[tongmobile]

ตามหัวข้อครับ ตอนเช้าสตาร์ทครั้งเดียวติดครับ แต่ พอวิ่งใช้งานแล้วจอดดับเครื่อง ประมาณ 20-30 นาที มาสตาร์ทใหม่ ต้องสตาร์ทถึง สามครั้งถึงจะติดครับ
เป็นแบบนี้ทุกครั้ง แต่ถ้าจอดนานมากๆ หลายชั่วโมง ก็สตาร์ทครั้งเดียวติดเหมือนกันครับ  ใครพอรู้บ้างครับ :blur

[cyberlotus]

อาการเดียวกับผมเลยครับ
แต่ผมหนักกว่านั้น คือไม่ติดเลย จอดทิ้งไว้ ครึ่ง - 1 ชั่วโมง ยังไม่ติด
ติดอีกทีจอดทิ้งข้ามวันกันเลย รอกฤษ์ดี ไปอู่อยู่ครับ

[ยิ้มบางแสน]

อาการนี้คาดว่าพวกเซนเซอร์แน่นอนครับ

1. เซนเซอร์เพลาลูกเบี้ยว
2. เซนเซอร์เพลาข้อเหวี่ยง

ถ้าเซนเซอร์เหล่านี้เสื่อมสภาพหรือเสียปัญหาคือพอเครื่องร้อนจะสตาร์ทยาก+สตาร์ทไม่ติด เซนเซอร์พวกนี้ผมทราบมาว่าอายุมันจะอยู่ราวๆ 100,000 กม. หรือ 5-6 ปี เท่านั้น แต่เปลี่ยนก็ไม่ได้แพงมากนะครับ เปลี่ยนทั้งหมดครบเซ็ตก็ราวๆ 10,000 กว่าบาท รถผมให้ช่างเปลี่ยนเซนเซอร์ที่เกี่ยวกับเรื่องเครื่องดับทั้งหมดแล้ว สบายใจขึ้นเยอะ

ตอบตามประสบการณ์อันน้อยนิดนะครับ ผิดถูกอย่างไรขออภัยล่วงหน้าจ้า อิอิ  

[cyberlotus]

อาการนี้คาดว่าพวกเซนเซอร์แน่นอนครับ

1. เซนเซอร์เพลาลูกเบี้ยว
2. เซนเซอร์เพลาข้อเหวี่ยง

ถ้าเซนเซอร์เหล่านี้เสื่อมสภาพหรือเสียปัญหาคือพอเครื่องร้อนจะสตาร์ทยาก+สตาร์ทไม่ติด เซนเซอร์พวกนี้ผมทราบมาว่าอายุมันจะอยู่ราวๆ 100,000 กม. หรือ 5-6 ปี เท่านั้น แต่เปลี่ยนก็ไม่ได้แพงมากนะครับ เปลี่ยนทั้งหมดครบเซ็ตก็ราวๆ 10,000 กว่าบาท รถผมให้ช่างเปลี่ยนเซนเซอร์ที่เกี่ยวกับเรื่องเครื่องดับทั้งหมดแล้ว สบายใจขึ้นเยอะ

ตอบตามประสบการณ์อันน้อยนิดนะครับ ผิดถูกอย่างไรขออภัยล่วงหน้าจ้า อิอิ  

ขอบคุณครับท่าน เด๋วจะให้ช่างเช็คดูอีกรอบ

[tongmobile]

ขอบคุณครับ คุณยิ้ม ว่าแต่เซนเซอร์ ไปเปลี่ยนได้ที่ไหนครับ  :love

[ยิ้มบางแสน]

ขอบคุณครับ คุณยิ้ม ว่าแต่เซนเซอร์ ไปเปลี่ยนได้ที่ไหนครับ  :love

อยู่ชลบุรี ผมวิ่งเข้าศูนย์อย่างเดียวเลยครับ ราคานี่ไม่ต้องพูดถึง หูฉีกไปหลายรอบละ แหะๆ  :cold

[cyberlotus]

วันนี้ก็มีอาการอีกแล้วครับ พึ่งซ่อมรายการความร้อน+น้ำมันเครื่องรั่ว เสร็จขับมาจากอู่ จอดหน้าบริษัท จะย้ายรถ สตาร์ทไม่ติด อู่พี่เทพต้องเอารถมายกไปเช็คใหม่
รอดูคำตอบต่อไปว่าเกิดจากอะไร

ว่าแต่ใครแนะนำ น้ำยาล้างหัวฉีดน้ำมันได้บ้างครับ พอดีรถผมติดแก๊สแล้วช่างบอกว่า ทำให้หัวฉีดน้ำมันสกปก ต้องล้างหรือเปลี่ยน ผมเลือกที่จะล้างแต่อู่พี่แกไม่มีน้ำยาล้าง
 :indotz

[yo-e46]

หัวแดถอดมาล้างดีกว่ามั้งครับจะสะอาดกว่าลองไปร้านพี่โกวิทย์ อยู่ตรง test car ศรีนครินทร์ครับผมเคย service หลายอย่างที่ร้านแกรวมถึงล้างหัวฉีดด้วย ร้านแกไว้ใจได้และจบแน่นอนครับร้านนี้

[kosit_w]

ถ้าหัวฉีดน้ำมันตัน สตาร์ทไม่ติด แนะนำเบื้องต้นบังคับสตาร์ทแก๊สได้ครับ
โดยการกดปุ่มแก๊สค้างไว้แล้วสตาร์ทเลย โดยไม่ต้องพึ่งน้ำมันเลย  ถ้ายังไม่ติดอีกแสดงว่าไม่เกี่ยวกับหัวฉีดน้ำมันแล้วล่ะ

[cyberlotus]

หัวแดถอดมาล้างดีกว่ามั้งครับจะสะอาดกว่าลองไปร้านพี่โกวิทย์ อยู่ตรง test car ศรีนครินทร์ครับผมเคย service หลายอย่างที่ร้านแกรวมถึงล้างหัวฉีดด้วย ร้านแกไว้ใจได้และจบแน่นอนครับร้านนี้

รบกวนขอเบอร์ติดต่อได้มั้ยครับท่าน

[cyberlotus]

ถ้าหัวฉีดน้ำมันตัน สตาร์ทไม่ติด แนะนำเบื้องต้นบังคับสตาร์ทแก๊สได้ครับ
โดยการกดปุ่มแก๊สค้างไว้แล้วสตาร์ทเลย โดยไม่ต้องพึ่งน้ำมันเลย  ถ้ายังไม่ติดอีกแสดงว่าไม่เกี่ยวกับหัวฉีดน้ำมันแล้วล่ะ

อาการตอนออกจากอู่ปกติครับพอขับมาแล้วเครื่องน่าจะร้อน พอดับเครื่องแล้ว จะสตาร์ทไม่ติดเลย
เรื่องหัวฉีดสกปก พอดีผมซ่อมน้ำมันเครื่องรั่ว ช่างแจ้งมาอย่างนั้นครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ จะลองทดสอบดูครับผม  _o

[inin]

ลองทำตามผมดูมั้ยครับ ไม่มีอะไรเสีย(รวมทั้งตังค์ด้วย)แต่ถ้าหายก็มีเฮครับ
สมมุติฐานของผมคือมีช่างน้อยมากที่รู้เรื่องรถจริงๆโดยเฉพาะ e46
เราใช้รถและบำรุงรักษารถไม่ถูกต้องตามที่ควร(เพราะถ้าถูกจริงๆเราต้องเข้า 0 บริการ และตรวจเช็คโดยช่างผู้ชำนาญการ)ซึ่งเป็นไปได้ยากแต่ถ้าทำได้รับรองปัญหาจะน้อยลงไปมาก
ผมขออนุญาติยกตัวอย่างรถของคุณยิ้มที่เข้าบำรุงรักษาที่ 0 บริการตลอด ปัญหาก็จะน้อยกว่าปกติ
ยิ่งถ้าเป็นรถมือสองเราแทบจะไม่มีทางรู้เลยว่าเจ้าของเก่าทำอะไรไว้บ้าง ปัญหาทับถมมานานแค่ไหน สร้างปัญหาเพิ่มหรือเปล่า
การทำงานของรถของเครื่องยนต์เบนซินคือ ดูดอากาศและนำ้มัน ในจังหวะดูดขึ้นไปพร้อมกัน แล้วจุดระเบิด เพราะฉะนั้นรถสตาร์ทไม่ติดจึงเกิดจาก 2 อย่างคือ ไฟ และนำ้มัน ถ้าไฟมาที่หัวเทียนก็จบเรื่องไฟ ไปเช็คที่นำ้มัน (เซ็นเซอร์ต่างๆที่ทุกท่านแนะนำนั่นแหละครับ) เพราะระบบต่างๆถูกควบคุมด้วย ecu ทั้งหมด
พุดมาซะยาว(พยายามย่อแล้วน่่ะ) :indotz
ดั้งนั้น back to basic ครับ ถอด MAF ออกมาทำความสะอาด เพราะมันเป็นตัววัดปริมาณอากาศ ถ้ามันบอดมันจะไปบอกว่าไม่มีอากาศเข้ามาเลย ก็จุดระเบิดไม่ได้(ความคิดผมน่ะ)
ต่อมาก็เติมเบนซิน 95 ให้เต็มถังเลยครับ แล้วงดใช้แก๊ส(ถ้ามี) ใช้ไปเหลือ 1ใน4 แล้วเติม อย่าให้น้อยกว่านั้น เหตุผลคือ รถรุ่นนี้ใช้ e5 ได้ครับ แต่แน่นอนครับว่าตอนที่ วิศวกรที่สร้างมันขึ้นมาไม่ได้คิดว่าให้มันวิ่งโดยเติม e5 แน่ๆๆ และนี่เป็นสาเหตุนึงครับที่ทำให้อะไรต่างๆมันตันเพราะ คุณสมบัติของ e5 ที่ชะล้างได้ดี ทำให้เราต้องเปลี่ยนต้องล้างในส่วนที่มันตัน
แล้ว ก็เช็คทำความสะอาดขั้วคอนแทคของเซ็นเซอร์ ต่างๆ เพราะบางทีมันไม่ได้เสียมันแค่ไม่แน่นแค่นั้น แต่ต้องหาข้อมูล diy ซึ่งมีอยู่ แล้วลงมือทำจะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น
ทั้งหมดที่ผมแนะนำเห็นมั้ยครับว่ายังไม่เสียตังค์ค่าซ่อมเลย เราขับรถที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรถที่ดี่ที่สุดในโลกยี่ห้อนึง มันไม่เสียง่ายๆหรอกครับ ถ้าเราใช้และดูแลอย่างถูกวิธี
เมื่อก่อนผมก็โดนอู่ฟันเละ แบบครั้งนึงซื้อฟีโน่ได้เลย แต่มันไม่หายนี่สิครับที่เลวร้าย ผมใช้ gt1 จับ cam sharp sensor ผมเสียมาเกือบ 2 ปีแล้วครับแต่ก็ยังไม่ได้เปลี่ยน และก็ยังไม่สร้างปํญหาให้อย่างใด รถเก่าควรเข้า 0 ครับ แต่คนไทยเราทำกลับกัน ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยครับ ขอให้หายและมีความสุขกับ e46 ครับ :bath

[tom46]

ลองทำตามผมดูมั้ยครับ ไม่มีอะไรเสีย(รวมทั้งตังค์ด้วย)แต่ถ้าหายก็มีเฮครับ
สมมุติฐานของผมคือมีช่างน้อยมากที่รู้เรื่องรถจริงๆโดยเฉพาะ e46
เราใช้รถและบำรุงรักษารถไม่ถูกต้องตามที่ควร(เพราะถ้าถูกจริงๆเราต้องเข้า 0 บริการ และตรวจเช็คโดยช่างผู้ชำนาญการ)ซึ่งเป็นไปได้ยากแต่ถ้าทำได้รับรองปัญหาจะน้อยลงไปมาก
ผมขออนุญาติยกตัวอย่างรถของคุณยิ้มที่เข้าบำรุงรักษาที่ 0 บริการตลอด ปัญหาก็จะน้อยกว่าปกติ
ยิ่งถ้าเป็นรถมือสองเราแทบจะไม่มีทางรู้เลยว่าเจ้าของเก่าทำอะไรไว้บ้าง ปัญหาทับถมมานานแค่ไหน สร้างปัญหาเพิ่มหรือเปล่า
การทำงานของรถของเครื่องยนต์เบนซินคือ ดูดอากาศและนำ้มัน ในจังหวะดูดขึ้นไปพร้อมกัน แล้วจุดระเบิด เพราะฉะนั้นรถสตาร์ทไม่ติดจึงเกิดจาก 2 อย่างคือ ไฟ และนำ้มัน ถ้าไฟมาที่หัวเทียนก็จบเรื่องไฟ ไปเช็คที่นำ้มัน (เซ็นเซอร์ต่างๆที่ทุกท่านแนะนำนั่นแหละครับ) เพราะระบบต่างๆถูกควบคุมด้วย ecu ทั้งหมด
พุดมาซะยาว(พยายามย่อแล้วน่่ะ) :indotz
ดั้งนั้น back to basic ครับ ถอด MAF ออกมาทำความสะอาด เพราะมันเป็นตัววัดปริมาณอากาศ ถ้ามันบอดมันจะไปบอกว่าไม่มีอากาศเข้ามาเลย ก็จุดระเบิดไม่ได้(ความคิดผมน่ะ)
ต่อมาก็เติมเบนซิน 95 ให้เต็มถังเลยครับ แล้วงดใช้แก๊ส(ถ้ามี) ใช้ไปเหลือ 1ใน4 แล้วเติม อย่าให้น้อยกว่านั้น เหตุผลคือ รถรุ่นนี้ใช้ e5 ได้ครับ แต่แน่นอนครับว่าตอนที่ วิศวกรที่สร้างมันขึ้นมาไม่ได้คิดว่าให้มันวิ่งโดยเติม e5 แน่ๆๆ และนี่เป็นสาเหตุนึงครับที่ทำให้อะไรต่างๆมันตันเพราะ คุณสมบัติของ e5 ที่ชะล้างได้ดี ทำให้เราต้องเปลี่ยนต้องล้างในส่วนที่มันตัน
แล้ว ก็เช็คทำความสะอาดขั้วคอนแทคของเซ็นเซอร์ ต่างๆ เพราะบางทีมันไม่ได้เสียมันแค่ไม่แน่นแค่นั้น แต่ต้องหาข้อมูล diy ซึ่งมีอยู่ แล้วลงมือทำจะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น
ทั้งหมดที่ผมแนะนำเห็นมั้ยครับว่ายังไม่เสียตังค์ค่าซ่อมเลย เราขับรถที่ขึ้นชื่อว่าเป็นรถที่ดี่ที่สุดในโลกยี่ห้อนึง มันไม่เสียง่ายๆหรอกครับ ถ้าเราใช้และดูแลอย่างถูกวิธี
เมื่อก่อนผมก็โดนอู่ฟันเละ แบบครั้งนึงซื้อฟีโน่ได้เลย แต่มันไม่หายนี่สิครับที่เลวร้าย ผมใช้ gt1 จับ cam sharp sensor ผมเสียมาเกือบ 2 ปีแล้วครับแต่ก็ยังไม่ได้เปลี่ยน และก็ยังไม่สร้างปํญหาให้อย่างใด รถเก่าควรเข้า 0 ครับ แต่คนไทยเราทำกลับกัน ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยครับ ขอให้หายและมีความสุขกับ e46 ครับ :bath

เห็นด้วยครับ รถเก่าเราควรเอาเข้าศูนย์ครับ สำหรับการบำรุงรักษาทั่วไป นอกจากว่าจะใส่อุปกรณ์ตกแต่งเข้าไปเพิ่มก็อีกเรื่อง และที่สำคัญเวลาเคสไม่จบเรายังหาคนรับผิดชอบได้ อย่างของผมมีอยู่เคสนึงทำอยู่ 3-4 รอบ ไม่หาย สุดท้ายต้องให้บีเอ็มไทยแลนด์ส่งคนมาดูถึงจะจบ

[ยิ้มบางแสน]

เรื่องเข้าศูนย์ผมเข้าไปบ่อยครับ สาเหตุก็เพราะอยากให้รู้ไปเลยว่ารถเรามันถูกดองอะไรไว้มั่ง ยอมแลกกับค่าใช้จ่าย 15x,xxx บาท จนทุกวันนี้ผ่านมาจะ 5 เดือน รถไม่มีอะไรให้กวนใจอีกแล้ว จะเหลือแต่เรื่องแอร์ที่ยังไม่ได้แตะต้องและศูนย์เขาก็เช็คให้แล้วว่ายังไม่มีอะไรผิดปกติ ช่างที่ศูนย์เองก็เคยเปิดใจนั่งคุยกันว่า รถรุ่นนี้อายุเริ่มมากและเป็นตัวที่ปัญหาค่อนข้างเยอะ อาจจะมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ก็คงต้องทำใจสบายๆ อย่าคิดมาก แต่ถ้าคิดมากก็ขับเข้ามาที่ศูนย์เขายินดีทำให้ทุกอาการ ที่สำคัญคือมีประกันการซ่อมตามที่คุณ tom46 บอกครับ ผมได้ประกันเหล่านั้นมาหลายครั้งแล้ว

เข้าศูนย์แพงครับ อันนี้ปฏิเสธไม่ลง แต่ตามที่ผมเคยเสนอไปก่อนหน้านี้คือ ถ้างบจำกัดผมอยากให้กัดฟันเข้าไปเช็คที่ศูนย์หลังได้รถมาซะก่อน ค่าใช้จ่ายแค่ 1,900 บาท แล้วให้ทางศูนย์เสนอราคาค่าซ่อมทุกอย่างที่เสียให้ จากนั้นเราจะมาวิ่งซ่อมอู่นอกทีหลังก็ได้ครับ (ถ้าศูนย์ไหนไม่รับเช็ค ให้ขับมาศูนย์ BMW ชลบุรีครับ เขารับแน่นอน บอกคุณบุรินทร์แนะนำมา เขารู้จักผมดีทีเดียว) ในความรู้สึกผม ผมว่าเจ้า E46 ตัวนี้หนีศูนย์ไม่พ้นจริงๆ เพราะระบบต่างๆ มันก้าวหน้าจนทำให้เรายังต้องกลับไปให้ศูนย์แก้ไขให้ในบางอย่างอยู่ (ไม่ต้องพูดถึงตัวใหม่ๆ ก่วา E46 นะครับ รับรองอนาคตแทบขาดศูนย์บริการไม่ได้เลย ไม่เข้ามากก็เข้าน้อย)

ผมอาจจะโชคดีอย่างหนึ่งครับ นั่นคือผมศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนซื้อ ไม่ใช่ศึกษาการซ่อมนะครับ แต่ศึกษาว่าจะต้องเตรียมงบไว้ซ่อมเท่าไหร่ อ่านรีวิวหลายๆ ท่าน อย่างเช่นพี่ Krisada511 ไอดอลแมนของผมบอกเตรียมไว้สัก 1-2 แสน ผมก็เตรียมไว้ตามนั้น วันที่ไปซื้อรถบอกตรงๆ ดูแค่สี กับทะเบียน เท่านั้น เท่านั้นจริงๆ ชอบก็ซื้อเลยครับ และงบที่เตรียมไว้ก็ได้ใช้จริงๆ ฮ่าๆ

 :bye

[X-talize]

มาอีกอาการ ครับ สตาร์ทยาก
โดย tongmobile » พุธ พ.ค. 09, 2012 5:15 pm

ตามหัวข้อครับ ตอนเช้าสตาร์ทครั้งเดียวติดครับ แต่ พอวิ่งใช้งานแล้วจอดดับเครื่อง ประมาณ 20-30 นาที มาสตาร์ทใหม่ ต้องสตาร์ทถึง สามครั้งถึงจะติดครับ
เป็นแบบนี้ทุกครั้ง แต่ถ้าจอดนานมากๆ หลายชั่วโมง ก็สตาร์ทครั้งเดียวติดเหมือนกันครับ ใครพอรู้บ้างครับ
tongmobile
พลทหาร
 
โพสต์: 5
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 30, 2012 6:55 pm
ข้างบน

อาการคล้ายๆปั๊มติ๊กน่าจะอยากกลับบ้านเก่าแล้ว
เครื่องร้อนๆมาจะสตาร์ทไม่ติด แต่พอทิ้งไว้ให้เย็นแล้วก็ปกติ
เคยเจอในรถเก่า e36 ครับตอนนั้นเป็นหนัก ดับกลางอากาศเลย
ถ้ามีแก๊สก็สตาร์ทแก๊สใช้ไปก่อนได้ไม่หนักหนาครับ
ว่างๆ ก็หามือสองมาเปลี่ยนได้ อยู่ใต้เบาะหลังด้านขวา
หรือหากคันไม้คันมือก็หาตัวปั๊มของ เครื่องเจมาเปลี่ยนได้ แรง ทน และถูก
มี DIY ของ e36 เขาทำไว้ลองหาดูได้ครับ

[X-talize]

หากเป็นปั๊มติ๊กก็ลองตามดูลิงค์ของรุ่พี่ e36ได้ครับ
ไม่อนุญาตให้คุณมองเห็นลิงค์ สมัครสมาชิก หรือ ล็อกอิน
 :hmmm