[Krisada511]

คลิปเสียง มาฝากครับ 

ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

[sak_pk]

ขอบคุณที่รีวิวครับพี่ 

Ok ดูการติดตั้ง ต้องดัดท่อมาเชื่อมเพิ่ม ถือว่าค่าติดตั้ง 2 พัน รับได้ครับ 

ว่าแต่ตัวที่อยู่มุมบนนี่เป็นอะไรครับ ตอนแรกผมนึกว่าเป็นแคทอีกตัวซะอีก

[Krisada511]

ข้อดีของตัวนี้คืออะไรครับ ต่างจากcatเดิมอย่างไรครับ

Cat ตัน รถมันก็อึดลงครับ เปลี่ยนใหม่มันก็โล่งลื่นขับมันส์ และ ประหยัดน้ำมันครับ   

ขอเสริม คำอธิบาย จากคุณ Tom46

Hi Flow Cat ธรรมดาแรงม้า แรงบิด ก็ต้องเพิ่มอยู่นะครับ จากที่เคยดูตามที่เขาทดสอบนะครับรถที่ใส่ hi flow cat จะได้แรงเพิ่มขึ้นเท่ากับ รถที่เอาแคทออก แล้วทำท่อตรงนะครับ แต่ไม่ได้เป็นการเพิ่มแรงม้าของเครื่องนะครับ เพราะเป็นแรงม้าที่เครื่องเขามีอยู่แล้ว แต่มาอั้นอยู่ที่ แคท เดิมเท่านั้นครับ   
 

[Krisada511]

ขอบคุณที่รีวิวครับพี่ 

Ok ดูการติดตั้ง ต้องดัดท่อมาเชื่อมเพิ่ม ถือว่าค่าติดตั้ง 2 พัน รับได้ครับ 

ว่าแต่ตัวที่อยู่มุมบนนี่เป็นอะไรครับ ตอนแรกผมนึกว่าเป็นแคทอีกตัวซะอีก

หม้อพักครับ 

[sak_pk]

ขอบคุณที่รีวิวครับพี่ 

Ok ดูการติดตั้ง ต้องดัดท่อมาเชื่อมเพิ่ม ถือว่าค่าติดตั้ง 2 พัน รับได้ครับ 

ว่าแต่ตัวที่อยู่มุมบนนี่เป็นอะไรครับ ตอนแรกผมนึกว่าเป็นแคทอีกตัวซะอีก

หม้อพักครับ 

ขอบคุณครับพี่

[Chris]

พึ่งรู้ว่า แสนห้าต้องเปลี่ยนแคท
ราคาไม่แพงนะสำหรับผม
ได้รถมา ต้องเอาไปทำบ้างครับ

[Krisada511]

รูปกล่องชัดๆ

[Krisada511]

แคตตาไลติค คอนเวอร์เตอร์ (Catalytic Converter)  คืออะไร





เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ คุณคิดบ้างหรือเปล่าว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากการกระทำด้วยน้ำมือของคุณเองหรือคนใกล้ตัว ยกตัวอย่างง่ายๆ เรื่องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและรถยนต์เป็นอีกสิ่งที่มนุษย์เราสร้างขึ้น และมีใช้กันอย่างมากมายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวหรือรถยนต์สาธารณะก็ตาม บางคนไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ากำลังทำให้เกิดมลภาวะ

                มลภาวะที่เกิดจากรถยนต์นั้นมีผลสำรวจแล้วว่า มีอัตราการปล่อยสารพิษเข้าสู่อากาศมากเป็นอันดับหนึ่ง และรองลงมาเป็นสารพิษที่ออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยเหตุผลนี้ทางค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น และได้คิดค้นหาวิธีการเพื่อที่จะลดปริมาณสารพิษเหล่านี้ให้น้อยลงภายใต้การควบคุมดูแลขององค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

                แก๊สไอเสียที่ออกจากรถยนต์ นับเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษที่มีปริมาณมากที่สุด โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ที่มีการจราจรหนาแน่น โดยแก๊สไอเสียมลพิษก็ได้แก่ คาร์บอนมอน็อกไซด์ (CO)เป็นแก๊สที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมีอ๊อกซิเจนไม่เพียงพอขณะเกิดการเผาไหม้ แก๊สชนิดนี้เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตมากเพราะมันจะถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด ทำให้เลือดขาดอ๊อกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ถ้าสูดดมเข้าไปมากๆ จะทำให้สมองและระบบประสาทถูกทำลาย และอาจเสียชีวิตได้ภายในเวลาไม่กี่นาที

[Krisada511]

 ต่อมาคือ ไฮโดรคาร์บอนหรือ HC เกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ จะปนออกมากับแก๊สไอเสีย ไฮโดนคาร์บอนบางชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง ทำให้ระคายเคืองต่อจมูก ตา หลอดลม และปอดทำให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ

                ตัวร้ายอีกตัวหนึ่งคือ ไนโตรเจนอ๊อกไซด์ (NOx) เกิดจากไนโตรเจนทำปฏิกิริยากับอ็อกซิเจนที่อุณหูมิเผาไหม้สูงกว่า 1,800 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจและยังทำให้เกิดฝนกรด

                เมื่อทั่วโลกได้ประจักษ์กันเป็นอย่างดีว่าแก๊สไอเสียทั้ง 3 ชนิดนี้เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต จึงจำเป็นต้องหามาตรการมาควบคุม ในปี ค.ศ. 1960 รัฐแคริฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรกของโลกที่ได้ออกกฎหมายควบคุมแก๊สไอเสียอย่างเข้มงวดกวดขัน และในปี ค.ศ. 1995 ได้บังคับให้รถยนต์ที่ผลิตจากสหรัฐอเมริกาและรถนำเข้าทุกคันต้องผ่านการทดสอบและจากนั้นอีกไม่นานในยุโรปและญี่ปุ่นได้มีกฎหมายออกมามบังคับใช้เช่นกัน โดยใช้ตามมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นผู้ผลิตรถยนต์จึงได้คิดค้นประดิษฐ์อุปกรณ์ที่สามารถช่วยลดมลภาวะที่เรียกกันว่า “แคตตาไลติคคอนเวอร์เตอร์” (Catalytic Converter)ขึ้นมาใช้

[Krisada511]

ซึ่งในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน ไม่ว่าส่วนผสมหนา ส่วนผสมผิดปกติ (ส่วนผสมทางทฤษฎี) หรือส่วนผสมบาง จะมีแก๊สไอเสียออกมาทั้งสิ้น ทำอย่างไรจึงจะทำให้แก๊สไอเสียที่ออกมามีมลพิษน้อยลง จึงจำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์ที่เรียกกันว่า “แคตตาไลติคคอนเวอร์เตอร์” (Catalytic Converter) หรือเครื่องปรับสภาพแก๊สไอเสียเข้าไปในรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่กำจัดแก๊สไอเสีย (CO, HC และ NOx) ให้กลายเป็นแก๊สที่สะอาด (CO2, N2 และ H2O) ซึ่งติดตั้งอยู่ระหว่างท่อร่วมไอเสียกับหม้อพักไอเสีย

[Krisada511]

โครงสร้างภายในของแคตตาไลติคคอนเวอร์เตอร์





            ภายในแคตตาไลติคคอนเวอร์เตอร์ หรือเรียกสั้นๆว่า CAT นี้มีสาร PGM (Platinum Group Metal) ซึ่งได้แก่ พลาตินั่ม (Platinum)พาลาเดียม (Palladium)โรเดียม (Rhodium)และรูทีเนียม (Ruthenium) สารใดสารหนึ่งหรืออาจใช้สาร 2 ชนิดผสมกันก็ได้ แต่ที่นิยมใช้กันมากคือ พลาตินั่มผสมกับโรเดียม สารเหล่านี้จะเคลือบเป็นชั้นบางๆ อยู่ภายในผนังของช่องภายในรังผึ้งที่ทำด้วยเซรามิค เมื่อแก๊สไอเสียไหลผ่านสารเหล่านี้จะทำปฏิกิริยาทางเคมีเปลี่ยนเป็นคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ไอน้ำ และไนโตรเจน

[Krisada511]

แคตที่ใช้อยู่กับรถยนต์ในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นแบบ Three-way Catalytic ซึ่งมีระบบป้อนสัญญาณกลับ และใช้ร่วมกับตัวตรวจวัดอ๊อกซิเจน (Oxygen sensor) ซึ่งจะทำงานได้ดีที่สุดถ้าอุณหภูมิในตัวมันอยู่ระหว่าง 400-800 องศาเซลเซียสและอัตรส่วนผสมที่ใช้ในการเผาไหม้จะต้องใกล้เคียงกับอัตราส่วนผสมที่เหมาะสม (A/F Ratio คือที่ 14.7:1) มากที่สุด เพื่อที่จะรักษาให้ได้อัตราส่วนผสมนี้จึงจำเป็นต้องติดตั้งตัว Oxygen sensor (มีหลายชื่อเช่น Lambda Sensor บางค่ายรถก็เรียก Lambda Sond) ซึ่งก็คือ เซ็นเซอร์วัดปริมาณอ๊อกซิเจนที่ปะปนอยู่ในไอเสีย เพื่อทำหน้าที่ตรวจจับความหนาแน่นของอ๊อกซิเจน ซึ่งหลงเหลือจากการเผาไหม้นั้นเอง

[Krisada511]

หลักการทำงานของ Catalytic Converter คือ การผ่านไอเสียเข้าไปสัมผัสกับผิวโลหะที่มีคุณสมบัติเร่งปฏิกิริยาประเภท Reduction หรือ Oxidation โดยที่อุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิเผาไหม้ปกติ (300-600 องศาเซลเซียส) ตัวเร่งปฏิกิริยาก็จะเปลี่ยนสภาพของแก๊สพิษต่างๆ ให้ไม่เป็นพิษโดยกระบวนการ Reduction หรือ Oxidation ส่วนใหญ่โลหะที่ใช้ทำ Catalytic Converter ได้แก่ Platinum (Pt), Palladium (Pd), Rhodium (Rd), Ruthenium (Ru) โลหะเหล่านี้จะถูกนำมาใช้งานเป็นคู่ เช่น Pt/Rd หรือ Pd/Rd ซึ่งสัดส่วนระหว่างโลหะจะอยู่ประมาณ 5/1 และโลหะเร่งปฏิกิริยาจะถูกออกแบบให้มีโครงสร้างเป็นตะแกรงหรือเป็นรูพรุน เพื่อให้มีพื้นที่ผิวสัมผัสกับไอเสียมากที่สุด โดยแคตตาไลติคคอนเวอร์เตอร์นอกจากจะทำหน้าที่ฟอกไอเสียให้บรรเทาความเป็นพิษลง แล้วมันยังทำหน้าที่ลดเสียงดังของไอเสียลงได้อีกระดับหนึ่ง แต่รถยนต์ที่ติดตั้งแคตย่อมจะทำให้กำลังของเครื่องยนต์ลดลงไปบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ

[Krisada511]

แคตที่ใช้กับรถยนต์ในปัจจุบันมีอายุการใช้งานประมาณ 80,000 กม. *** เนื่องจากเครื่องยนต์เกือบทั้งหมดใช้อิเล็คทรอนิคส์เข้ามาควบคุมการทำงานทำให้เผาไหม้ดีขึ้น แคตตาไลติคก็เลยไม่ต้องทำงานหนักมากอายุการใช้งานจึงค่อนข้างจะยืนยาว ส่วนสำคัญที่ต้องทำงานร่วมกับแคตคือตัวตรวจวัดอ๊อกซิเจนถูกติดที่ท่อไอเสีย เพื่อตรวจวัดปริมาณอ๊อกซิเจนในไอเสียแล้วส่งสัญญาณกลับทำการควบคุมอัตราส่วนของอากาศและเชื้อเพลิงให้ใกล้เคียงกับค่าที่เหมาะสมนั้น หากตัวตรวจวัดอ๊อกซิเจนทำงานผิดปกติก็จะทำให้แคตมีประสิทธิภาพต่ำลงไปด้วย โดยปกติแล้วการตรวจสภาพรถประจำปีจะวัดค่า CO ถ้าค่า CO มากเกินปกติ แสดงว่าแคตของรถอาจหมดอายุการใช้งานแล้ว หรือจะตรวจตามความดันย้อนกลับ (Back Pressure) ของไอเสียดูก็จะทราบได้ แต่ถ้าผู้ขับขี่เอาใจใส่บำรุงรักษาเครื่องยนต์ได้ดี ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างสะอาด การเผาไหม้หมดจด จะทำให้แคตตาไลติคคอนเวอร์เตอร์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

*** รุ่นหลังๆได้เกินแสนกิโลเมตร ( Krisada511 ) **

[Krisada511]

ข้อควรระวังสำหรับรถที่ติดตั้งแคต

            หลีกเลี่ยงการติดเครื่องยนต์เดินเบานานๆ ไม่ว่าจะรอบต่ำหรือรอบสูง หลีกเลี่ยงการทดสอบประกายไฟแรงสูงหรือใช้เวลาการทดสอบให้น้อยที่สุด และก่อนทดสอบควรปลดปลั๊กขั้วต่อสายไฟออกจากหัวฉีด ไม่ควรใช้วิธีสตาร์ทเครื่องยนต์โดยวิธีเข็นติด ควรใช้วิธีพ่วงแบตเตอรี่จากรถคันอื่นแทน หลีกเลี่ยงการวัดกำลังอัดในกระบอกสูบนานๆ การทดสอบกำลังอัดควรกระทำโดยใช้เวลาน้อยที่สุดเช่นกันและก่อนวัดควรถอดปลั๊กขั้วต่อสายไฟออกจากหัวฉีดหรือปลั๊กขั้วต่อสายไฟออกจากจานจ่ายอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้หัวฉีดฉีดน้ำมันออกมาในขณะทดสอบ อย่าติดเครื่องยนต์เมื่อน้ำมันเชื้อเพลิงใกล้หมดถัง เพราะจะทำให้เครื่องยนต์เดินไม่เรียบหรือสะดุดเนื่องจากระดับน้ำมันเชื้อเพลิงในถังต่ำเกินไปทำให้การฉีดน้ำมันไม่สม่ำเสมอ การเผาไหม้จึงไม่หมดจด น้ำมันบางส่วนที่ยังไม่เกิดการเผาไหม้จะไหลเข้าไปเผาไหม้ในแคตทำให้ร้อนจัด และควรระวังอย่าให้ผิวนอกของแคตตาไลติคมีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ เช่น การพ่นกันสนิม

                เมื่อจอดรถก็ต้องระวังอย่าจอดรถบนกองวัสดุที่ติดไฟง่าย อย่างเช่น กองหญ้าแห้ง  กระดาษ เศษผ้า เพราะอาจทำให้ไฟไหม้รถยนต์ได้ ต้องระมัดระวังให้มาก อย่าขับรถออกไป ถ้าหากเครื่องยนต์เดินไม่เรียบหรือเครื่องยนต์ทำงานไม่ครบสูบ และไม่ควรเร่งเครื่องยนต์อย่างรุนแรงในขณะอุ่นเครื่องด้วย

[Krisada511]

การตรวจวัดค่า CO และ HC ของรถยนต์ที่วิ่งในประเทศไทยได้กำหนดไว้ดังนี้

                รถยนต์ที่จดทะเบียนหลังวันที่ 1 พฤษจิกายน พ.ศ. 2536 จะต้องมีค่า CO ไม่เกินร้อยละ 1.5 ค่า HC ไม่ 200 ส่วนใน 1,00,000 ส่วน สำหรับรถที่จดทะเบียนก่อน 1 พฤษจิกายน พ.ศ. 2536 จะมีค่า CO ได้ไม่เกินร้อยละ 4.5 และค่า HC ไม่เกิน 600 ส่วนใน 1,000,000 ส่วน

                แคตตาไลติคคอนเวอร์เตอร์ของใหม่มีราคาค่อนข้างแพง (กว่า 2 หมื่นขึ้น) จึงทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์มักไม่เปลี่ยน โดยบางรายช่างจะแนะนำว่าถอดออก อ้างว่า ถ้าใส่แล้วรถไม่ค่อยวิ่ง เพราะถ้าเป็นอย่างนี้หมดมลพิษของอากาศในบ้านเราก็นับวันมีแต่เพิ่มขึ้น ช่วยกันเถอะครับ เพื่อให้เรามีอากาศที่บริสุทธิ์หายใจกันต่อไป

[Jeeranapong B.]

7,500 บาท  ต้องแคะกระปุกเอาเลยทีเดียว ยางรถก็ยังขายไม่ออกเลย จะไปเปลี่ยนโช็คใหม่4ต้น

[Krisada511]

7,500 บาท  ต้องแคะกระปุกเอาเลยทีเดียว ยางรถก็ยังขายไม่ออกเลย จะไปเปลี่ยนโช็คใหม่4ต้น

ถ้าของเดิม เบิกศูนย์ 4 หมื่นกว่านะครับ แคะกระปุกเถอะ 

[Krisada511]

ลืมบอกไปผมไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ กับทางร้านนะครับ 

[Angel_dimple]

แคทตัวเดิม มันพอจะเทิร์นเป็นเงินได้บ้างไหมครับ เหมือนเคยได้ยินว่าน่าจะขายได้หลายอยู่ 

[Krisada511]

แคทตัวเดิม มันพอจะเทิร์นเป็นเงินได้บ้างไหมครับ เหมือนเคยได้ยินว่าน่าจะขายได้หลายอยู่ 

ผมก็ไม่ได้ถามที่ร้านครับ แต่เอากลับมา เห็นในเวปมีรับซื้อครับ

[Krisada511]

ตอนนี้สะสมไว้ 3 ลูกแล้ว รวมรถที่ขายไปแล้ว ของ Benz Bmw Opel  ไม่รู้ว่าเขารับซื้อเท่าไร ไว้มาแจ้งนะครับ 

[Angel_dimple]

ตอนนี้สะสมไว้ 3 ลูกแล้ว รวมรถที่ขายไปแล้ว ของ Benz Bmw Opel  ไม่รู้ว่าเขารับซื้อเท่าไร ไว้มาแจ้งนะครับ 

ขอบคุณครับพี่ 

ของผม 1.3 แสน อีกไม่นาน ได้ตามไปครับ 

[Krisada511]

ตอนนี้สะสมไว้ 3 ลูกแล้ว รวมรถที่ขายไปแล้ว ของ Benz Bmw Opel  ไม่รู้ว่าเขารับซื้อเท่าไร ไว้มาแจ้งนะครับ 

ขอบคุณครับพี่ 

ของผม 1.3 แสน อีกไม่นาน ได้ตามไปครับ 

เปลี่ยนก่อนก็ได้ครับ ไม่ต้องรอ วิ่งมาตั้งเยอะแล้ว 

[Krisada511]

ตัวอย่างที่รับซื้อครับ

ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน

[Krisada511]

แหมราคาดี 

รับซื้อและขาย ให้ราคาตามรุ่น เริ่มต้นที่ ชิ้นละ 1000 - 10,000 บาท

เศษผง ไส้ท่อแคท เบนซิน และ ดีเซล งานเชียงกง ก็ รับซื้อ.....คิดน้ำหนัก กิโลกรัมละ 500 - 4,000 บาท

[Fortis]

ผมโทรไป 2 ลูกรับพันต้นๆเองครับ

[Krisada511]

ผมโทรไป 2 ลูกรับพันต้นๆเองครับ

ลองดูเจ้าอื่นครับ ผมกลัวเขาเอาไปขายเป็นหมื่นมากกว่า บอกคนซื้อว่าตัดมาจากรถไมล์น้อย

[Fortis]

ผมโทรไป 2 ลูกรับพันต้นๆเองครับ

ลองดูเจ้าอื่นครับ ผมกลัวเขาเอาไปขายเป็นหมื่นมากกว่า บอกคนซื้อว่าตัดมาจากรถไมล์น้อย

เมื่อวาน โทรไป 4 เจ้าเรตราคานี้หมดครับ

ของผมกลับมากินน้ำมันในระดับปกติแล้วครับ ส่วนเรื่องเสียง เป็นปกติเหมือนเดิมครับพี่

[Krisada511]

ผมโทรไป 2 ลูกรับพันต้นๆเองครับ

ลองดูเจ้าอื่นครับ ผมกลัวเขาเอาไปขายเป็นหมื่นมากกว่า บอกคนซื้อว่าตัดมาจากรถไมล์น้อย

เมื่อวาน โทรไป 4 เจ้าเรตราคานี้หมดครับ

ของผมกลับมากินน้ำมันในระดับปกติแล้วครับ ส่วนเรื่องเสียง เป็นปกติเหมือนเดิมครับพี่

ยินดีด้วยครับ แต่ของผมเสียงกลับเบาลง ราว 20% คนที่บ้านยังทักเลย