BMW E46 Thailand

พูดคุย แลกเปลี่ยน เฮฮา => DIY & FAQs => ข้อความที่เริ่มโดย: Krisada511 ที่ เมษายน 17, 2012, 13:03:35

หัวข้อ: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ เมษายน 17, 2012, 13:03:35


(http://www.scriptdd.com/_file/image/firefox-kiosk/bmw-kiosk2.jpg)

สืบเนื่องจากมีคุณผู้หญิงท่านหนึ่ง ขอคำปรึกษาในการเลือกรถ E46 มาในทาง PM
ผมจึงตอบไป และนึกขึ้นได้อาจมีประโยชน์ ไม่มากก็น้อย ในเวปแห่งนี้

คุณเขาถามมาว่า รถ E46 สีขาว N42 ปี 2002 ที่ผมแนะนำไป  ( รถบ้านตลาดรถ ) นั้นมันมีดีอะไร
ด้วยงบที่มีประมาณ 6.5 แสน เผื่อซ่อม 1 แสน ...แต่คุณเขา ชอบไปทาง 323 ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่า ว่าไม่ดีอะไร
เพียงแต่จะมาตอบว่า N42 ไม่ดีอะไร มากกว่า ( ฮ่า )


คำถามจากทางบ้าน

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะค่ะพี่  เพราะอะไรพี่ถึงเลือกคันที่พี่แนะนำอะค่ะ
คือคิดว่าจากที่อ่านมา 318 รหัส N42
เค้าบอกกันว่าเป็นตัวอันตรายนี่ค่ะพี่
และอีกอย่างสีขาวไม่ถูกกับวันเกิดด้วยค่ะพี่ 

อยากทราบเหตุผลที่เลือกคันสีขาวอะค่ะ

-------------------------------------------------

ตอบจาก Office เริ่มทำงานวันแรก สมองโปร่ง


  ผม ดูจากสภาพ ความใส่ใจ ของเจ้าของรถ ( มองออก )

      N42 ไม่ได้น่ากลัวครับ เพียงแต่เปลี่ยนอะไหล่ที่ถึงอายุก็สามารถใช้ได้ตามปกติ  ไม่ต่ำกว่า 7-8 ปีแน่นอน
  ที่สำคัญอะไหล่เก่าก็ เริ่มมาแล้ว กินน้ำมันน้อยกว่า ค่าดูแล ค่าอะไหล่ จำนวนน้ำมันเครื่อง น้อยกว่า 323   ใช้ในเมือง OK มาก
  แต่ถ้าเดินทางไกลบ่อยๆ คงต้อง 6 สูบ 323   (  ทางไกลใช้ วีโก้ ถ้าจะซื้อดูในกระดานขาย สะดวกประหยัดกว่า ...ฮ่า  )

      N42 valvetronic ระบบเครื่องทันสมัยกว่า สามารถให้แรงม้า อัตตราเร่งที่ดีเกินตัว

(http://i1237.photobucket.com/albums/ff471/krisada513/normal_n42b18_n42b20_side-1.jpg)

(http://i1237.photobucket.com/albums/ff471/krisada513/n42b18_n42b20_front_20090808_1699780485.jpg)

(http://i1237.photobucket.com/albums/ff471/krisada513/the-n55-bmw-s-first-turbocharged-valvetronic-engine-medium_3.jpg)

valvetronic

(http://i1237.photobucket.com/albums/ff471/krisada513/valvetronic.jpg)



     รายละเอียด 2.0 L (1995 cc) version. It produces 105 kW (143 hp) and 200 N·m (148 lb·ft)
                          with the same Bosch DME ME9.2 fuel injection. It has twin balance shafts .


    N42 เป็นคันเร่งไฟฟ้า ช่างที่ " ไม่มีสามารถ มักโทษว่าเครื่องไม่ดี เพราะไม่ศึกษาเพิ่ม "
 เนื่องจากเครื่องเป็นเครื่องรุ่นใหม่ ตูซ่อมมาแต่ E36 หรือ E46 เครื่องรุ่นแรก ที่ยกบางส่วนมาจากเครื่อง E36
มาเจอเครื่องรุ่นใหม่...ไปไม่เป็น รวมถึงศูนย์บริการด้วย
 ช่างเก่งๆ ก็มักจะออกไปทำอู่เอง มีเครื่อง GT-1  กับที่ปรึกษา ขอข้อมูลสำคัญ คือเพื่อนเก่าในศูนย์
( นำข้อมูลการซ่อมจากBook  ข้อมูลเคส ที่เจอมาคุยกันภายนอกศูนย์ )  ก็พอจะสามารถดำเนินการซ่อมได้แล้ว


     N42 ซึ่งต่อมาก็บรรจุใน E90 ปรับปรุง บางส่วน เป็นรุ่น N46  ดังนั้นผมก็ไม่แนะนำ E90 รุ่นแรกๆ ที่คุณเพิ่มเป็นตัวเลือก
 เพราะจ่ายเป็นล้านกว่า ( เกิบเท่าตัวของ E46 )  ไม่สามารถสู้รุ่น E46 ที่เป็น iaSE คือเป็นรุ่น Top ตัวสุดท้าย ที่มีออฟชั่นอะไร
 พี่แก ก็ใส่มาให้เต็มๆ ทั้งคัน .... แต่ถ้าจะซื้อ E90 ก็มีรุ่น 320dse  น่าสนใจอย่างยิ่ง ผมกำลังพิจารณาอยู่ ราคาประมาณ 2 ล้าน
( มือสอง BSI เหลือ 3Y  ) หรือ 2.5 ล้าน ( ราคาพิเศษรถใหม่  BSI 5Y เนื่องจากจะตกรุ่น ) หรือไปน้อง X1 BSI 5Y ก็ดีไปไหนสะดวก รถสูงกำลังดี

      N42 คุณจะเห็นว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น วนเวียนอยู่ในกระดาน คือ หลักๆ เมื่อเกินวิ่งเกิน 1.2 แสน
 ( ถ้าเมืองนอก เขาเอารถไปบดอัดเป็นก้อนแล้ว )  <!-- s:yellowcard -->:yellowcard<!-- s:yellowcard --> 

- น้ำแห้ง / แก้ได้ ไล่ระบบท่อน้ำ เปลี่ยนถังน้ำสำรองที่แตกร้าว เปลี่ยนท่อที่ชำรุด ใส่น้ำยาหล่อเย็นคุณภาพสูง

- น้ำมันเครื่องหาย / แก้ได้ เปลี่ยนประเก็น ฝา อ่าง โอริงเซ็นเซอร์

- เซ็นเซอร์พัง 3-4 ตัว / แก้ได้ เปลี่ยน หรือจะถอดมาผ่าซ่อม ดังที่มีคนทำ

- แอร์เมสเสีย ลิ้นปีกผีเสื้อเสีย / แก้ไขได้ ล้าง หรือ เปลี่ยน

- เสื้อสูบผุ / อันนี้คงต้องเปลี่ยน ( เพิ่งเคยพบ น่าจะมาจากไม่ใช้น้ำยาหล่อเย็น ตรงตามผู้ผลิต  )

     นอกนั้นก็ปกติ ช่วงล่าง เบรค ปั๊มติก กรองเบนซิลตัน แอร์ไม่เย็น กล่อง ASCเสีย กระจกตกราง แผงจิ้งหรีด
 อื่นๆ ก็เป็นกันทุกรุ่น    ถ้าทำใจให้เป็นกลาง 323 ก็มีอาการเสีย ในรายการด้านบนไม่ต่างกันมากนัก

    มันอยู่ที่อายุรถ  เลขไมล์ การใช้งาน ความรัก ความใส่ใจดูแลจากเจ้าของเดิม ความตระหนี่ถี่เหนียวไม่สนใจ ใส่ใจ ในการซ่อมบำรุง
 ซื้อรถเก่า อดีตราคา 2 ล้านกลางๆ เราซื้อมาแค่ 7-8 แสน ซ่อม 1-2 แสน ผมว่ามัน makesense ครับ

    ตอนแรกจะซื้อคันนี้ผมมอง Mercedes-Benz C200 Kompressor ( w203 )  ปี 2003 ซึ่งเป็นปีเดียวกัน
 หาได้ที่ราคา 1.2-1.3 ล้าน และมองดูภายในเบาะ หรือ อย่างอื่นๆ ในการซ่อมบำรุงแรกเริ่มให้ใกล้เคียงรถใหม่
 ต้องใช้งบ + 1.5 แสน ( ดูจากรถเพื่อนที่ซื้อมา )  รวมค่ารถแล้ว เตรียมเงินไว้ 1.4-1.45 ล้าน

  ก็เลยมองไป BMW ใช้งบรวมตกแต่ง ได้รถถูกใจ ขับสนุก ( แค่ใส่บูสคันเร่ง ) แต่งเครื่องเสียง ทำภายในใหม่ ช่วงล่าง ยางใหม่อย่างดี และ อื่นๆ
วันนี้ผมจ่ายไป 1,060,178.18 บาท  ........แต่ซ่อมที่เกี่ยวข้องกับ เครื่อง N42 ไปเพียง 2 รายการ 

 180854 เข้าซ่อม BMW ราชพฤกษ์  เปลี่ยนหม้อพักน้ำ  หลอดไฟหรี่ท้าย ปรับไฟหน้า 3,900 บาท
 081054 ตรวจเช็คระบบหล่อเย็น เปลี่ยนท่อน้ำจากปั๊มเข้าเครื่อง  และ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ปะเก็น กรองน้ำมันเกียร์ อู่พี่สุเมธ 15,350 บาท

(http://i1237.photobucket.com/albums/ff471/krisada513/kk2.jpg)

  งบผมยังเหลือเกือบ 4-4.5 แสน ก็เอาเก็บฝั่งดินไว้ได้ หรือเบื่อๆ รบกวนให้พี่สุเมธ วาง 330i เต็มระบบไปเลย ( ฮ่า )


      ส่วนเรื่องสี ผมไม่ขอออกความเห็นเป็นความเชื่อ+ชอบส่วนบุคคล
ขอให้ได้รถดีๆ เร็วๆนี้ครับ  <!-- s:bingo -->:bingo<!-- s:bingo -->

-----------------------------------------------------------

หมายเหตุ : เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลครับ .....ว่าแล้วก็ไปดีกว่า


(http://i1237.photobucket.com/albums/ff471/krisada513/e461.gif)
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: cyberlotus ที่ เมษายน 17, 2012, 14:50:24
อ่านซะเพลินเลยท่าน  :love
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: ยิ้มบางแสน ที่ เมษายน 17, 2012, 15:45:35
ผมก็ใช้ N42 อยู่ ถ้าถามว่าซ่อมไหมก็ซ่อมนะ แต่ที่พี่ Krisada511 บอกก็ถูกต้องทุกอย่างครับ สนับสนุน 100%
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ เมษายน 19, 2012, 12:06:39
บางที่ก็เบื่อนะครับ เรื่อง N42 ว่าเครื่องไม่ดี ทั้งที่ เรื่องจิ๊บๆ

เช่น ปะเก็นน้ำมันเครื่อง ท่อยางระบบน้ำ โอริงชำรุด หรือ พวกเซ็นเซอร์ เมื่อครบ 7-8 ปี หรือ +- แสนกว่า กม.


มันเกี่ยวกับภายในเครื่องตรงไหน !!!!!!!!!!   ( ฮ่า )




 อีกอย่าง 318i เป็นรุ่นที่ขายมากที่สุด ดังนั้นไม่แปลกที่จะพบเห็นที่อู่มากกว่ารุ่นอื่น มันเป็นอัตราส่วน บนพื้นฐานความจริง

---------------------------------------------------------------------------------------

สมมุติ รถปี 2003 - 2005
ผ่านมา 5-7 ปี

323i ยอดขาย   10,000  คัน เริ่มเสีย+ซ่อม 5 %  =  500 คัน   ราคาป้ายแดง 2.79 ล้าน
318i   ยอดขาย  25,000  คัน เริ่มเสีย+ซ่อม 5 %  = 1,250 คัน  ราคาป้ายแดง 2.39 ล้าน ( ถูกกว่า 4 แสน )  คนซื้อเยอะ

หมายเหตุ : ไม่รวมรถที่มีปัญหาการผลิตแต่แรกเริ่มนะครับ

 <!-- s:bingo -->:bingo<!-- s:bingo -->

ปล. สังเกตุว่าปีนี้ 6 สูบ เริ่มทยอยเสีย ตาม 4 สูบแล้วช่วงนี้  ( เหมือนเบนซ์เลยครับ )[/size]
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: kosit_w ที่ เมษายน 19, 2012, 13:40:19
ส่วนผมเองตอนนั้นซื้อ 323 มือสอง มีโจทย์ว่า อยากได้ BMW ซักคัน เครื่องแรงๆหน่อย เอาไว้กดให้สะใจเล่นในบางเวลา
ก้อเลยเริ่มดู E36 ซักคันว่าจะเอามาลงเครื่อง 2Jโบ ก็เลยดูๆและเริ่มชี้ให้คุณภรรยาดู ว่าจะซื้อรุ่นนี้นะ ดีมั้ย
คุณภรรยาตอบกลับมาว่า (ไม่สวย) แล้วเค้าก็เริ่มหันมาดู BMW อย่างจริงจัง และก็ได้คำตอบจากภรรยาว่า
ถ้าจะซื้อ BMW มีงบอยู่แปดแสน เค้าให้ซื้อ E46ไฟยกสีดำเท่านั้น สีอื่นไม่เอา ไม่ชอบ ส่วนจะเลือก 318,323,หรือ330
อันนั้นเลือกเอาเลยตามสบาย  

318 ไม่เลือกเพราะเครื่องไม่แรงพอที่เราอยากได้
330 ไม่เลือกเพราะราคาขายมี่แต่ล้านขึ้นทั้งนั้น (ปีที่แล้วนะ)
เลยมาจบที่ 323iase สีดำ ซื้อจากเจ้าของโดยตรง กุญแจครบ 4 ดอก คู่มือครบ
ขับออกมาจากบ้านเจ้าของเองเลย (มันไม่ใช่บ้านสิต้องเรียกว่าขับออกมาจากคฤหาสน์หลังงาม - มาอยู่ทาวน์โฮมหลังเล็กๆ)

323 อัดตราเร่งใช้ได้ แต่ มันไม่แรงเท่า2Jโบ แต่ไม่เป็นไรขับเอาหล่อ ก็พอ แรงได้นิดนึง แต่ก็แรงอยู่นะ กดให้มิดมีหลังติดเบาะนะ
ส่วนการซ่อมบำรุง เท่าที่อ่านมาก็ไม่ได้ เบากว่า 318 N42เลยนะ
ส่วนภายในตัวรถ เหมือนกัน
ส่วนเครื่องยนต์ ที่ซ่อมไปแล้ว
-ซ่อมช่วงล่างก็เหมือนกันกับ N42
-ซ่อมแร็คพวงมาลัยเพาเวอร์ก็เหมือนกันกับ N42
-ถ่ายน้ำมันเกียร์ปะเก็นอ่างเกียร์ก็เหมือนกันกับ N42
-ถ่ายน้ำมันเครื่องประเก็นอ่างน้ำมันเครื่อง  อันนี้ต่างกันนิดนึง เพราะใช้น้ำมันเครื่อง 7 ลิตรคริ่ง
-เซ็นเซอร์เพลาข้อเหวี่ยงก็เหมือนกันกับ N42  (คนละตัวนะแต่ราคาพอกัน)
-ระบบน้ำก็คล้ายๆกัน ก็เปลี่ยนวาล์น้ำ,เปลี่ยนท่อยาง,เปลี่ยนฟรีปั๊ม(อันนี้ในN42ใช้พัดลมไฟฟ้า)
-ระบบแอร์ก็เหมือนกันกับ N42
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ เมษายน 19, 2012, 17:33:48
ได้รับฟังจาก ท่านผู้ใช้ 323i ตัวจริง มาเล่าให้ฟัง ชัดเจน ขอขอบคุณมากครับ  <!-- s:bingo -->:bingo<!-- s:bingo -->

ปล. 318i ก็สามารถขับสนุกได้ครับ ถ้าใส่เจ้าตัวนี้ เพิ่มอัตราเร่ง ทุกวันนี้ยังชอบมากครับ ทั้งที่ปรับแค่ สีเขียวเท่านั้น

       *** sprint booster เพิ่มอัตราเร่ง ลองแล้ว เด็ดมาก ***

          www.e46thailand.com/viewtopic.php?f=5&t=2782&hilit=%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7 (http://www.e46thailand.com/viewtopic.php?f=5&t=2782&hilit=%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7)

(http://www.outmotoring.com/images/P/SPR_booster_smd.jpg)

•ไม่มีไฟสัญญาณที่ปุ่ม >> อัตราการเร่งเดิมของเครื่องยนต์: Sprint Booster ไม่ทำงาน
•ไฟสีเขียว >> อัตราเร่งระดับ1: พัฒนาการตอบสนอง: ขับขี่นุ่มนวล, สบาย
•ไฟสีแดง >> อัตราเร่งระดับ2: เพิ่มการตอบสนองเป็นเท่าตัว เต็มประสิทธิภาพ,ดุดัน


(http://www.sprintboostersales.com/images/graph.jpg)
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: คนขายเนื้อ ที่ เมษายน 19, 2012, 23:18:39
ของผมพื่งได้มาไม่กี่เดือนเอง  ปัญหาแรกก็หม้อน้ำครับ   นั่งอ่านนั่งศืกษาอยู่นานก่อนซื้อแต่ใจมันรักครับ   แล้วอีกอย่างโหวดเสียงแล้วผมชนะครับเพราะลูกสาวชอบ    bmw  ครับสองเสียงชนะหนึ่งเสียงครับ  ผบทบ  จะเอาแต่ป้ายแดงครับ  น้องซิตหรือน้องติ๊ดก็ได้   ผมก็คิดไว้ว่าใช้ไปซ่อมไปเดี๋ยวก็สมบูรณ์เองครับ   ที่กลัวที่สุดคือการนั่งรถไสล์กลับบ้านครับ :swt   ถ้ามีคงโดนสั่งเปลี่ยนแน่เลย :omg
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: kosit_w ที่ เมษายน 20, 2012, 00:40:55
ผมใช้ 323 มาปีกว่าๆ เก็บงานและซ่อมเรื่อยๆ อู่นอกนะ ตอนนี้รวมๆเจ็ดหมื่นบาท ใกล้หมดทุกอย่างแระ.
318 ก็น่าจะประมาณนี้นะ ค่อยๆทำไปเรื่อยหาข้อมูลในนี้แหละ อะไรที่จะเสียโดยไม่บอกล่วงหน้าก็เปลี่ยนเลย ส่วนอันไหนถ้าเสียแล้ว แสดงอาการก่อนก็ไว้ทำให้เกิดอาการก็ได้ ถ้าไม่มั่นใจก็เปลี่ยนเลย

เซ็นเซอร์เพลาข้อเหวี่ยง
และเซ็นเซอร์เพลาลูกเบี้ยวฝั่งไอดี
และเซ็นเซอร์เพลาลูกเบี้ยวฝั่งไอเสีย

เค้าบอกน่ากลัวถ้าเสียมันจะไม่แจ้งอาการก่อน เครื่องร้อนดับกลางอากาศเลย อันนี้น่าเปลี่ยน
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ เมษายน 20, 2012, 11:25:37
เพิ่มเติมครับ
นอกจากพวกเซ็นเซอร์ต่างๆที่ทำเครื่องดับโดยไม่มีสาเหตุ ก็มีอีกตัวที่ทำให้ดับได้ครับ เป็นตัว วาล์วไซโคลน ครับ ถ้าช่างในศูนย์เขาจะเรียกอีกแบบถ้าจำไม่ผิดจะเรียกว่า วาล์วปรับแรงดันน้ำมัน รหัสอะไหล่ 11 61 7 501 566 ตัวนี้ ถ้าตันเวลาออกตัวจะดับ เหมือนกับว่าระบบน้ำมันส่งมาไม่พอแต่จะสตาร์ทติดไปต่อได้ แต่พอเจอรถติดใหม่จะออกตัวก็ดับอีก

อุปกรณ์ตัวนี้เคยสร้างปัญหาให้ผมมาแล้ว เวลาเข้าศูนย์ช่างเขาจะเอาเครื่องจับ เครื่องก็ขึ้นมาเลย " ส่วนผสมน้ำมันหนา " คราวนี้ช่างก็เริ่มไล่กันสนุกสนาน โดยที่เราเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ จะไล่ดะมาตั้งแต่ ปั๊มติ๊ก กรองเบนซิล กรองชาโคว์ วาล์วควบคุมแรงดันน้ำมัน ไปอู่นอกก็จะเปลี่ยนแต่ตัวหนักๆ อย่าง แอร์แมส o2 sensor จนลงท้ายมาจบที่ วาล์วไซโคลน หรือ วาล์วปรับแรงดันน้ำมัน ทั้งชุดเบิกห้างแค่ 4000 จบ

ที่ส่วนมากช่างมองข้ามอุปกรณ์ตัวนี้กันเพราะ เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนยากเพราะอยู่ด้านล่างๆของเครื่อง บวกกับ ค่าตัวไม่ค่อยสูง แต่พอได้คุยกับช่างคนที่แก้ปัญหาจบได้ เขาก็บอกมาว่า ถ้ารถวิ่งเกิน 150000 โล ควรเปลี่ยนเป็นจุดแรก เพราะตัวนี้เครื่องไม่สามารถบอกได้แบบเซ็นเซอร์เสีย ช่างจะดูอาการที่คอมบอกความผิดปกติแล้วไล่ระบบแบบผมเจอ

อย่างไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยครับ เผื่อใครเจออาการดับแบบไม่ทราบสาเหตุ จะได้แก้ตรงจุด
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: kosit_w ที่ เมษายน 20, 2012, 12:23:23
พอจะมีรูปและชี้จุดให้ดูได้ไหมครับว่าตัวไหน
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ เมษายน 20, 2012, 13:51:46
อ้างจาก: "tom46"
เพิ่มเติมครับ
นอกจากพวกเซ็นเซอร์ต่างๆที่ทำเครื่องดับโดยไม่มีสาเหตุ ก็มีอีกตัวที่ทำให้ดับได้ครับ เป็นตัว วาล์วไซโคลน ครับ ถ้าช่างในศูนย์เขาจะเรียกอีกแบบถ้าจำไม่ผิดจะเรียกว่า วาล์วปรับแรงดันน้ำมัน รหัสอะไหล่ 11 61 7 501 566 ตัวนี้ ถ้าตันเวลาออกตัวจะดับ เหมือนกับว่าระบบน้ำมันส่งมาไม่พอแต่จะสตาร์ทติดไปต่อได้ แต่พอเจอรถติดใหม่จะออกตัวก็ดับอีก

อุปกรณ์ตัวนี้เคยสร้างปัญหาให้ผมมาแล้ว เวลาเข้าศูนย์ช่างเขาจะเอาเครื่องจับ เครื่องก็ขึ้นมาเลย " ส่วนผสมน้ำมันหนา " คราวนี้ช่างก็เริ่มไล่กันสนุกสนาน โดยที่เราเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ จะไล่ดะมาตั้งแต่ ปั๊มติ๊ก กรองเบนซิล กรองชาโคว์ วาล์วควบคุมแรงดันน้ำมัน ไปอู่นอกก็จะเปลี่ยนแต่ตัวหนักๆ อย่าง แอร์แมส o2 sensor จนลงท้ายมาจบที่ วาล์วไซโคลน หรือ วาล์วปรับแรงดันน้ำมัน ทั้งชุดเบิกห้างแค่ 4000 จบ

ที่ส่วนมากช่างมองข้ามอุปกรณ์ตัวนี้กันเพราะ เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนยากเพราะอยู่ด้านล่างๆของเครื่อง บวกกับ ค่าตัวไม่ค่อยสูง แต่พอได้คุยกับช่างคนที่แก้ปัญหาจบได้ เขาก็บอกมาว่า ถ้ารถวิ่งเกิน 150000 โล ควรเปลี่ยนเป็นจุดแรก เพราะตัวนี้เครื่องไม่สามารถบอกได้แบบเซ็นเซอร์เสีย ช่างจะดูอาการที่คอมบอกความผิดปกติแล้วไล่ระบบแบบผมเจอ

อย่างไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยครับ เผื่อใครเจออาการดับแบบไม่ทราบสาเหตุ จะได้แก้ตรงจุด


โห ความรู้ดีๆ ครับ ถ้าเป็นผมเจออาการนี้คงเดาไปที่  ปั๊มติ๊ก ก่อนเลยแล้วก็ กรองเบนซิลตัน  ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ เมษายน 20, 2012, 20:00:55
ภาพประกอบครับ
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: inin ที่ เมษายน 21, 2012, 00:00:42
อ้างจาก: "tom46"
เพิ่มเติมครับ
นอกจากพวกเซ็นเซอร์ต่างๆที่ทำเครื่องดับโดยไม่มีสาเหตุ ก็มีอีกตัวที่ทำให้ดับได้ครับ เป็นตัว วาล์วไซโคลน ครับ ถ้าช่างในศูนย์เขาจะเรียกอีกแบบถ้าจำไม่ผิดจะเรียกว่า วาล์วปรับแรงดันน้ำมัน รหัสอะไหล่ 11 61 7 501 566 ตัวนี้ ถ้าตันเวลาออกตัวจะดับ เหมือนกับว่าระบบน้ำมันส่งมาไม่พอแต่จะสตาร์ทติดไปต่อได้ แต่พอเจอรถติดใหม่จะออกตัวก็ดับอีก

อุปกรณ์ตัวนี้เคยสร้างปัญหาให้ผมมาแล้ว เวลาเข้าศูนย์ช่างเขาจะเอาเครื่องจับ เครื่องก็ขึ้นมาเลย " ส่วนผสมน้ำมันหนา " คราวนี้ช่างก็เริ่มไล่กันสนุกสนาน โดยที่เราเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ จะไล่ดะมาตั้งแต่ ปั๊มติ๊ก กรองเบนซิล กรองชาโคว์ วาล์วควบคุมแรงดันน้ำมัน ไปอู่นอกก็จะเปลี่ยนแต่ตัวหนักๆ อย่าง แอร์แมส o2 sensor จนลงท้ายมาจบที่ วาล์วไซโคลน หรือ วาล์วปรับแรงดันน้ำมัน ทั้งชุดเบิกห้างแค่ 4000 จบ

ที่ส่วนมากช่างมองข้ามอุปกรณ์ตัวนี้กันเพราะ เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนยากเพราะอยู่ด้านล่างๆของเครื่อง บวกกับ ค่าตัวไม่ค่อยสูง แต่พอได้คุยกับช่างคนที่แก้ปัญหาจบได้ เขาก็บอกมาว่า ถ้ารถวิ่งเกิน 150000 โล ควรเปลี่ยนเป็นจุดแรก เพราะตัวนี้เครื่องไม่สามารถบอกได้แบบเซ็นเซอร์เสีย ช่างจะดูอาการที่คอมบอกความผิดปกติแล้วไล่ระบบแบบผมเจอ

อย่างไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยครับ เผื่อใครเจออาการดับแบบไม่ทราบสาเหตุ จะได้แก้ตรงจุด
ขออู่หรือช่างที่พี่ไปทำได้มั้ยครับ pm มาก็ได้ครับ ขอบคุณมากๆๆๆครับ :o_o  :o_o
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: nara ที่ เมษายน 21, 2012, 00:26:37
อ้างจาก: "tom46"
ภาพประกอบครับ

เครื่อง N42 มีไหมครับวาล์วตัวนี้
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ พฤษภาคม 29, 2012, 17:31:44
วันนี้รถคุณปาย N42 มีเหตุกรณีน้ำหาย ขออนุญาตินำกระทู้ขึ้นมาอีกครั้งครับ  :bingo
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤษภาคม 29, 2012, 17:59:32
อ้างจาก: "inin"
อ้างจาก: "tom46"
เพิ่มเติมครับ
นอกจากพวกเซ็นเซอร์ต่างๆที่ทำเครื่องดับโดยไม่มีสาเหตุ ก็มีอีกตัวที่ทำให้ดับได้ครับ เป็นตัว วาล์วไซโคลน ครับ ถ้าช่างในศูนย์เขาจะเรียกอีกแบบถ้าจำไม่ผิดจะเรียกว่า วาล์วปรับแรงดันน้ำมัน รหัสอะไหล่ 11 61 7 501 566 ตัวนี้ ถ้าตันเวลาออกตัวจะดับ เหมือนกับว่าระบบน้ำมันส่งมาไม่พอแต่จะสตาร์ทติดไปต่อได้ แต่พอเจอรถติดใหม่จะออกตัวก็ดับอีก

อุปกรณ์ตัวนี้เคยสร้างปัญหาให้ผมมาแล้ว เวลาเข้าศูนย์ช่างเขาจะเอาเครื่องจับ เครื่องก็ขึ้นมาเลย " ส่วนผสมน้ำมันหนา " คราวนี้ช่างก็เริ่มไล่กันสนุกสนาน โดยที่เราเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ จะไล่ดะมาตั้งแต่ ปั๊มติ๊ก กรองเบนซิล กรองชาโคว์ วาล์วควบคุมแรงดันน้ำมัน ไปอู่นอกก็จะเปลี่ยนแต่ตัวหนักๆ อย่าง แอร์แมส o2 sensor จนลงท้ายมาจบที่ วาล์วไซโคลน หรือ วาล์วปรับแรงดันน้ำมัน ทั้งชุดเบิกห้างแค่ 4000 จบ

ที่ส่วนมากช่างมองข้ามอุปกรณ์ตัวนี้กันเพราะ เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนยากเพราะอยู่ด้านล่างๆของเครื่อง บวกกับ ค่าตัวไม่ค่อยสูง แต่พอได้คุยกับช่างคนที่แก้ปัญหาจบได้ เขาก็บอกมาว่า ถ้ารถวิ่งเกิน 150000 โล ควรเปลี่ยนเป็นจุดแรก เพราะตัวนี้เครื่องไม่สามารถบอกได้แบบเซ็นเซอร์เสีย ช่างจะดูอาการที่คอมบอกความผิดปกติแล้วไล่ระบบแบบผมเจอ

อย่างไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยครับ เผื่อใครเจออาการดับแบบไม่ทราบสาเหตุ จะได้แก้ตรงจุด
ขออู่หรือช่างที่พี่ไปทำได้มั้ยครับ pm มาก็ได้ครับ ขอบคุณมากๆๆๆครับ :o_o  :o_o

เพิ่งมาอ่านเหมือนกันครับ คุณ inin ทำในศูนย์ครับ
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Pyester Studio™ ที่ พฤษภาคม 31, 2012, 13:31:45
ขอบคุณพี่กฤษดาและพี่ๆทุกคนค่ะ
ตอนนี้ แก้ปัญหาเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
ปัญหาคือ เติมน้ำในหม้อพักน้ำแล้วดันปิดฝาไม่สนิทค่ะ
น้ำก็ระเหยออกมาจนทำให้น้ำแห้งสนิท และเกี่ยวโยงไปถึงท่าน ฮีทเตอร์ค่ะ
ก็เลยรีบโทรปรึกษาพี่กฤษดาและพี่สุเมธ ได้ความว่า ลองไล่ลมแล้วเติมน้ำลงไปพร้อมกับติดเครื่องยนต์ไว้
ระหว่างไล่ลมก็เติมน้ำลงไปด้วยค่ะ ทำตามขั้นตอนที่พี่สุเมธบอก
เห็นว่าเติมเท่าไหร่ก็ไม่พอค่ะ เลยตัดสินใจเรียกช่าง BMW มาช่วยไล่ระบบค่ะ
ใช้เวลาประมาณ10-15 นาที เสร็จเรียบร้อยค่ะ
พร้อมกับน้ำยาคูลแลนท์ 1 กระป๋อง รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 600 บาทค่ะ
ก็ถือว่าโชคดีค่ะ ตอนนี้รถก็ขับเป็นปกติดีมากค่ะ
ขอบคุณมากๆนะค่ะ สำหรับข้อมูลและคำแนะนำต่างๆ  :goodmood  :goodjob
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ มิถุนายน 01, 2012, 13:55:01
ยินดีด้วยครับ แต่อย่างไรอยากให้เข้าเช็คใหญ่สักครั้งครับ เอาเครื่อง GT1 เช็คทั้งหมด จะได้ขับสบายใจ

และให้ความสำคัญกับ 4 รายการนี้ด่วน โดยไล่ตามความสำคัญ


1. - ทดสอบระบบน้ำหล่อเย็น โดยอัดแรงดันน้ำ ถังพัก ท่อน้ำ เรื่องความร้อน+ระบบน้ำ สำคัญยิ่งสำหรับ BMW  / สำคัญมาก

2. - ดูอายุแบตด้วย  เปลี่ยนแบต ก่อนจะไปตายกลางทาง  /  เลย 2 -2.5 ปี เปลี่ยนเลยครับอย่าไปเสียดาย / สำคัญมาก

3. - เช็คน้ำมันรั่วซึม จากประเก็น โอริงเซ็นเซอร์ต่างๆ

4. - เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ล้างเต็มระบบ
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ มิถุนายน 25, 2012, 14:55:38
ช่วงนี้มีปัญหา N42 หลายคน เป็นกำลังใจให้นะครับ ทุกอย่างแก้ไขได้ และ จ่ายน้อย ถ้าไม่ช้า รอจนอาการหนัก  :D
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: crayonz ที่ มิถุนายน 25, 2012, 17:14:15
ปัญหาของ N42 ที่ถูกแก้แล้วใน N46 มันมีเยอะอยู่ครับ เป็นทั้งปัญหาที่มาจากDesign Flaw และ Manufacturing QC

ผมเคยอ่านเจอ Recall ของ 318 N42 ประมาณ 20 กว่ารายการ เอาไว้หา Link เจอจะเอามาลงให้ครับ

มีทั้งส่วนของ Software, firmware ทั้งเครื่องและเกียร์ โดยเฉพาะกล่องควบคุมวาล์วโทรนิก ใน N42 มันจะแยกจาก ECU แต่ถ้าเป็น N46 มันจะรวมเอาไว้เลย เพราะอะไรต้องไปหาอ่านกันเอาเองครับ (Keyword: Engine Management N42 N46)

ส่วนที่สำคัญที่เป็นปัญหาหลักอีกตัวก็คือสกรูตัวตั้งโซ่มีออกตัวใหม่มาคือ 11317567680 ถ้าใครยังใช้P/N เก่า(11311439851) มีความเสี่ยงอยู่ครับ เพราะที่เขามีปัญหากันก็ไอ้ตัวนี้แตกเป็นชิ้น ๆ ภาษาอังกฤษก็ BMW e46 318i 2002 n42 chain tensioner comparison (http://www.youtube.com/watch?v=aI0FX5di6tE#) ไปดูความแตกต่างกันได้ครับ P/n ที่ติดมากับ N42 คือตัวเก่า อ่านรายละเอียดใน Youtube ครับ

และก็ยังมีตัวไกด์ของโซ่ไทมมิ่งที่เป็นพลาสติกใน N42 อีก ถ้ามันแตก ซึ่งก็อาจจะแตกได้จากการที่ไอ้ตัวตั้งมันเสีย ก็....ไม่ต้องคิดมากครับ เอาของ N46 มาใส่ แต่ปัญหาระหว่างที่มันเสียไปนั้นผมไม่รู้

มีทั้งส่วนของ เครื่องยนต์ที่เกี่ียวกับ ตัวValvetronic ที่มี P/n ใหม่ออกมากแทน, Crank Vent Valveรั่ว และชุดประเก็นต่าง ๆ ถ้าไปหาใน P/N ของ N42 หลาย ๆ ชิ้น มีการเลิกใช้ ให้ไปใช้ร่วม N46 ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เปลี่ยนผู้ผลิต แต่วัสดุ และตัวงานกลับหน้าตาเปลี่ยนไป

มีทั้งส่วนของ เกียร์ GM ที่เกียวกับ SolenoidในValve body หรือที่ช่างไทยชอบเรียกว่าสมองเกียร์ จริง ๆ สมองเกียร์คือกล่อง EGS ต่างหากครับ ตัวนี้แหละที่สั่งควบคุมเกียร์ มี Firmware อัพได้ด้วย
มีในส่วนของระบบไฟฟ้าในรถ
มีในส่วนขอบช่วงล่าง(แต่อันนี้มันร่วมกับเครื่องตัวอื่นด้วย)

ไม่ใช่ว่ารถทุกคันรุ่นนี้ จะเจอปัญหาทุกอย่างที่มีใน Recall บางคนเจออันนั้น บางคนเจออันนี้ บางคนเจอหลายอันหน่อย

แต่ปัญหาคือในเมืองไทย Recall น่ะไม่มีการนำมาใช้ให้ลูกค้าไทย เพราะรถในไทยมันคงดีมั้ง

ใครแจ็กพอตเจอตัวนั้นพอดีก่อน BSI ก็โชคดีไป แต่ถ้าหมด BSIแล้วก็... ซวยไป

ช่างศูนย์เมืองไทยไม่รู้ว่าเคยได้ยินเรื่อง Recall กันรึเปล่า เคยอ่าน Tech Bulletin กันครบ ๆ ไหม ? ผมไม่รู้ ให้ผมเดา คงไม่มีใครมาทำ เพราะถ้าเป็นเมืองนอกเขาส่งจดหมายถึงบ้า้นเลยให้เอารถไปตรวจสอบครับ

ถ้าอ่านความแตกต่างระหว่า N42 กับ N46 แบบ ชิ้นต่อชิ้น คงใช้เวลาหลายวัน แต่ผมบอกได้เลยว่ามันมากกว่าเรื่องของแรงม้าแรงบิด และ EURO Emission standard แน่ ๆ

อย่างที่บอกครับ หา Link Recall เจอจะแวะมาแปะให้ ไม่ได้ขู่  เอาไว้สำหรับแฟน N42 ได้ระวังไว้ครับ รู้ไว้ไม่เสียหาย ทุกอย่างตรวจสอบตรวจเช็คได้ ไม่ใช่ไสญศาตร์ ไม่ใช่พรรคการเมืองหาเสียงให้เืลือกใคร

ใช้อยู่ก็ไม่ต้องกังวลอะไร ปัญหาถ้ามันจะเกิด เจอก็แก้ได้ครับ เขามี Recall แสดงว่า แก้ได้

ลืมให้ Credit คนส่ง Link ให้ น้องแจ AUTOSHOP นครปฐมครับ เอาความรู้เขามาเล่าเยอะแล้ว ไม่ให้Credit กันแย่เลย
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ มิถุนายน 25, 2012, 17:27:34
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ปัญหาของ N42 ที่ถูกแก้แล้วใน N46 มันมีเยอะอยู่ครับ เป็นทั้งปัญหาที่มาจากDesign Flaw และ Manufacturing QC

ผมเคยอ่านเจอ Recall ของ 318 N42 ประมาณ 20 กว่ารายการ เอาไว้หา Link เจอจะเอามาลงให้ครับ

มีทั้งส่วนของ Software, firmware ทั้งเครื่องและเกียร์ โดยเฉพาะกล่องควบคุมวาล์วโทรนิก ใน N42 มันจะแยกจาก ECU แต่ถ้าเป็น N46 มันจะรวมเอาไว้เลย เพราะอะไรต้องไปหาอ่านกันเอาเองครับ (Keyword: Engine Management N42 N46)

มีทั้งส่วนของ เครื่องยนต์ที่เกี่ียวกับ ตัวValvetronic ที่มี P/n ใหม่ออกมากแทน, Crank Vent Valveรั่ว และชุดประเก็นต่าง ๆ ถ้าไปหาใน P/N ของ N42 หลาย ๆ ชิ้น มีการเลิกใช้ ให้ไปใช้ร่วม N46 ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เปลี่ยนผู้ผลิต แต่วัสดุ และตัวงานกลับหน้าตาเปลี่ยนไป

มีทั้งส่วนของ เกียร์ GM ที่เกียวกับ SolenoidในValve body หรือที่ช่างไทยชอบเรียกว่าสมองเกียร์ จริง ๆ สมองเกียร์คือกล่อง EGS ต่างหากครับ ตัวนี้แหละที่สั่งควบคุมเกียร์ มี Firmware อัพได้ด้วย
มีในส่วนของระบบไฟฟ้าในรถ
มีในส่วนขอบช่วงล่าง(แต่อันนี้มันร่วมกับเครื่องตัวอื่นด้วย)

ไม่ใช่ว่ารถทุกคันรุ่นนี้ จะเจอปัญหาทุกอย่างที่มีใน Recall บางคนเจออันนั้น บางคนเจออันนี้ บางคนเจอหลายอันหน่อย

แต่ปัญหาคือในเมืองไทย Recall น่ะไม่มีการนำมาใช้ให้ลูกค้าไทย เพราะรถในไทยมันคงดีมั้ง

ใครแจ็กพอตเจอตัวนั้นพอดีก่อน BSI ก็โชคดีไป แต่ถ้าหมด BSIแล้วก็... ซวยไป

ช่างศูนย์เมืองไทยไม่รู้ว่าเคยได้ยินเรื่อง Recall กันรึเปล่า เคยอ่าน Tech Bulletin กันครบ ๆ ไหม ? ผมไม่รู้ ให้ผมเดา คงไม่มีใครมาทำ เพราะถ้าเป็นเมืองนอกเขาส่งจดหมายถึงบ้า้นเลยให้เอารถไปตรวจสอบครับ

ถ้าอ่านความแตกต่างระหว่า N42 กับ N46 แบบ ชิ้นต่อชิ้น คงใช้เวลาหลายวัน แต่ผมบอกได้เลยว่ามันมากกว่าเรื่องของแรงม้าแรงบิด และ EURO Emission standard แน่ ๆ

อย่างที่บอกครับ หา Link Recall เจอจะแวะมาแปะให้ เอาไว้สำหรับแฟน N42 ได้ระวังไว้

ใช้อยู่ก็ไม่ต้องกังวลอะไร ปัญหาถ้ามันจะเกิด เจอก็แก้ได้ครับ เขามี Recall แสดงว่า แก้ได้

ได้ความรู้ดีๆ เพิ่มอีกแล้ว ขอบคุณมากๆ ครับ  ;)
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: crayonz ที่ มิถุนายน 25, 2012, 17:52:26
และจากวีดีโอครับ จะเห็นว่า P/N ใหม่นั้นรูน้ำมันมันเล็กว่า ดังนั้น ความสำคัญของการรักษาเครื่องยนต์ให้สะอาดจำเป็นมากครับ ถ้ามีเศษอะไรไปอุดรูน้ำมันที่ตัวตั้ง ทำให้ไม่มีแรงดันมากพอจะไปตั้งโซ่ ก็จะทำให้เครื่องยนต์ไม่ได้ถูกตั้งโซ่ให้ตึงพอในความเร็วสุง ส่งผลให้ Timing เพี้ยนบ้างละ หรือโซ่เสียงดังบ้างล่ะ อะไรมากมายแล้วแต่โซ่จะพาไปครับ

ถ่ายน้ำมันเครื่องรถพวกนี้ จำเป็นมาก ต้อง สะอาดไว้ก่อน ถอดกรองเครื่องออก ดูน้ำมันเครื่องออกจากปลอกกรองด้วยครับไม่ใช่ว่าถอดกรองเก่าออกปุ๊ปเอาของใส่ใหม่ปั๊ปแบบนี้ ไม่ต้องทำดีกว่า
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: PirenZe ที่ สิงหาคม 21, 2012, 01:29:56
มือใหม่อย่างผม
ได้ความรู้เยอะเลยครับ เยี่ยมครับ ;)
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: namnako ที่ สิงหาคม 21, 2012, 12:46:29
 ;) :D ;)ขอบคุณสำหรับความรู้ ;)
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: mr.oldman ที่ สิงหาคม 22, 2012, 05:41:40
ตลอดระยเวลาที่ใช้E 46 มา 10 ปีเต็มๆ ผมใช้เครื่อง N42 มาสองตัว
ตัวแรกติดรถมา ใช้ไป 7 ปี แรก  วิ่งไปประมาณ สี่แสนกว่า
มีอาการกินน้ำมันเครื่องมาก แก้ไม่ไหว สาเหตุเพราะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ที่ 25000 ก ม ตามสเสปคศูนย์ ก็เลยไปซื้อเครื่อง N42 พร้อมอะไหล่และอุปกรณ์จากหัวตัดมายกเปลี่ยน

เครื่องตัวใหม่ ใช้มาอีก 3 ปี  หกเดือนหลังมีอาการเครื่องสั่น แก้ไม่หาย
ทำที่ศูนย์ น่าจะหมดไป เป็นแสน ทนไม่ไหว ก็เลยต้องยกลง
เอาเครื่องหกสูบ 325  มาใส่แทน

รวมแล้วเครื่องสองตัว ใช้ไป 620000 ก ม

สำหรับเครื่อง N 42 ผมว่า ผมใช้เยอะ มีประสพการณ์
มากพอสมควรทีเดียว กับเจ้าเครื่องตัวนี้ 
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: yo-e46 ที่ สิงหาคม 22, 2012, 05:45:59
ถามพี่ oldman ต่อครับแล้วเครื่อง 325  ที่พี่ลงนี่ m54b24 หรือ m54b25 ครับผม จุกจิกต่างกับ n42 เยอะไหมครับผม???
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Harn ที่ สิงหาคม 22, 2012, 07:09:50
N42  O0  ซะงั้น ซ่อมแพงไหม  ไม่แพงซ่อมเอง  อะไหล่แพงไหม ไม่แพง สั่งเอง  :))   

                    ปํญหาแก้ไม่ยาก ถ้าแก้ได้ถูกทาง   :-*  น่าใช้กินไม่จุ N42 N42  O:-)
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: yo-e46 ที่ สิงหาคม 22, 2012, 07:37:05
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
N42  O0  ซะงั้น ซ่อมแพงไหม  ไม่แพงซ่อมเอง  อะไหล่แพงไหม ไม่แพง สั่งเอง  :))   

                    ปํญหาแก้ไม่ยาก ถ้าแก้ได้ถูกทาง   :-*  น่าใช้กินไม่จุ N42 N42  O:-)
คนที่ว่าแพงก็เพราะเอาไปเปรียบกับรถยุ่นคับ แหล่งผลิตอะไหล่ก็คนละที่แล้วค่าขนส่งก็ต่างกันมันจะไปเปรียบกันได้อย่างไร เห็นด้วยกับคุณ harn ทุกอย่างครับ หาเองก็ไม่แพงซ่อมจบตรงจุดก็ไม่แพง ^_^
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: mr.oldman ที่ สิงหาคม 22, 2012, 12:32:56
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ถามพี่ oldman ต่อครับแล้วเครื่อง 325  ที่พี่ลงนี่ m54b24 หรือ m54b25 ครับผม จุกจิกต่างกับ n42 เยอะไหมครับผม???

ไม่ใช่ทั้งสองตัวครับ m52tub25 ถูกกว่าm54 25 เกือบครึ่งครับ
ผมไม่ค่อยได้ขับเร็ว แล้วได้เครื่องสวยมาครับ วิ่งไปแค่ 70000 กม
ผมยังใช้ได้อีกหลายปีเลย เพิ่งเปลี่ยนมาครับ ยังใช้ไปแค่นิดหน่อยเอง
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ สิงหาคม 22, 2012, 12:58:29
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ตลอดระยเวลาที่ใช้E 46 มา 10 ปีเต็มๆ ผมใช้เครื่อง N42 มาสองตัว
ตัวแรกติดรถมา ใช้ไป 7 ปี แรก  วิ่งไปประมาณ สี่แสนกว่า
มีอาการกินน้ำมันเครื่องมาก แก้ไม่ไหว สาเหตุเพราะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ที่ 25000 ก ม ตามสเสปคศูนย์ ก็เลยไปซื้อเครื่อง N42 พร้อมอะไหล่และอุปกรณ์จากหัวตัดมายกเปลี่ยน

เครื่องตัวใหม่ ใช้มาอีก 3 ปี  หกเดือนหลังมีอาการเครื่องสั่น แก้ไม่หาย
ทำที่ศูนย์ น่าจะหมดไป เป็นแสน ทนไม่ไหว ก็เลยต้องยกลง
เอาเครื่องหกสูบ 325  มาใส่แทน

รวมแล้วเครื่องสองตัว ใช้ไป 620000 ก ม

สำหรับเครื่อง N 42 ผมว่า ผมใช้เยอะ มีประสพการณ์
มากพอสมควรทีเดียว กับเจ้าเครื่องตัวนี้


ใช้รถมากจริงๆ ครับ แค่เครื่อง N42 ติดรถ ยังใช้ไปถึง 4 แสนกว่า Km. ( เกินคุ้ม )  ;) ;)
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: mr.oldman ที่ สิงหาคม 22, 2012, 13:54:11
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ตลอดระยเวลาที่ใช้E 46 มา 10 ปีเต็มๆ ผมใช้เครื่อง N42 มาสองตัว
ตัวแรกติดรถมา ใช้ไป 7 ปี แรก  วิ่งไปประมาณ สี่แสนกว่า
มีอาการกินน้ำมันเครื่องมาก แก้ไม่ไหว สาเหตุเพราะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ที่ 25000 ก ม ตามสเสปคศูนย์ ก็เลยไปซื้อเครื่อง N42 พร้อมอะไหล่และอุปกรณ์จากหัวตัดมายกเปลี่ยน

เครื่องตัวใหม่ ใช้มาอีก 3 ปี  หกเดือนหลังมีอาการเครื่องสั่น แก้ไม่หาย
ทำที่ศูนย์ น่าจะหมดไป เป็นแสน ทนไม่ไหว ก็เลยต้องยกลง
เอาเครื่องหกสูบ 325  มาใส่แทน

รวมแล้วเครื่องสองตัว ใช้ไป 620000 ก ม

สำหรับเครื่อง N 42 ผมว่า ผมใช้เยอะ มีประสพการณ์
มากพอสมควรทีเดียว กับเจ้าเครื่องตัวนี้


ใช้รถมากจริงๆ ครับ แค่เครื่อง N42 ติดรถ ยังใช้ไปถึง 4 แสนกว่า Km. ( เกินคุ้ม )  ;) ;)



จริงแล้ว หกไม่มีปัญหาเรื่องกินน้ำมันเครื่อง ผมถือว่าเครื่องมันอึดมากเลยครับ
เพราะวิ่งมาสี่แสนกว่า เอาเข้าศูนย์เช็คกำลังอัดกระบอกสูบ ยังแน่นครับ
แต่คิดแล้ว ยกเครื่องแพงกว่าเปลี่ยนเครื่อง ก็เลยต้องเปลี่ยนครับ
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ สิงหาคม 22, 2012, 14:04:44
ตอนป้ายแดง คงรู้สึกดีมากๆนะครับ รถใหม่ 

(http://www.scriptdd.com/_file/image/firefox-kiosk/bmw-kiosk2.jpg)

ใช้รถเยอะขนาดนี้  ( มีแต่ Taxi ควบ 2 กะ )  พี่คงไปทั่วไทยเลย วิ่งไกลตลอด  :-X
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: PiekPoon ที่ สิงหาคม 22, 2012, 16:44:19
สุดยอด...ดด พี่ๆแต่ละคน


 ;)    ;)   ;)    ;)    ;)
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: aon500 ที่ สิงหาคม 22, 2012, 20:29:37
พี่ crayonz มาปล่อยของอีกแล้ว    ;) ;) ;)

ว่างๆมาจัดอีกนะครับ   :-X :-X :-X
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: mr.oldman ที่ สิงหาคม 23, 2012, 06:02:52
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
ตอนป้ายแดง คงรู้สึกดีมากๆนะครับ รถใหม่ 

(http://www.scriptdd.com/_file/image/firefox-kiosk/bmw-kiosk2.jpg)

ใช้รถเยอะขนาดนี้  ( มีแต่ Taxi ควบ 2 กะ )  พี่คงไปทั่วไทยเลย วิ่งไกลตลอด  :-X


ครับพี่ ผมเป็นทนายความ รับงานทั่วประเทศ สมัยก่อน
ไปไหนๆก็ขับรถไปครับ หนือหรือใต้ ขับรถไปตลอด และเป็นคนที่เที่ยวเก่งมากครับ
ออกทุกเสาร์อาทิตย์  แต่สองปีล่าสุดเริ่มไม่ไหวครับ อายุมากขึ้น แล้วอีกอย่าง
ค่าน้ำมันคิดแล้วแพงกว่าค่าเครื่องบินครับ ก็เลยใช้รถน้อยลง
แต่รถผมส่วนมากร้อยละ 90 เข้าทำที่ศูนย์ครับ
ยกเว้นพวก เบรค กับพวกโช๊ก สปิง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
เฉพาะบิลที่เก็บไว้ ผมว่า น่าจะราคาพอๆกับการซื้อรถใหม่ได้อีกคันเลยครับ

ตอนนี้กำลังจะเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ป้องกันเสียงรอบๆคัน
เช็คราคา เอาแบบครบๆ น่าจะเกิน 30000 บาทครับ
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: KcKc ที่ สิงหาคม 29, 2012, 17:06:54
คอยติดตามข้อมูลใหม่
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: Krisada511 ที่ ธันวาคม 02, 2012, 12:59:57
ดันกระทู้อีกครั้ง สำหรับสมาชิกใหม่ และราคารถมือสอง ช่วงนี้ลดลงมาก  :-*
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: sak_pk ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 23:06:14
กระทู้ดี มีประโยชน์มากครับ  ;)
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: T.Tankittiphob ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2013, 23:52:22
ไม่ใช่แค่N42ที่จะได้ความรู้แต่เป็นชาวe46ทั้งหมดที่จะได้ความรู้
ขอบคุณครับ
 :-X :-X :-X
หัวข้อ: Re: *** ผมพร้อมที่จะเขียนเรื่อง N42 แล้ว ***
เริ่มหัวข้อโดย: spiritzas ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2013, 00:15:43
 ;)