BMW E46 Thailand
พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => พูดคุย สนทนาทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: rz_samurai ที่ กันยายน 28, 2012, 21:52:19
-
ตั้งศูนย์เยี่ยมมากพวงมาลัยตรงเลย
แล้วก็ให้แก้อาการท้ายโดด กับช่วงล่างแย่ๆไป
แต่ท้ายโดดไม่หายครับ
โดนจัดไป bil b6 พร้อมค่าใส่สปิงโหลดตั้ง ถ่วงล้อ หมดไป19000นิดๆ
แต่วิ่งดีขึ้นนุ่มหนึบขึ้น แต่วิ่งทางคอนกรีตก็ยังมีอาการท้ายโดด ลงพื้นดังปั๊ก!! ด้านหลังเหมือนเดิม แต่หน้าไม่เป็น จะต้องเปลี่ยนอะไรด้านหลังอีกหรือป่าวใครเคยเป็นอาการท้ายโดดแบบผมแชร์หน่อยครับอยากแก้ช่วงล่างให้จบ ตอนนี้เสียฟิลลิ่งbmw อยากมาก :(
-
ไม่ค่อยเข้าใจอาการครับ
-
ถ้าเปลี่ยนโช้คใหม่แล้วยังเป็นอยู่ ลองเช็คยางดูครับอาจจะเสื่อมสภาพก็เป็นได้
-
อาการแบบว่า วิ่งไปตกหลุมหรือทางขรุขละ ล้อหน้าจะไม่ดังล้อหลังจะลงแล้วดัง ตึ้ง!! ประมาณนั้น
จะเป็นไปได้ไหมเกี่ยวกันพวกบูช ลูกหมาก ของท่อนหลังอะไรประมาณนั้น
-
ตั้งศูนย์เยี่ยมมากพวงมาลัยตรงเลย
แล้วก็ให้แก้อาการท้ายโดด กับช่วงล่างแย่ๆไป
แต่ท้ายโดดไม่หายครับ
โดนจัดไป bil b6 พร้อมค่าใส่สปิงโหลดตั้ง ถ่วงล้อ หมดไป19000นิดๆ
แต่วิ่งดีขึ้นนุ่มหนึบขึ้น แต่วิ่งทางคอนกรีตก็ยังมีอาการท้ายโดด ลงพื้นดังปั๊ก!! ด้านหลังเหมือนเดิม แต่หน้าไม่เป็น จะต้องเปลี่ยนอะไรด้านหลังอีกหรือป่าวใครเคยเป็นอาการท้ายโดดแบบผมแชร์หน่อยครับอยากแก้ช่วงล่างให้จบ ตอนนี้เสียฟิลลิ่งbmw อยากมาก :(
ต้องตัดลูกยางกันกระแทก ที่ตัวโช้คครับ ลูกยางมันยันกันครับ แค่ตัดให้มันมีช่วงยุบก็จบแล้วครับ :-*
-
แล้วท่านอื่นตัดกันหมดเลยเหรอถึงไม่มีใครเป็นหรือผมเป็นคนเดียวเนี่ย :o
-
แล้วท่านอื่นตัดกันหมดเลยเหรอถึงไม่มีใครเป็นหรือผมเป็นคนเดียวเนี่ย :o
ถ้ารถเดิมไม่ต้องตัดครับ แต่ถ้ารถที่โหลดแล้วต้องตัดครับ ไม่งั้นช่วงยุบรถมันจะไม่มีครับ เลยทำให้รถกระโดดนะครับ
-
ถ้าโหลดก็ควรเอาออกใช่ไหม...คราวหน้าถอดจะได้เอาออกบ้าง
-
ก็บางพลัดเขาเก่งตั้งศูนย์นิครับ เขาไม่เก่งซ่อม เคยไปซ่อมสองคันเข้าออกเป็นสิบรอบไม่จบซักที แพงอีกต่างหาก ถ้าตั้งศุนย์ยอมรับ แต่รถต้องเฟอร์เฟกด้วย ไม่งั้นก็ไม่เปะอีกนะหละ ผมเข้าออกเป็นสิบรอบจนรู้การทำงานของช่างเลย
ขับออกมาหลายรอบรู้สึกเลยว่าแน่นมั่นคง พวงมาลัยหนักเพราะช่างแกจะ ไปขันแรคให้ตึงมือแทบทุกคันครับ มันเลยดูเหมือนนิ่งมั่นคงหนักแน่นขึ้นไงครับ จุดขายที่ไม่เหมือนใครๆ กับร้านทั่วไปที่ตั้งแต่มุมโทอย่างเดียวเท่านัน ไม่ได้ตั้งแรคแล้วไปวิ่งดูการคืน ไม่คืนกลับมาตั้งใหม่ แบบเจ้านี้ครับ ลองสังเกตุครับ มุมโทตั้งแค่หนเดียวส่วนมากแทบทุกคันถ้ารถไม่มีปัญหาต้องคาลิเบรทชดเชย แต่แรคตั้งเสร็จวิ่งในซอยหรือในลานแล้ววนกลับมาตั้งใหม่
เจ้านี้ลองบอกอาการหน้าไวจะจับขันแร๊คให้ตึงๆมือหมดทุกคัน เข้าไปพวงมาลัยหวิวๆ ออกมาหนักอึ้ง บางทีต้องไปขันคลายออกมาไม่งั้นขับลำบากรถติดๆเหนือยครับ
ผมเข้าไปสามรอบก็ไม่หายขาดซักทีกับล่าสุดอาการหน้าไว จนสุดท้ายแก้เองหายขาดครับอาการหน้าไว
เปลี่ยนบูชปีกนก กะยางเบ้าโช๊ค สองตัวนี้มันให้ตัวได้ครับ ยิ่งยางเบ้าโช๊คนี่แทบไม่มีโอกาศเช็คเลยนอกจากถอดมาดูครับ
มันให้ตัวได้มุมล้อมันก็เพี้ยนครับ ตั้งสามรอบก็ไม่หายไว ได้แต่พวงมาลัยหนักขึ้น ขับเผินๆเหมือนจะดีขึนแต่ไม่ใช่ครับ ทางเอียงก็ดึง ทางคลื่นก็ไหว
เลี้อย เช็คช่วงล่างก็บอกแน่นดี
จุดอ่อนของ e46 เลยก็ว่าได้ บุชปีกนกให้ตัวได้ตั้งแต่เกิดยิ่งใช้ยิ่งแกว่งมาก ยางเบ้าโช๊คเบ้าอลูมิเนียมหลวมง่าย ไม่ใช่เบ้าเหล็กเหมือนรุ่นอื่นๆ
พอแก้หายแล้วรักรถขึนเยอะเลย ไม่อยากเปลี่ยนแล้วครับ
มาแชร์ให้ฟังครับ
-
เห็นด้วยครับ ที่บางพลัดเขาเก่งเรื่องตั้งศูนย์ครับ ส่วนเรื่องซ่อมบำรุง ก็พอได้แต่หมายถึง เราเอาของไปให้เขาใส่นะครับ เขาจะวิเคาระห์อาการไม่ค่อยแม่นเท่าไรครับ
แต่ก็อย่างว่าละครับ ขนาดศูนย์บางทียังเช็คอาการไม่แม่นเหมือนกัน ผมเคยโช้คเสีย ศูนย์ไล่เปลี่ยนไปเรื่อยเลย จนตอนหลังเอะใจลองขย่มโช้คดูกัน ถึงได้รู้ว่าโช้ควาล์วมันเสียแล้ว
-
ก็บางพลัดเขาเก่งตั้งศูนย์นิครับ เขาไม่เก่งซ่อม เคยไปซ่อมสองคันเข้าออกเป็นสิบรอบไม่จบซักที แพงอีกต่างหาก ถ้าตั้งศุนย์ยอมรับ แต่รถต้องเฟอร์เฟกด้วย ไม่งั้นก็ไม่เปะอีกนะหละ ผมเข้าออกเป็นสิบรอบจนรู้การทำงานของช่างเลย
ขับออกมาหลายรอบรู้สึกเลยว่าแน่นมั่นคง พวงมาลัยหนักเพราะช่างแกจะ ไปขันแรคให้ตึงมือแทบทุกคันครับ มันเลยดูเหมือนนิ่งมั่นคงหนักแน่นขึ้นไงครับ จุดขายที่ไม่เหมือนใครๆ กับร้านทั่วไปที่ตั้งแต่มุมโทอย่างเดียวเท่านัน ไม่ได้ตั้งแรคแล้วไปวิ่งดูการคืน ไม่คืนกลับมาตั้งใหม่ แบบเจ้านี้ครับ ลองสังเกตุครับ มุมโทตั้งแค่หนเดียวส่วนมากแทบทุกคันถ้ารถไม่มีปัญหาต้องคาลิเบรทชดเชย แต่แรคตั้งเสร็จวิ่งในซอยหรือในลานแล้ววนกลับมาตั้งใหม่
เจ้านี้ลองบอกอาการหน้าไวจะจับขันแร๊คให้ตึงๆมือหมดทุกคัน เข้าไปพวงมาลัยหวิวๆ ออกมาหนักอึ้ง บางทีต้องไปขันคลายออกมาไม่งั้นขับลำบากรถติดๆเหนือยครับ
ผมเข้าไปสามรอบก็ไม่หายขาดซักทีกับล่าสุดอาการหน้าไว จนสุดท้ายแก้เองหายขาดครับอาการหน้าไว
เปลี่ยนบูชปีกนก กะยางเบ้าโช๊ค สองตัวนี้มันให้ตัวได้ครับ ยิ่งยางเบ้าโช๊คนี่แทบไม่มีโอกาศเช็คเลยนอกจากถอดมาดูครับ
มันให้ตัวได้มุมล้อมันก็เพี้ยนครับ ตั้งสามรอบก็ไม่หายไว ได้แต่พวงมาลัยหนักขึ้น ขับเผินๆเหมือนจะดีขึนแต่ไม่ใช่ครับ ทางเอียงก็ดึง ทางคลื่นก็ไหว
เลี้อย เช็คช่วงล่างก็บอกแน่นดี
จุดอ่อนของ e46 เลยก็ว่าได้ บุชปีกนกให้ตัวได้ตั้งแต่เกิดยิ่งใช้ยิ่งแกว่งมาก ยางเบ้าโช๊คเบ้าอลูมิเนียมหลวมง่าย ไม่ใช่เบ้าเหล็กเหมือนรุ่นอื่นๆ
พอแก้หายแล้วรักรถขึนเยอะเลย ไม่อยากเปลี่ยนแล้วครับ
มาแชร์ให้ฟังครับ
งั้น การแก้อาการหน้าไว ต้อง เปลี่ยนบูชปีกนก กับ ยางเบ้าโช็คใช่ไหมครับ ค่าเสียหายประมาณเท่าไหร่ครับผม
-
คือผมอยากทราบว่าฟิลลิ่งเดิมๆของ46นี่แตกต่างจาก39มากไหม
ถ้าถามผมตอนนี้ผมว่าซันนี่ท้ายแตงโมยังนิ่มกว่ามาก
ตอนนี้วิ่งทางขรุขละ ทางผิวจระเข้ เสียงดังเข้ารถเลย ปั๊ก!!! ยิ่งช่วงล้อหลังละยิ่งดังยังกะโช๊คพัง ลงทีดังปั๊กๆ!!ปวดหัวจิงหมดไป30000กว่าแล้วได้ช่วงล่างยังกะไม้กระดานกลับมาแทน :'(
-
คือผมอยากทราบว่าฟิลลิ่งเดิมๆของ46นี่แตกต่างจาก39มากไหม
ถ้าถามผมตอนนี้ผมว่าซันนี่ท้ายแตงโมยังนิ่มกว่ามาก
ตอนนี้วิ่งทางขรุขละ ทางผิวจระเข้ เสียงดังเข้ารถเลย ปั๊ก!!! ยิ่งช่วงล้อหลังละยิ่งดังยังกะโช๊คพัง ลงทีดังปั๊กๆ!!ปวดหัวจิงหมดไป30000กว่าแล้วได้ช่วงล่างยังกะไม้กระดานกลับมาแทน :'(
B6 ก็เริ่มแข็งแล้ว บางคนเลือก B8 ก็แข็งกว่านี้ครับ แต่บางท่านก็ชอบ ถ้าอยากนุ่มนวล ต้องกลับไปใช้ของ std ทั้งset รวมถึงล้อและยาง :-*
-
คือผมอยากทราบว่าฟิลลิ่งเดิมๆของ46นี่แตกต่างจาก39มากไหม
ถ้าถามผมตอนนี้ผมว่าซันนี่ท้ายแตงโมยังนิ่มกว่ามาก
ตอนนี้วิ่งทางขรุขละ ทางผิวจระเข้ เสียงดังเข้ารถเลย ปั๊ก!!! ยิ่งช่วงล้อหลังละยิ่งดังยังกะโช๊คพัง ลงทีดังปั๊กๆ!!ปวดหัวจิงหมดไป30000กว่าแล้วได้ช่วงล่างยังกะไม้กระดานกลับมาแทน :'(
ต่างกันเยอะมากครับพี่ e39 ช่วงล่างนิ่งกว่ามากๆๆๆครับ ต้องลองขับตอนซัก 160 จะรู้เลยว่าต่างกันเยอะมากๆครับผมลอง e39 แล้วรักช่วงล่างคันนี้จริงๆครับ นิ่งสนิทจริงๆ benz สู้ไม่ได้เลยครับ ปัจจุบันผมมี e60 อยู่คันแต่ผมว่าช่วงล่าง e39 ยังดีกว่าอีกครับ e39 เรียกได้ว่าเป็น the best BMw เลยครับเพราะเอาระบบช่วงล่างพื้นฐานมาจาก serie7 ครับ เลยดีมากๆแต่ที่ผมเลือก e46 ก็เพราะอายุผมเอง และ body ที่โดนใจมากกว่าเหตุผลช่วงล่างครับ ถ้าต้องการ performance ผมแนะนำ e39 เลยครับ แต่ถ้าชอบความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวต้อง e46 เลยครับผม ต้องลองขับเองแล้วจะรู้ครับอย่าเชื่อผม
-
คือผมอยากทราบว่าฟิลลิ่งเดิมๆของ46นี่แตกต่างจาก39มากไหม
ถ้าถามผมตอนนี้ผมว่าซันนี่ท้ายแตงโมยังนิ่มกว่ามาก
ตอนนี้วิ่งทางขรุขละ ทางผิวจระเข้ เสียงดังเข้ารถเลย ปั๊ก!!! ยิ่งช่วงล้อหลังละยิ่งดังยังกะโช๊คพัง ลงทีดังปั๊กๆ!!ปวดหัวจิงหมดไป30000กว่าแล้วได้ช่วงล่างยังกะไม้กระดานกลับมาแทน :'(
B6 ก็เริ่มแข็งแล้ว บางคนเลือก B8 ก็แข็งกว่านี้ครับ แต่บางท่านก็ชอบ ถ้าอยากนุ่มนวล ต้องกลับไปใช้ของ std ทั้งset รวมถึงล้อและยาง :-*
เห็นด้วยกับพี่ krisada ครับ ผมว่าถ้าอยากได้ feeling ของ bmw แท้ๆอย่าไปเปลี่ยนโช้คเป็นของแต่งเลยครับใส่ไปใส่มาทำไปทำมามันจะได้ฟีลรถยุ่นซะมากกว่าครับ^^
[/quote]
-
ิbilstein ขึ้นชื่อในความแข็งอยู่แล้วครับ ของผมใช้ bilstein b8 + สปริงโหลดของ bilstein แถมบูชยูรีเทนยกชุดอีก หลายคนนั่งแล้วก็ว่าแข็ง ผมเองก็ว่าแข็ง แต่ผมชอบตอนเวลาขับครับ มันสนุกดี
แต่เห็นตอนแรกถามถึงเรื่องช่วงล่าง ปีกนก บูชปีกนก ลูกหมาก อะไรพวกนี้ครับ แต่ไงพอไปร้านกลายเป็นไปใส่ช่วงล่างแบบสปอร์ตซะอย่างงั้นละครับ
ถ้าไม่ชอบใจเรื่องโช้ค ลองเอาโพสขายดูก็ได้ครับ เห็นมีคนหาโช้คอยู่เยอะอยู่เหมือนกันครับ
-
ก็บางพลัดเขาเก่งตั้งศูนย์นิครับ เขาไม่เก่งซ่อม เคยไปซ่อมสองคันเข้าออกเป็นสิบรอบไม่จบซักที แพงอีกต่างหาก ถ้าตั้งศุนย์ยอมรับ แต่รถต้องเฟอร์เฟกด้วย ไม่งั้นก็ไม่เปะอีกนะหละ ผมเข้าออกเป็นสิบรอบจนรู้การทำงานของช่างเลย
ขับออกมาหลายรอบรู้สึกเลยว่าแน่นมั่นคง พวงมาลัยหนักเพราะช่างแกจะ ไปขันแรคให้ตึงมือแทบทุกคันครับ มันเลยดูเหมือนนิ่งมั่นคงหนักแน่นขึ้นไงครับ จุดขายที่ไม่เหมือนใครๆ กับร้านทั่วไปที่ตั้งแต่มุมโทอย่างเดียวเท่านัน ไม่ได้ตั้งแรคแล้วไปวิ่งดูการคืน ไม่คืนกลับมาตั้งใหม่ แบบเจ้านี้ครับ ลองสังเกตุครับ มุมโทตั้งแค่หนเดียวส่วนมากแทบทุกคันถ้ารถไม่มีปัญหาต้องคาลิเบรทชดเชย แต่แรคตั้งเสร็จวิ่งในซอยหรือในลานแล้ววนกลับมาตั้งใหม่
เจ้านี้ลองบอกอาการหน้าไวจะจับขันแร๊คให้ตึงๆมือหมดทุกคัน เข้าไปพวงมาลัยหวิวๆ ออกมาหนักอึ้ง บางทีต้องไปขันคลายออกมาไม่งั้นขับลำบากรถติดๆเหนือยครับ
ผมเข้าไปสามรอบก็ไม่หายขาดซักทีกับล่าสุดอาการหน้าไว จนสุดท้ายแก้เองหายขาดครับอาการหน้าไว
เปลี่ยนบูชปีกนก กะยางเบ้าโช๊ค สองตัวนี้มันให้ตัวได้ครับ ยิ่งยางเบ้าโช๊คนี่แทบไม่มีโอกาศเช็คเลยนอกจากถอดมาดูครับ
มันให้ตัวได้มุมล้อมันก็เพี้ยนครับ ตั้งสามรอบก็ไม่หายไว ได้แต่พวงมาลัยหนักขึ้น ขับเผินๆเหมือนจะดีขึนแต่ไม่ใช่ครับ ทางเอียงก็ดึง ทางคลื่นก็ไหว
เลี้อย เช็คช่วงล่างก็บอกแน่นดี
จุดอ่อนของ e46 เลยก็ว่าได้ บุชปีกนกให้ตัวได้ตั้งแต่เกิดยิ่งใช้ยิ่งแกว่งมาก ยางเบ้าโช๊คเบ้าอลูมิเนียมหลวมง่าย ไม่ใช่เบ้าเหล็กเหมือนรุ่นอื่นๆ
พอแก้หายแล้วรักรถขึนเยอะเลย ไม่อยากเปลี่ยนแล้วครับ
มาแชร์ให้ฟังครับ
งั้น การแก้อาการหน้าไว ต้อง เปลี่ยนบูชปีกนก กับ ยางเบ้าโช็คใช่ไหมครับ ค่าเสียหายประมาณเท่าไหร่ครับผม
เปลี่ยนแล้วค่อนข้างเห็นชัดเจนครับ ว่าคมขึ้นไม่ย้วย ถ้าจะให้ดีใส่บูทยางตันไปเลยแบบพวก รถทั่วๆไปของรุ่นเราบูทมันนิ่มไปเน้นความนุ่มนวลไป ลองเอาบูทใหม่ๆมาบีบเล่นซิครับ สองนิ้วยังบีบได้เลยแล้วแรงรถดึงจะไปเหลืออะไรครับ ปีกนกมันก็แกว่งให้ตัววอกแวกตอนเจอคลื่นถนน ถ้าเฉพาะตัวบูทก็สามร้อยขึ้นไปถึงไม่เกินพันครับ ถ้าเอาง่ายหน่อยแบบกรอบมิเนียมติดมาตรานกก็คู่ละสองพันกว่าๆ แต่ก็ไม่ทนและไม่มีแบบยางตันครับ
ส่วนเบ้ามิเนียมของผมมันคลอนเพราะแกนมิเนียมมันสึกครับ ตัวเบ้ามันไม่ทนกระแทกๆไม่นานก็หลวมยิ่งของเทียบจีนไต้หวันหละ ไปไวชัดเจนครับ ไม่เบ้ามิเนียมก้ตลับลูกปืน หรือแกนยาง สามจำเลยที่ทำศนย์ล้อเพี้ยนได้ หัวโช๊คเบี้ยว 1 องศาปลายดุมล้อก็เบี้ยวเป็นสิบหละครับ ของผมเปลีย่นไปใช้เบ้าเหล็กหนาๆของ e36 แทนครับ ทนอึกกว่าแยะ ตัว 7-8 ร้อยพอๆกะ e46 ครับ
-
คือแล้วผมจะทราบไหมเนี่ยว่าอาการดังที่ผมกล่าวมามันเป็นมาจากอะไร เปลี่ยนไปอีกเรื่องไปเลย >:(
-
คือแล้วผมจะทราบไหมเนี่ยว่าอาการดังที่ผมกล่าวมามันเป็นมาจากอะไร เปลี่ยนไปอีกเรื่องไปเลย >:(
ใจเย็นครับพี่ผมว่าคำถามของพี่ก็ได้รับคำตอบไปแล้วนะครับจากโพสของพี่ๆตอนแรกๆอะครับแล้วเพิ่งมาแตกประเด็นตอนหลังๆนี่เองครับ
-
คือแล้วผมจะทราบไหมเนี่ยว่าอาการดังที่ผมกล่าวมามันเป็นมาจากอะไร เปลี่ยนไปอีกเรื่องไปเลย >:(
คุณพี่ครับ ผมขอทราบ
1. ยี่ห้อสปริง รุ่น
2. ขนาดล้อและยาง
3. การเติมลม ล้อหน้า-ล้อหลัง กี่ปอนด์
4. รุ่นรถ
ของคุณพี่ด้วยครับ จะได้ช่วยตอบเพิ่มเติม ตรงจุด ตามที่พี่ประสงค์ จะขอทราบ แนวทางแก้ไข ครับ :-*
-
คือแล้วผมจะทราบไหมเนี่ยว่าอาการดังที่ผมกล่าวมามันเป็นมาจากอะไร เปลี่ยนไปอีกเรื่องไปเลย >:(
คุณพี่ครับ ผมขอทราบ
1. ยี่ห้อสปริง รุ่น
2. ขนาดล้อและยาง
3. การเติมลม ล้อหน้า-ล้อหลัง กี่ปอนด์
4. รุ่นรถ
ของคุณพี่ด้วยครับ จะได้ช่วยตอบเพิ่มเติม ตรงจุด ตามที่พี่ประสงค์ จะขอทราบ แนวทางแก้ไข ครับ :-*
323ia se ล้อเดิมขอบ16 ยางมิชลินไพมาซี่ปี2010 225/55/16 ลมเติม32psiหน้าหลัง โช๊คบิวb6 กระบอกเหลือง สปิงเดิม
-
ยางเป็น 225 /50/16 หรือ 225/55/16 ครับ ขนาดมันต่างกันนะครับ ล้อที่ใช้อยู่เป็น 5 หรือ 7 ก้านครับ เพราะถ้าเป็น 5 ก้านเขาใช้ 225 / 50 / 16 ครับ ถ้า 7 ก้าน ใช้ 205 / 55 / 16 ครับ
แล้วสปริง สรุปว่าเป็น สปริงโหลดหรือสปริงเดิมกันแน่ครับ ถ้าเป็นสปริงเดิม ที่เขาแนะนำกันให้ตัดยางรองก็ไม่ต้องครับ ไม่เกี่ยวกันครับ ถ้าเป็นสปริงโหลดค่อยตัดครับ
ส่วนเรื่องการกระแทก ลองเช็คพวกยางเบ้าโช้ค ยางรองสปริง ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ดูก่อนเบิกใหม่ไม่แพงมากครับ
แล้วยางรถใช้มากี่ปีแล้วครับ บางทียางหมดอายุก็จะกระด้างเหมือนกันครับ อ๋อ เพิ่งมาดูใหม่ครับ ยางเป็นปี 10 เรื่องยางหมดอายุคงไม่ใช่ คราวนี้ลองดูว่าทำไมร้านเขาเปลี่ยนโช้คให้ครับ ว่ามันรั่วหรือเปล่า ถ้ามันรั่ว การกินหน้ายางจะสึกไม่เท่ากัน ก็เป็นสาเหตุได้เหมือนกันครับ พอยางมันไม่กลมความกระเทือนก็ตามมาครับ
-
ล้อผม5ก้านแต่ยางที่ติดมามันเป็น225/55/16
แล้วที่เปลี่ยนเพราะไปอัดน้ำมันโช๊คมาใหม่แล้วแข็งครับร้านเลยบอกเปลี่ยนแล้วจะหาย
แต่ก็ไร้ซึ่ง..(ว่าสิตอนเอารถมาแรกๆไมไม่มียางรองโช๊ค)เพราะเหตุนี้หรือป่าวแต่เอามาตอนแรกๆมันก็ไม่นิ่มแต่แรกอยู่แล้วสภาพมาเดิมสนิทแต่วิ่งขรุขละช่วงล่างก็ดังลงปั๊กๆแต่แรกอยู่แล้ว
-
ยางผิดสเป็คนะครับ
ส่วนอื่นก็อย่างที่ว่ามาละครับ ลองเช็คดูให้หมดก่อนครับ ว่ามีอะไรขาดหายไปบ้าง พวกยางรองพวกนี้ มันต้องมีประโยชน์ครับไม่งั้นเขาคงไม่ทำมาหรอกครับ
ช่วงล่างด้านหลัง ก็มีส่วนที่เป็นบูชยาง อยู่หลายจุดครับ ลองเช็คดูครับ แต่อะไหล่พวกนี้ แนะนำให้เบิกห้างครับ ของผมเองนอกจากที่เป็นของแต่ง จะเป็นอะไหล่เบิกห้างเกือบทั้งหมดครับ