555 :-[ช่วยๆๆกันคับ แจและต้อม ขอบใจมากที่ช่วยแก้ไขให้ บางครั้งเติมเข้าไปด้วยก็ดี ผมจะได้แก้ไขให้มัน อ่านเข้าใจง่ายทั้งหมดคับ

งั้นมาเริ่มทำความเข้าใจระบบเกียร์ใน การดูแลรักษาคร่าวๆๆต่อคับ
อยากให้เกียร์ออโต้เสียหายช้าๆ ทำอย่างไร? หากเกียร์ออโต้เสียแต่ละครั้ง ราคาซื้อเกียร์มือ 2 หรือซ่อม ค่าใช้จ่ายสูงพอๆๆ อีกทั้งยังหาช่างซ่อมเก่งๆ ไม่ได้ ยิ่งในต่างจังหวัดด้วยแล้วส่วนใหญ่ก็ต้องเอาเข้ามาซ่อมในเมือง สรุปแล้วเรื่องของเกียร์ออโต้เสียกลายเป็นปัญหาที่ผู้ใช้กลัวที่สุด
(เนื่องจากในไทยเราไม่มี รร.สอนช่างเกียร์อัตโนมัติ เรามีแต่ รร.สอนช่างยนต์ ในระดับเบื้องต้น ปวช. ส่วน ปวส. ก็จะไปทางเครื่องกลแล้ว ไม่มีระดับวิศวะยานยนต์)
ผู้ใช้ทั่วไปจะทำอย่างไรไม่ให้เกียร์เสียหายเร็วในคู่มือของรถแต่ละรุ่นมักจะบอกอายุการใช้งานที่ยาวนาน เช่นการถ่ายน้ำมันเกียร์จะบอกว่าตลอดชีพ โดยไม่ต้องถ่ายก็ไม่รู้จะตลอดไปกี่ปีกี่เดือน ก็ขอให้ได้เข้าใจในเรื่องของน้ำมันเกียร์กันเลยว่าสาเหตุที่เกียร์เสีย น้ำมันเกียร์จะมีส่วนอยู่มากที่สุดภายในตัวเกียร์ทั้งลูกจะมีน้ำมันอยู่ภายในจำนวนมากตั้งแต่ 8-9 ลิตรขึ้นไป แต่ทำไมเวลาถ่ายน้ำมันเกียร์น้ำมันจะออกมาได้แค่ 3-4 ลิตร ที่เหลือออกไม่ได้นั้น แน่นอนก็จะต้องไปเจือจางกับน้ำมันใหม่ที่ใส่เข้าไป และความเข้าใจก็จะคิดว่าถ่ายน้ำมันเกียร์ไปแล้วก็จะใช้ได้ต่อไปอีกหลายหมื่นกิโล ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นการเข้าใจผิดๆ เบื้องต้นน้ำมันจำนวนมากจะอยู่ได้นาน เช่น 6 หมื่นกิโลเมตร แต่เมื่อถ่ายน้ำมันเกียร์ไปแล้วอ่ายุน้ำมันจะสั้นลงทันทีสั้นลงกว่าครื่องของครั้งแรก ก็เพราะว่าน้ำมันที่ใส่ลงไปนั้นมีเพียงครึ่งหรือไม่ถึงครึ่งของทั้งหมด น้ำมันที่เสียไป ก็จะไปผสมกับน้ำมันที่มีอยู่เดิมตรงนี้เรียกว่าเจือจางเมื่อน้ำมันเจือจาง อายุน้ำมันจะสิ้นลง หากถ่ายครั้งแรกไปแล้ว ครั้งที่ 2 ก็จะต้องถ่ายเร็วกว่าอีกเท่าตัว และถ้าใช้เท่าครั้งแรกเกียร์จะเสียไปก่อนแล้ว ก่อนที่จะถึงเวลาถ่ายครั้งที่ 3
จากเรื่องของน้ำมันเกียร์ที่เป็นสาเหตุมากที่สุดจากนี้มาดูว่าน้ำมันเกียร์เสียหายได้เร็วอย่างไรบ้างในการวิ่งในเขตที่การจราจรติดขัดจะต้องออกรถบ่อยๆ ต้องหยุดรถบ่อยและเวลาหยุดรถก็มักจะเหยียบเบรคเอาไว้ ตรงนี้เองน้ำมันเกียร์จะร้อนมากสาเหตุที่ร้อนก็เพราะกลไกภายในเกิดการเสียดสี น้ำมันเกียร์ร้อนก็จะไหลเวียนไประบายความร้อนที่หม้อน้ำ น้ำก็จะร้อนไปท้ายพัดลมก็จะทำงานมากขึ้นการชดเชยรอบเครื่องก็มาก มากเพราะต้องชดเชยให้กับระบบแอร์ และระบบเกียร์ที่เราต้องเบรคเอาไว้ทั้งหมดนี้มีผลทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเร็วมาก และถ้าเราไม่รู้เลยว่าน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพจะดูอย่างไรไม่รู้ ไม่ดู ท้ายสุดเกียร์ก็จะเสียหาย น้ำมันเกียร์สีขุ่นข้น ดำคล้ำ จากผงผ้าคลั้ทไปผสมกับน้ำมันที่เสียอยู่แล้วด้วย จะไม่มีสีแดง (ตระกูล Dexron ) เมื่อไหร่นั้นแหละน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ+ผงผ้าคลั้ทไปแล้ว และเมื่อรู้ว่าน้ำมันเกียร์ขุ่นขั้น ดำคล้ำ เมื่อนั้นเกียร์ของเราอาจเสียหายได้
น้ำมันเกียร์จะต้องยอมถ่ายก่อนที่จะดำจะต้องถ่ายก่อนจะต้องล่นเวลาให้เร็วเข้ามา เช่น 2 หมื่นกิโลถ้าใช้ในเมืองผมขอถือว่าช้าไปเลย 15000 กม. ก็เปลี่ยนได้แล้วสำหรับรถใช้ทางไกลๆ ก็ยืดเวลาออกไปได้อีก เช่น 2-3 หมื่นกิโลก็ได้ เอาละผมสรุปให้ตรงนี้คือรถเก่า แต่ถ้ารถใหม่ๆ ไม่เกิน แสน กม. ให้เขาถ่ายแต่เขาไม่ถ่ายให้เพราะไม่ถึงเวลา แต่ถ้าเราอยากจะถ่ายน้ำมันก่อนเวลา ผมว่าศูนย์เขาคงไม่ขัดข้องก็เราต้องการที่จะยืดอายุเกียร์เราต้องยอมเสียเงิน ผมว่าเรามีสิทธิ์ที่จะทำ
อายุการใช้งานของน้ำมันเกียร์ ก็เหมือนกับหลักเกณฑ์อื่นๆทั่วไป โดยขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานว่าเป็นรูปแบบใด ใช้งานบ่อยแค่ไหน การใช้งานหนักเท่าไร แต่ระยะเวลามาตราฐานก็จะอยู่ประมาณ 20,000 - 40,000 กิโลเมตร บางคนอาจจะบอกว่า 50,000-60,000 กิโลเมตร อันนี้ก็ไม่ได้บอกว่าผิด สำหรับรถที่ใช้งานปกติทั่วไป และเข้าเช็คสภาพทุกระยะ แต่ถ้าเป็นรถที่ใช้งานหนัก เช่นรถที่วิ่งในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น หรือ รถที่ใช้ งานในบริเวณความเร็วสูงกันบ่อยๆแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์จะแนะนำให้เปลี่ยน เร็วขึ้นกว่านี้อีกคับ ถึงแม้นจะเป็นรถเดิมมาตราฐานโรงงาน เพราะการใช้งานที่ระดับ ความเร็ว 150-200 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง หรือใช้ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นบ่อยๆ ก็เกิดปัญหาการใช้งานขึ้นได้ เพราะอุณหภูมิของ น้ำมันเกียร์อาจสูงขึ้น ถึง 130 องศาเซลเซียส และจะนำมาซึ่งการเสี่อมสภาพ ที่เร็วกว่าปกติได้คับ
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ก็จะมีอยู่ 2 ประเภทคือ1. เปลี่ยนแบบธรรมดา (ตามระยะเวลาการใช้งาน)
ข้อดี ข้อเสีย
- รวดเร็ว
- ประหยัดค่าใช้จ่าย(ในระยะสั้น) - การเปลี่ยนถ่ายจะบ่อยครั้งมาก
- ใช้ปริมาณน้ำมันเกียร์น้อย - น้ำมันเกียร์เก่าจะถูกถ่ายออกได้แค่ 30%
2. เปลี่ยนแบบทั้งระบบ
ข้อดี ข้อเสีย
- ทำให้ระบบเกียร์สะอาด
- ยืดอายุการใช้งานเกียร์อัตโนมัติ/การเปลี่ยนถ่าย
- การหล่อลื่นในเกียร์อัตโนมัติทำให้สมบรูณ์ - ใช้ปริมาณน้ำมันเกียร์ที่มากกว่า ค่าใช้จ่ายสูง
สาเหตุที่ต้องบริการล้างเปลี่ยนน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ1. การเก็บปฎิกิริยาของออกซิเจน ทำให้น้ำมันเกียร์เสี่อมสภาพลง
2. การขับรถในที่มีอากาศร้อนจัด หรือใช้ความเร็วสูง การขับรถในเมือง น้ำมันเกียร์จะเสี่อมสภาพลง
3. หากน้ำมันเกียร์เสี่อมสภาพอย่างสิ้นเชิง จะเสียหายอย่างร้ายแรงต่อระบบเกียร์
4. ผงผ้าคลั้ทที่หลุดออกมาผสมกับน้ำมันเกียร์ ที่เสื่อมสภาพ จะทำให้กรองตัน แรงดันน้ำมันปั๊มจะตกลง เกียร์จะทำงานไม่ปกติ
5. การเปลี่ยนถ่าย โดยทั่วไป ทำได้เพียง40% อีก 60% ที่เสี่อมสภาพยังคงตกค้างอยู่ในระบบ
6. การล้างเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ /กรอง สามารถเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ได้ 100%
7 ทำให้คุณประหยัดค่าซ่อมได้อย่างสมบรูณ์ในระยะยาว
8. น้ำมันเกียร์จะเต็มระบบ รถเอียงขึ้นเขา ปัีมก็สามารถดูดน้ำมันได้ปกติ แรงดันน้ำมันจะได้มาตรฐาน
9.ยืดอายุการ ล้าง-เปลี่ยน ครั้งต่อไปไม่ต่ำกว่า 1 แสน กม. ( ประสพการณ์ตรง จาก 4 ปีที่แล้วที่เริ่มทำมา และได้ตรวจสอบหลายๆๆคัน ที่ผ่านมือไป เมื่อ 4 ปีที่แล้ว )
สาเหตุที่เกิดขึ้นกับเกียร์อัตโนมัติ
การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แบบปกติ น้ำมันเกียร์เก่าจะถูกถ่ายออกได้เพียง 40% ของปริมาตรทั้งหมด บางส่วนที่เหลือจะตกค้างอยู่ในออยล์คูลเลอร์ ทอร์คอนเวิร์กเตอร์ และในระบบทั้งหมด ของเกียร์ ซึ่งมีผงผ้าคลั้ทผสมกับน้ำมันเกียร์เก่า ทิ้งไว้ผสมกับน้ำมันที่ใส่เข้าไปใหม่ ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานและ ประสิทธิภาพของเกียร์ เนื่องจากแรงดันน้ำมันเกียร์ตก ไม่ได้ค่าที่ทำงานที่ดีที่สุด จนถึงจังหวะของการเปลี่ยนเกียร์จะไม่แม่นยำ
สมาชิกทุกๆท่านมาเสริมความเข้าใจในกระทู้ได้เลยคับ เพื่อเพิ่มความรู้กัน บางข้อความผมก็เอามาจากที่อื่น และแก้ไขให้ตรงตามยุคคับ