครับ (รู้ว่ามันดูยาก...) O0
เลขเครื่อง n42 n46ดูไม่ยากนิครับ
เปิดฝาปิดหน้าเครื่องออก แล้วดูบริเวณ ใต้เซ็นเซอร์หน้าเครื่อง
จะเห็นตำแหน่งเลขเครื่องอยู่ บอกถึงว่าเป็นเครื่องn42หรือn46
และเลขเครื่องครับ
-
เลขเครื่อง n42 n46ดูไม่ยากนิครับ
เปิดฝาปิดหน้าเครื่องออก แล้วดูบริเวณ ใต้เซ็นเซอร์หน้าเครื่อง
จะเห็นตำแหน่งเลขเครื่องอยู่ บอกถึงว่าเป็นเครื่องn42หรือn46
และเลขเครื่องครับ
[/quote]
พี่สมนึกครับ
แอร์ปั๊มที่มีอยู่ใน n42 ถ้าแกะออกทิ้งแล้วปิดอุดรูที่บล๊อคเครื่อง
จะมีผลดีผลร้ายอะไรไหมครับ
เคยบอกผมนานล้ะ ลืมแล้ว
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
-
;)
-
???